“ศาลปกครองกลาง” นั่งบัลลังก์ไต่สวนเพิ่มเติม “ช่อง 3” จอดำ ลุ้นขยายเวลาแพร่ระบบแอนะล็อกต่อไปหรือไม่ ขณะที่ศาลตั้ง 4 ประเด็นถาม กสท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (8 ต.ค.) คณะตุลาการศาลปกครองกลาง โดยนายดนัย ศรีโมรา ตุลาการเจ้าของสำนวนได้ออกนั่งบัลลังก์เริ่มไต่สวนในคดีที่บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ผู้ประกอบกิจการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กรณี กสท.มีมติให้โครงข่ายเคเบิลและดาวเทียมต้องระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 แอนะล็อกตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ช่อง 3 จอดำในโครงข่ายเคเบิล และดาวเทียม การไต่สวนครั้งนี้ผู้บริหารและทีมกฎหมายของช่อง 3 ชุดเดิมที่ประกอบด้วย นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3, นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมายบริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้เข้าให้ข้อมูลต่อศาลเช่นเดิม ขณะที่ฝ่าย กสท.มีกรรมการ 3 คน ประกอบด้วย พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ, นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ที่เป็นเสียงข้างมากของมติ กสท.ดังกล่าวเข้าให้ถ้อยคำ
โดยการไต่สวนเพิ่มเติมครั้งนี้เป็นการไต่สวนหลังจากเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ตามมติ กสท.ที่ให้โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิ้ล ระงับการเผยแพร่สัญญาณของช่อง 3 ในระบบแอนะล็อกตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.ออกไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น. เพื่อให้คู่กรณีสองฝ่ายได้เจรจากันในการนำสัญญาณของช่อง 3 ในระบบแอนะล็อกไปออกคู่ขนานในระบบดิจิตอล แต่จนกระทั่งวันที่ 6 ต.ค.ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ และกสท.ได้มีมติให้ยึดตามมติ กสท.วันที่ 29 ก.ย.ที่ระบุว่า แนวทางการออกอากาศคู่ขนานของช่อง 3 โดยให้บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ได้รับใบอนุญาตช่องดิจิตอล ยื่นผังรายการออกอากาศของ ช่อง 3 ระบบแอนะล็อกมาให้ กสท.พิจารณา หากช่อง 3 มีปัญหาข้อสงสัยเพิ่มเติมให้หารือกับสำนักงาน กสทช. และให้พิจารณาตามเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตดิจิตอล โดย กสท.จะไม่หารือกับช่อง 3 อีก ส่งผลให้ช่อง 3 ต้องนำคดีมาฟ้องต่อศาลเพิ่มเติม โอยอ้างว่าการเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ จึงขอยืดเวลาให้ออกอากาศระบบอนาล็อกบนโครงข่ายดาวเทียม-เคเบิลต่อไปก่อน จากเดิมที่ศาลมีคำสั่งทุเลาคำสั่งของ กสท.ในวันที่ 11 ต.ค.นี้
ทั้งนี้มีรายงานว่า หนังสือที่ศาลปกครองมีถึง กสท.เพื่อให้เข้าให้ข้อมูลในวันนี้ ได้ขอให้ กสท.เตรียมข้อมูลใน 4 ประเด็นประกอบด้วย 1. วัตถุประสงค์ในการออกประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2555
2. ตามที่ กสท.มีมติในการประชุมครั้งที่ 4 /2557 เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เห็นชอบให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงฯ สิ้นสุดการทำหน้าที่เป็นผู้ประกอบกิจการฟรีทีวี นับตั้งแต่วันเริ่มต้นแพร่ภาพออกอกาศในระบบดิจิตอลแล้ว 30 วัน มีผลทำให้ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวเป็นผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ประเภทใด 3. ตามที่ กสท.มีมติในการประชุมวันที่ 8 ก.ย. และมีคำสั่งตามหนังสือของคณะกรรมการ กสทช. ผู้ถูกฟ้องที่ 1 มิให้ผู้รับใบอนุญาตให้บริการในโครงข่ายกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบอนาล็อก ที่ กสท.มีมติให้สิ้นสุด การทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโทรทัศน์ที่เป็นการทั่วไป ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป 2555 ออกอากาศผ่านโครงการข่ายกิจการโทรทัศน์ สำหรับกิจการที่ไม่ใช่คลื่นความถี่ของผู้รับอนุญาตภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งดังกล่าวเป็นการมีมติ และมีคำสั่ง โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติกฎหมายฉบับใด และ 4. ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งทุเลา การบังคับตามคำสั่งทางปกครองพิพาทเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐ หรือแก่การบริการสาธารณะอย่างไร