พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) และกรรมการประชาคมสาธารณสุข กล่าวถึง กรณีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งเป็นรายชื่อที่มีการหารือร่วมกันระหว่างข้าราชการฝ่ายการเมือง และข้าราชการฝ่ายประจำแล้ว แต่ไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า เท่าที่ทราบคือ เอกสารรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายได้นำส่งเข้า ครม.แล้ว แต่ไม่ทันวาระ ส่วนจะมีการต่อรองเปลี่ยนโผ หรือเปลี่ยนรายชื่อผู้ถูกแต่งตั้งโยกย้ายอีกหรือไม่นั้น ตนไม่กังวล เพราะมีการเซ็นชื่อรับเอกสารและบรรจุลงเป็นวาระจรในการประชุม ครม.นัดถัดไปในวันที่ 7 ต.ค.แล้ว เท่ากับว่า เอกสารรายชื่ออยู่ในมือ ครม. คือ นอกกระทรวงฯ แล้วก็วางใจว่าจะไม่มีการเปลี่ยนรายชื่ออีก แต่ถามว่าระหว่างการเดินทางจากกระทรวงฯ ไปถึง ครม. จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น คงต้องรอดูในการประชุม ครม.นัดหน้า ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร
"รายชื่อโยกย้ายดังกล่าวเป็นการหารือระหว่างทีมรัฐมนตรีและทีมปลัด สธ. มีการกลั่นกรองอย่างดี ตามธรรมาภิบาล ซึ่งผู้ใหญ่คุยกันถึงขนาดนี้แล้ว มีความลงตัว และนำเข้า ครม.แล้ว ก็หวังว่าจะเป็นตามนั้น พวกเราคาดหวังมากว่า ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เราไว้ใจในตัวท่านมาก และเท่าที่รู้จักกับท่านมา ท่านก็เป็นคนมีเหตุผลมาก และยังมีคุณภาพเหมือนเดิม ไม่คิดว่าจะเอียนเองไปตามเกมที่มีคนป่วน ซึ่งคนส่วนใหญ่ในกระทรวงฯ ต้องการให้กระทรวงฯ เดินหน้า อย่างมีธรรมาภิบาล ถ้าคนส่วนน้อยคิดจะมาเปลี่ยนรายชื่อ เพื่อสนองกิเลสตัวเองนี่ไม่ใช่แค่การทำลายสังคม แต่เป็นการทำลายถึงคนไข้ด้วย" พญ.ประชุมพร กล่าว
นพ.ศิวฤทธิ์ รัศมีจันทร์ ผอ.รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก กล่าวว่า หากรายชื่อโยกย้ายที่ปรากฏตามสื่อเป็นจริง คงจะทำให้เกิดการเดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการจัดบริการแบบเขตสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นติดตามของ คสช.ต่อการดำเนินงานของ สธ. นอกจากนี้ ข่าววุ่นๆใน สธ.ยังมีต่อไปถึงการที่ยังไม่มีการออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับอำนวยการสูง ได้แก่ นพ.สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป แทนผู้เกษียณราชการในปีนี้ ซึ่งเป็นอำนาจโดยตรงของปลัด สธ. เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า คงเป็นเช่นเดียวกับการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
นพ.สุรพร ลอยหา นพ.สสจ.อุบลราชธานี ประธานชมรมสาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า ปกติคำสั่งจะต้องออกก่อนสิ้น ก.ย. เพื่อให้ผู้บริหารใหม่เข้ารับงานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เพื่อให้งานต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประกาศแผนปฏิบัติการในปีงบประมาณใหม่ของแต่ละแห่ง จำเป็นต้องให้ผู้บริหารใหม่ตัดสินใจ หากล่าช้าอาจเกิดปัญหาได้ จึงไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไร ทุกอย่างจึงช้าเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อโยกย้ายผู้บริหาร สธ.ระดับซี 10 ไม่ได้เข้าวาระการพิจารณาที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 1 ต.ค. พบว่า มีการปรับเปลี่ยน รองปลัด สธ. 3 คน คือ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สธ. นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการ สธ. และ นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ ผู้ตรวจราชการสธ. มานั่งแทน นพ.ทรงยศ ชัยชนะ รองปลัด สธ. ที่เกษียณอายุราชการ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. และ นพ.อำนวย กาจีนะ ถูกย้ายเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. ส่วน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ เป็นรองปลัด สธ.เช่นเดิม ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดี คร. จะไปเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. แทนนพ.นิทัศน์ รายยวา ผู้ตรวจราชการ สธ.ที่เกษียณอายุราชการ
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ศ.นพ.รัชตะ ว่าเพราะเหตุใดจึงไม่สามารถเสนอต่อ ครม.พิจารณาได้ แต่กลับได้รับคำตอบเพียงว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนนี้ได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล
"รายชื่อโยกย้ายดังกล่าวเป็นการหารือระหว่างทีมรัฐมนตรีและทีมปลัด สธ. มีการกลั่นกรองอย่างดี ตามธรรมาภิบาล ซึ่งผู้ใหญ่คุยกันถึงขนาดนี้แล้ว มีความลงตัว และนำเข้า ครม.แล้ว ก็หวังว่าจะเป็นตามนั้น พวกเราคาดหวังมากว่า ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา เราไว้ใจในตัวท่านมาก และเท่าที่รู้จักกับท่านมา ท่านก็เป็นคนมีเหตุผลมาก และยังมีคุณภาพเหมือนเดิม ไม่คิดว่าจะเอียนเองไปตามเกมที่มีคนป่วน ซึ่งคนส่วนใหญ่ในกระทรวงฯ ต้องการให้กระทรวงฯ เดินหน้า อย่างมีธรรมาภิบาล ถ้าคนส่วนน้อยคิดจะมาเปลี่ยนรายชื่อ เพื่อสนองกิเลสตัวเองนี่ไม่ใช่แค่การทำลายสังคม แต่เป็นการทำลายถึงคนไข้ด้วย" พญ.ประชุมพร กล่าว
นพ.ศิวฤทธิ์ รัศมีจันทร์ ผอ.รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก กล่าวว่า หากรายชื่อโยกย้ายที่ปรากฏตามสื่อเป็นจริง คงจะทำให้เกิดการเดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องการจัดบริการแบบเขตสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นติดตามของ คสช.ต่อการดำเนินงานของ สธ. นอกจากนี้ ข่าววุ่นๆใน สธ.ยังมีต่อไปถึงการที่ยังไม่มีการออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับอำนวยการสูง ได้แก่ นพ.สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป แทนผู้เกษียณราชการในปีนี้ ซึ่งเป็นอำนาจโดยตรงของปลัด สธ. เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า คงเป็นเช่นเดียวกับการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงซึ่งมีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
นพ.สุรพร ลอยหา นพ.สสจ.อุบลราชธานี ประธานชมรมสาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า ปกติคำสั่งจะต้องออกก่อนสิ้น ก.ย. เพื่อให้ผู้บริหารใหม่เข้ารับงานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. เพื่อให้งานต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประกาศแผนปฏิบัติการในปีงบประมาณใหม่ของแต่ละแห่ง จำเป็นต้องให้ผู้บริหารใหม่ตัดสินใจ หากล่าช้าอาจเกิดปัญหาได้ จึงไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไร ทุกอย่างจึงช้าเช่นนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อโยกย้ายผู้บริหาร สธ.ระดับซี 10 ไม่ได้เข้าวาระการพิจารณาที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 1 ต.ค. พบว่า มีการปรับเปลี่ยน รองปลัด สธ. 3 คน คือ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สธ. นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการ สธ. และ นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ ผู้ตรวจราชการสธ. มานั่งแทน นพ.ทรงยศ ชัยชนะ รองปลัด สธ. ที่เกษียณอายุราชการ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ ถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. และ นพ.อำนวย กาจีนะ ถูกย้ายเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. ส่วน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ เป็นรองปลัด สธ.เช่นเดิม ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดี คร. จะไปเป็นผู้ตรวจราชการ สธ. แทนนพ.นิทัศน์ รายยวา ผู้ตรวจราชการ สธ.ที่เกษียณอายุราชการ
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ศ.นพ.รัชตะ ว่าเพราะเหตุใดจึงไม่สามารถเสนอต่อ ครม.พิจารณาได้ แต่กลับได้รับคำตอบเพียงว่า อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งขั้นตอนนี้ได้ดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล
