ศาลปกครอง ไกล่เกลี่ย "ช่อง 3 - กสท." ได้ข้อยุติร่วม ย้ายอนาล็อกไปออกในช่อง 33 เอชดี และ 43 ในระบบดาวเทียม เพื่อแก้ปัญหาให้ผู้ชม หลังอนาล็อกต้องจอดำตามมติ กสท. ด้านผู้บริหารยอมรับกระทบผัง-รายได้จากโฆษณา เตรียมยื่นแผนภายใน 10 ต.ค. เพื่อได้ส่วนลด ประเมินเบื้องต้น เสียหาย 400 ล้าน
เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (8ต.ค.) คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายดนัย ศรีโมรา ตุลาการเจ้าของสำนวน ได้ออกนั่งบัลลังก์ เริ่มไต่สวนในคดีที่บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ยื่นฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กรณีกสท. มีมติให้โครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมต้องระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 อนาล็อก ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ช่อง 3 จอดำในโครงข่ายเคเบิล และดาวเทียม
การไต่สวนครั้งนี้ ผู้บริหารและทีมกฎหมายของช่อง 3 ชุดเดิม ที่ประกอบด้วย นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมายบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้เข้าให้ข้อมูลต่อศาลเช่นเดิม ขณะที่ฝ่าย กสท. ก็มีกรรมการ 3 คน ประกอบด้วย พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ที่เป็นเสียงข้างมากของมติกสท.ดังกล่าว เข้าให้ถ้อยคำ
การไต่สวนเพิ่มเติมครั้งนี้ เป็นการไต่สวนหลังจาก เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ตามมติ กสท. ที่ให้โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิ้ล ระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 ในระบบอนาล็อก ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ออกไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น. เพื่อให้คู่กรณีสองฝ่ายได้เจรจากัน ในการนำสัญญาณของช่อง 3 ในระบบอนาล็อกไปออกคู่ขนานในระบบดิจิตอล แต่จนกระทั่งวันที่ 6 ต.ค. ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ และกสท. ได้มีมติให้ยึดตามมติ กสท.วันที่ 29 ก.ย. ที่ระบุว่า แนวทางการออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 โดยให้บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ได้รับ ใบอนุญาตช่องดิจิตอล ยื่นผังรายการออกอากาศของ ช่อง 3 ระบบอนาล็อก มาให้กสท. พิจารณา หากช่อง 3 มีปัญหาข้อสงสัยเพิ่มเติมให้หารือกับสำนักงาน กสทช. และให้พิจารณาตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตดิจิตอล โดยกสท.จะไม่หารือกับช่อง 3 อีก ส่งผลให้ช่อง 3 ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลเพิ่มเติม โดยอ้างว่า การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ จึงขอยืดเวลาให้ออกอากาศระบบอนาล็อก บนโครงข่ายดาวเทียม-เคเบิ้ลต่อไปก่อน จากเดิมที่ศาลมีคำสั่งทุเลาคำสั่งของ กสท.ในวันที่ 11 ต.ค. นี้
**ศาลให้กสท.เตรียมข้อมูล 4ประเด็น
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า หนังสือที่ศาลปกครองมีถึง กสท. เพื่อให้เข้าให้ข้อมูลในครั้งนี้ ได้ขอให้กสท. เตรียมข้อมูลใน 4 ประเด็นประกอบด้วย
1. วัตถุประสงค์ในการออกประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 55
2. ตามที่ กสท.มีมติในการประชุมครั้งที่ 4 /2557 เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เห็นชอบให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงฯ สิ้นสุดการทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบกิจการฟรีทีวี นับตั้งแต่วันเริ่มต้นแพร่ภาพออกอกาศในระบบดิจิตอลแล้ว 30 วัน มีผลทำให้ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ประเภทใด
3. ตามที่ กสท. มีมติในการประชุม วันที่ 8 ก.ย. และมีคำสั่งตามหนังสือของคณะกรรมการ กสทช. ผู้ถูกฟ้องที่ 1 มิให้ผู้รับใบอนุญาตให้บริการในโครงข่ายกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบอนาล็อก ที่ กสท.มีมติให้สิ้นสุด การทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป 2555 ออกอากาศผ่านโครงการข่ายกิจการโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช่คลื่นความถี่ของผู้รับอนุญาตภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งดังกล่าว เป็นการมีมติ และมีคำสั่ง โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติกฎหมายฉบับใด
4. ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งทุเลา การบังคับตามคำสั่งทางปกครองพิพาทเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ หรือ แก่การบริการสาธารณะ อย่างไร
**ไกล่เกลี่ยช่อง 3-กสท.ได้ข้อยุติร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการไต่สวนนานกว่า 5 ชั่วโมง พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสท. พร้อมด้วย นายนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ได้แถลงร่วมกัน ถึงผลการหารือต่อหน้าคณะตุลาการ โดย น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า ศาลได้เจรจาไกล่เกลี่ยในประเด็นที่เป็นปัญหาโดยคู่กรณีได้ตกลงกันได้ว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศโทรทัศน์ในระบบอนาล็อก ไปสู่ระบบดิจิตอล เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ปฏิบัติ ต่อผู้ประกอบการโทรทัศน์ในระบบอนาล็อกทุกราย กสท.จึงเห็นด้วยที่จะพิจารณาอนุมัติให้ บริษัท บีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด ร่วมกับบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด นำรายการช่อง 3 ระบบอนาล็อก ไปออกอากาศแบบคู่ขนาน ( Simulcast)ในช่อง 33 เอชดี แบบช่อง 7 และ ช่อง 9 ภายใต้ประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำข้อตกลงนี้ ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ภายในวันที่ 10 ต.ค. 57 นี้ ทั้งนี้ บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จะต้องปฏิบัติตามระเบียบภายในวันที่ 10 ต.ค. เวลา 12.00 น.
ทั้งนี้ น.ส.สุภิญญา อธิบายว่า ในวันที่ 10 ต.ค. ทางช่อง 3 จะต้องยื่นรายละเอียดของผังรายการ ในระบบอนาล็อก ที่จะนำไปออกอากาศคู่ขนานในช่อง 33 เอชดี ให้กับทางกสท. พิจารณา เพื่อที่จะได้รับการพิจารณาลดค่าธรรมเนียม 4 เปอร์เซ็นต์ จากราคาการประมูลอย่างเช่นที่ช่องอื่นได้ทำก่อนหน้านี้ ส่วนการออกอากาศคู่ขนาน อย่างช้าก็น่าจะเป็นไม่เกิน 12.00 น. ของวันเสาร์ที่ 11 ต.ค. ซึ่งการเจรจาครั้งนิ้ ถือว่าเป็นการจบลงด้วยดี โดยศาลก็ได้ให้ทั้งสองฝ่ายคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณะ ซึ่งในส่วนของช่อง 3 ที่ก่อนหน้านี้อ้างว่าไม่สามารถออกคู่ขนานได้เพราะมีปัญหาเรื่องนิติบุคคล และกฎหมาย ศาลก็ช่วยไกล่เกลี่ยจนจบลงได้
"พูดง่ายๆ ให้เข้าใจว่ายังเป็นไปตามคำสั่ง กสท. ที่เมื่อถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.00 น. คนที่ดูช่อง 3 ในเคเบิ้ล และดาวเทียม จะจอดำ แต่เพื่อหาทางออกให้กับผู้ชมคนที่ติดกล่องดิจิตอล ก็ย้ายไปดูอนาล็อกได้ในช่อง 33 เอชดี ส่วนคนที่ติดดาวเทียม ก็ไปดูอนาล็อกที่ช่อง 43 แต่คนที่บ้านยังใช้หนวดกุ้งก็ยังสามารถดูช่อง 3 อนาล็อกได้ตามปกติ " น.ส.สุภิญญา กล่าว และว่าในส่วนของคดีที่ช่อง 3 ฟ้อง กสท. นั้นก็มีแนวโน้มว่า ช่อง 3 จะยื่นถอนฟ้อง แต่เบื้องต้นยังถือว่า คดียังมีอยู่ ส่วนที่ศาลจะเรียกไต่สวนคดีที่บริษัทเคเบิ้ล ฟ้องกสท.ไว้ในกรณีเดียวกันในวันนี้ (9 ต.ค.) นั้น ศาลได้แจ้งว่า จะแจ้งคู่กรณีทราบถึงผลการเจรจาของวันที่ 8 ต.ค. และคงไม่มีการไต่สวน
ด้านสุรินทร์ ยอมรับว่า จากนี้ทางผู้บริหาร ก็จะไปหารือถึงผังรายการที่จะต้องไปจัดใหม่ ซึ่งก็อยากนำผังของระบบอนาล็อก ไปใส่ในช่อง 33 เอชดี ทั้งหมด แต่อาจทำไม่ได้ คงต้องเป็นบางรายการ เพราะ ช่อง 33 เอชดี ก็มีรายการเดิมอยู่แล้ว ซึ่งการออกคู่ขนาน มีผลกระทบต่อแผนโฆษณา และผลประกอบการของบริษัทบีอีซีเวลิ์ด จำกัด (มหาชน) แต่จะเท่าไร ไม่อยากพูด อยากให้มองเป็นเรื่องการคำนึงถึงผู้ชม เพราะช่อง 3 ก็มีนโยบายสนับสนุนการดำเนินการสนับสนุนนโยบายของรัฐ ในการเปลี่ยนผ่านการออกอากาศในระบบอนาล็อก ไปสู่ดิจิตอลอยู่แล้ว ส่วนการถอนฟ้องคดี ก็น่าจะมีการดำเนินการได้ต่อไป
นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) ด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า จากการตกลงกับ ช่อง3 ในครั้งนี้ ที่สามารถตกลงกันได้รู้ผล เนื่องจากว่า ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตกลงกันเป็นที่รู้ผล จากเดิมที่ช่อง 3 ยอมออกอากาศคู่ขนานในลักษณะรับและส่งต่อสัญญาณ (เรียลไทม์ พาร์ทู) เปลี่ยนเป็นการออกอากาศคู่ขนานแบบ 2 ช่องพร้อมกัน (ไซมอนแคส) เช่นเดียวกัน ช่องอนาล็อกอื่นๆ ที่ออกอากาศคู่ขนาน ซึ่งการออกอากาศคู่ขนาน จะส่งผลให้ช่อง 3 ไม่ติดขัดปัญหาเรื่องนิติบุคคล ระหว่าง 2 บริษัท ตามกฎ กสทช. ส่วนปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์รายการ ทางช่อง 3 ได้ชี้แจงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. และกรรมการ กสท. ด้านกำกับดูแลเนื้อหาและผังรายการ กล่าวว่า การที่ช่อง 3 และ กสท. สามารถหาข้อตกลง ส่วนหนึ่งมาจากการไกล่เกลี่ยของศาลปกครองในทุกประเด็น ที่รับฟังปัญหาแต่ละฝ่าย เพื่อชี้แจงให้อีกฝ่ายรับทราบด้วยความเป็นธรรม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องนิติบุคคลของ ช่อง 3 ทั้งนี้ จากการที่ศาลนัดหารือเพิ่มเติม หรือในคดีอื่นที่เกี่ยวข้องกับการที่ ช่อง 3 จอดำ เช่น กรณี 5 บริษัท เคเบิ้ลทีวี ฟ้องกสท. คงไม่มีผลในตัวคดีอีก
** ช่อง 3 อ้างเสียหาย 400 ล้าน
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือ ช่อง3 กล่าวว่า การที่ช่อง 3 ยอมออกอากาศในครั้งนี้ มาจากการที่ กสท. อนุมัติให้ช่อง 3 อนาล็อก ได้ออกอากาศคู่ขนานบนทีวีดิจิตอลแบบไซมอนแคส เช่นเดียวกับ ช่อง7 และช่อง 9 ส่งผลให้ช่อง 3 ไม่ติดขัดเรื่องปัญหานิติบุคคลระหว่างบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ และบริษัท บีอีซี มัลติมีเดีย
"ที่เรายอม เพราะเราเห็นความสำคัญในการช่วยรัฐเปลี่ยนผ่านจากทีวีอนาล็อก ไปยังทีวีดิจิตอล ผ่านการออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3” นายสุรินทร์กล่าว และว่าขั้นตอนต่อจากนี้ ช่อง 3 จะกลับไปจัดทำผังรายการใหม่ โดยการนำช่อง 3 อนาล็อก ไปใส่ยังช่อง 3 เอชดี บนทีวีดิจิตอล ซึ่งการจัดทำผังใหม่ ทางช่อง 3 ต้องคำนึงถึงผู้ผลิตรายการที่ปัจจุบันทำให้แก่ช่อง 3 เอชดี หลังต้องยุบผังช่อง 3 เอชดี ทั้งหมด โดยช่อง 3 จะดำเนินการเจรจากับผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวเพื่อนำรายการของผู้ประกอบการบางส่วนไปลงช่อง 3 เอชดี และ ช่อง 3 แฟมิลี เพราะจะมีเพียงบางรายเท่านั้น ที่อาจจะได้อยู่บนช่อง 3 เอชดีต่อ
ทั้งนี้ การส่งผังรายการ คาดว่า สามารถส่ง กสท.ได้ ก่อน 12.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค. พร้อมทั้งดำเนินการออกอากาศคู่ขนาน ในระบบทีวีดิจิตอลทันที หลังเวลา 12.00 น.
นายสุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ในด้านความเสียหายจากการออกอากาศคู่ขนานในส่วนของบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ หรือ ช่อง3 อนาล็อก คาดจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นการยกโฆษณาที่มีอยู่ปัจจุบันไปทั้งหมด แต่ในส่วนของ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ที่บริหารจัดการช่อง 3 บนทีวีดิจิตอล อาจได้รับผลกระทบแผนธุรกิจที่เปลี่ยนไป และจากช่องรายการที่ลดลงจาก 3 ช่อง เหลือ 2 ช่อง
ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหาย เบื้องต้นของ บีซีอี เวิลด์ ที่ต้องรับภาระเอง คาดอยู่ที่ราว 400 ล้านบาท จากปัจจัยช่องรายการลดน้อยลง ส่งผลให้สามารถหารายได้ได้น้อยลง ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าใบอนุญาต และค่าเช่าโครงข่าย รวมทั้งค่าเยียวยาความเสียหายด้านลิขสิทธิ์ ในส่วนต่างๆ