งบลับพ่นพิษ! ป.ป.ช.ตั้งอนุฯ ไต่สวนบัญชีทรัพย์สิน “เฉลิม อยู่บำรุง” สมัยนั่ง “จับกัง 1” เผยยังไม่ชัดมีส่วนไหนกระทำผิด ชี้มีการส่งเรื่องไปยัง “สตง.-สำนักงบประมาณ” ให้ไปดูรายละเอียดงบลับของกระทรวงแรงงาน ตั้งแต่ช่วง พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ นั่ง รมว.แรงงาน ก่อนเปลี่ยนมาเป็น พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ในปัจจุบัน
วันนี้ (5 ม.ค.) มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และอดีต รมว.แรงงาน จากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีข้อสงสัยบางประการในการยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งล่าสุด
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวยอมรับว่า การตั้งคณะอนุกรรมการฯชุดนี้ขึ้นมาก็ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ว่าตรวจสอบทรัพย์สินส่วนไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายงบประมาณลับของกระทรวงแรงงานจำนวนหลายสิบล้านบาท ช่วงที่ ร.ต.อ.เฉลิม ดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงานหรือไม่นั้น ยอมรับว่ายังไม่สามารถระบุได้ว่าทรัพย์สินส่วนใด หรือได้มาช่วงเวลาไหนที่ผิดปกติ ต้องรอผลตรวจสอบของคณะอนุกรรมการไต่สวนก่อน ซึ่งตอนนี้ดำเนินการไต่สวนมาได้สักระยะแล้ว
มีรายงานว่า เว็บไซต์สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่เรื่องนี้ว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบพบว่ากระทรวงแรงงานในยุคดังกล่าวได้นำเงินจากหน่วยงานในสังกัดมาใช้จ่ายในลักษณะการตั้งงบราชการลับอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง วงเงินหลายสิบล้านบาท สตง.จึงได้เข้ามาตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกว่างบลับดังกล่าวถูกเบิกไปใช้จ่ายในเรื่องอะไร และใครที่ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ได้รับเงินไปบ้าง
สำนักข่าวอิศราอ้างแหล่งข่าวระดับสูงว่า กระทรวงแรงงานมีการตั้งงบราชการลับไว้ใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จริง โดยตั้งมาแต่งตั้งช่วงปี 2554 ในรูปแบบของเงินกองทุนเพื่อใช้สำหรับการตรวจสอบข้อมูลแรงงานนอกระบบ วิธีการใช้เงินจะมีการขอให้ออกเป็นมติรับรองอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่แค่ยุคของร.ต.อ.เฉลิมเพียงคนเดียว
"สำหรับการใช้จ่ายเงินงบลับในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในช่วงที่เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พบว่าได้รับอนุมัติเงินไปทั้งสิ้น 2 ครั้ง คือ ในปี 2555 จำนวน 5 แสนบาท และในช่วงปี 2557 ที่เป็นช่วงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) จำนวน 6,400,000 บาท"
สำนักข่าวแห่งนี้ยังระบุบทสัมภาษณ์ของ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยุค คสช.คนแรกด้วยว่า ในช่วงที่ พล.อ.สุรศักดิ์ เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรง ได้มีการเสนอขอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้มีการตั้งงบส่วนนี้ให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ในระหว่างปฏิบัติภารกิจพิเศษ
“ผมเพิ่งเห็นข่าวเรื่องงบลับของกระทรวงแรงงานจากอิศราเหมือนกัน แต่ข้อมูลในช่วงก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง เขาทำกันอย่างไร ผมไม่ทราบแต่ในช่วงที่ผมเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ได้มีการตั้งงบส่วนนี้ ขึ้นมาใช้ในภารกิจของเจ้าหน้าที่เพื่อทำงานตรวจสอบข้อมูลแรงงานเถื่อน เพราะเวลาเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข้อมูลต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าแหล่งข่าวบ้าง ทำงานกัน 24 ชั่วโมง จะมารอเบิกงบประมาณปกติคงไม่ไหว ซึ่งตอนนี้ก็มีการทำงานเรื่องแรงงานประมง 22 จังหวัด และการค้ามนุษย์กันอยู่”
พล.อ.สุรศักดิ์ ยังกล่าวถึงรายละเอียดการใช้จ่ายงบลับในยุคปัจจุบัน (ช่วงนั้น) ว่า ยอดเงินที่ตั้งไว้มีจำนวนไม่มาก เป็นของสำนักงานปลัดจำนวน 2 ล้าน และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน 2 ล้าน เฉลี่ยใช้ทั้งปี เดือนหนึ่งก็ตกประมาณ 100,000-200,000 บาท ส่วนในยุคก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง มีการใช้จ่ายงบลับอย่างไร “ผมไม่ทราบรายละเอียด แต่ในยุคที่ผมเป็นรัฐมนตรีไม่เคยได้ใช้เงินส่วนนี้”
ส่วนจะมีการตรวจสอบพบข้อมูลว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้รับงบส่วนนี้ด้วยเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท พล.อ.สุรศักดิ์ตอบว่า “ผมไม่ทราบ เพราะเป็นการตรวจสอบของ สตง. ที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูลตามปกติ และมีการรายงานไปที่ทางนายกรัฐมนตรี ตามภารกิจของเขา ไม่ได้แจ้งมาทางกระทรวงโดยตรง” ต่อคำถามที่ว่าจะเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตนเองหรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์ตอบว่า “เมื่อปรากฏเป็นข่าวขึ้นมาก็คงต้องเข้าไปดูว่าที่ผ่านมาเขาใช้เงินกันอย่างไร ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งก็คงเป็นเรื่องที่ สตง.และเจ้าหน้าที่สำนักงานประมาณจะต้องไปพูดคุยกัน”
มีการตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งงบลับของกระทรวงแรงงานถือเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะหน่วยงานแห่งนี้ไม่ใช่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้กระทำความผิดในคดีอาชญากรรมเหมือนตำรวจ แต่เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสำคัญในการดูแลเรื่องแรงงาน หากจะอ้างว่าต้องเอางบส่วนนี้ไปดูแลเรื่องแรงงานที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่น่าจะเป็นเหตุเป็นผล เพราะภารกิจนี้เป็นหน้านี้ที่ทางตำรวจที่คอยดูแลอยู่แล้ว
สำหรับกระทรวงแรงงานปัจจุบัน มี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ยังไม่พบว่าจะมีการตรวจสอบงบลับดังกล่าวในยุค ร.ต.อ.เฉลิมหรือไม่