xs
xsm
sm
md
lg

ประยุทธ์ร่วมงานอำลาราชการ ฝากรุ่นน้องพาประเทศเดินหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (29 ก.ย.) ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานในพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารของนายทหารชั้นนายพล ประจำปี 2557 จำนวน 262 นาย ซึ่งมีตำแหน่งที่สำคัญ อาทิ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน ในฐานะปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สนธิศักดิ์ วิทยาเอนกนันท์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ด้วย เพื่อเชิดชูเกียรติในคุณงามความดีที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ จนครบกำหนดเกษียณอายุราชการ โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และเลขาธิการ คสช. ในฐานะ รอง ผบ.ทบ. และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพบก เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
สำหรับพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการนายทหารในปีนี้ ประกอบด้วย การถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, การเทิดเกียรติและมอบกระบี่ และการสวนสนามเทิดเกียรติ ซึ่งจัดบริเวณด้านหน้าลานอเนกประสงค์ โดยมีการสวนสนามเดินเท้าของกำลังพลจาก 3 กรม รวมทั้งสิ้น 10 กองพัน ได้แก่ กองพันนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า , กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ , กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์, กรมทหารปืนใหญ่ที่ 2 รักษาพระองค์, กองพลรบพิเศษที่ 1 และกรมทหารราบที่ 31รักษาพระองค์ (วิ่งสวนสนาม) พร้อมจัดหมู่ธงของกองทัพบก จำนวน 64 ธง เข้าร่วมด้วย โดยมี พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) เป็นผู้บังคับกองผสม รวมทั้งสวนสนามจักรยานยนต์ทางยุทธวิธี จากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.)
นอกจากนี้ ยังมีการสวนสนามยานยนต์ของเหล่าทหารราบ ม้า และปืนใหญ่ จำนวน 30 คัน รวมทั้งยังมีการสวนสนามทางอากาศของอากาศยาน จำนวน 12 ลำ ได้แก่ เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ เอเอส- 550 จัดซื้อจากบริษัทยูโรคอปเตอร์ ฝรั่งเศส เฮลิคอปเตอร์แบบฝึก Enstrom 480 จากสหรัฐฯ เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ 1 (คอบบร้า) และเฮลิคอปเตอร์แบบทั่วไป ฮท. 60 (แบล็กฮอค) รวมถึงเครื่องบินฝึกแบบ 41 พร้อมกับการปล่อยควันสีลายธงชาติด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างร่วมพิธีว่า ขอบคุณทุกคนที่จัดงานเทิดเกียรติในพลในวันนี้ เนื่องในอำลาชีวิตข้าราชการของทหารชั้นผู้ใหญ่ แต่วันนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ติดภารกิจอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ได้ฝากความระลึกถึงมาถึงทุกคนด้วย
ทั้งนี้ การจัดงานในวันนี้อย่างสมเกียรติ วันนี้เป็นวันมงคล ไม่ใช่เวลาเศร้าโศกเสียใจ แต่ต้องดีใจรักษาเกียรติยศ และศักดิ์ศรีของกองทัพ และได้ส่งต่อให้รุ่นน้องต่อไปทำงาน เราเคยถวายคำปฏิญาณกับสมเด็จพ่อ คือ เราจะรักษามรดกของพระองค์ท่านด้วยชีวิต เราไม่สามารถไปประกาศ หรือประชาสัมพันธ์ตัวเราเอง แต่ให้สังคมรับรู้เอง
"ผมภูมิใจมาตลอด 38 ปี ของการรับราชการ ไม่มีวันไหนไม่ภูมิใจ ไม่มีวันไหนที่เสียใจ ต้องมาเป็นทหาร วันนี้ต้องเผชิญภัยทุกรูปแบบ จึงต้องเตรียมความพร้อม รวมถึงความขัดแย้งและความคิดที่แตกต่าง ซึ่งถือเป็นความท้าทาย หลังจากนี้จะถอยหลังจากกองทัพ และไปขับเคลื่อนดูแลกองทัพ และประชาชนทั้งประเทศ ที่มีความสำคัญ ผมไม่ได้คาดคิดตรงนี้ที่จะมาทำ หวังว่ากองทัพจะดูแลให้เข้มแข็ง มีความรักความสามัคคี รวมพลังให้เป็นหนึ่งเดียวเหมือนกับแขนงไผ่ หากแยกกันจะอ่อนแอ หากรวมกันจะเกิดความแข็งแรง และทุกเหล่าทัพ ก็จะต้องเข้มแข็งด้วยทำงานยึด ประโยชน์ส่วนรวม และยึดแนวการทำงานเศรษฐกิจพอเพียง " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เคยบ่นว่าท้อแท้ หรือเหน็ดเหนื่อย เราต้องพัฒนาคน และทรัพยากร ทั้งนี้การสร้างความเข้าใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว เราขัดแย้งกันได้แต่ต้องอยู่ร่วมกันได้โดยสันติวิธี มีประชาธิปไตยที่ถูกต้อง มีสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบ ตลอด 4 ปี ในฐานะ ผบ.ทบ. ได้มุ่งมั่นทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนมาตลอด โดยไม่มีส่วนตัว ไม่มีอำนาจ และไม่เคยสร้างอะไร พร้อมกันนี้ขอให้ช่วยกันทำให้สังคมมีการพัฒนาเรียนรู้ค่านิยม 12 ประการ หากทำได้ ประเทศจะเจริญได้อย่างแน่นอน วันนี้ต้องพัฒนาประเทศชาติ และกองทัพอย่างก้าวกระโดดอย่างที่เราได้สูญเสีย
สำหรับการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้นั้น ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ตนไม่ได้บอกว่า การแก้ปัญหาจะต้องจบภายในปีนี้ แต่ตนฝากบอกคนที่เห็นต่าง และเจ้าหน้าที่ว่า อยากให้จบปีนี้ เพื่อที่จะเดินหน้าไปพร้อมกับการเปิดประชาคมอาเซียน แต่ทั้งหมดคงต้องใช้เวลาการสร้างความเข้าใจ เพื่อให้หยุดสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพูดแรงไปบ้าง พูดไม่เข้าหูใครบ้าง แม้กระทั่งผู้บังคับบัญชา อยากบอกให้รู้ว่าตนรักทุกคน แต่อะไรที่เป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ที่จะทำให้กองทัพเสียหายตนยอมไม่ได้ เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่าทำอะไรที่ไม่ดีเพราะมันจะบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ในอนาคต เราจำเป็นที่จะต้องทำให้กองทัพเข้มแข็ง และทันสมัย และต้องมีอำนาจต่อรอง เราไม่ต้องการรบ แต่เราต้องมีศักยภาพแบบไม่มีตัวตน
"วันนี้เลิกทำหน้าย่นได้แล้ว ทุกคนต้องยิ้ม ส่วนผม คงทำหน้ายิ้มแย้มได้อีกแค่ 2วัน และต้องตั้งใจทำหน้าที่จากนี้ให้ดีที่สุด ตลอดการเป็น ผบ.ทบ. มีความตั้งใจทำได้เท่าที่ได้ สิ่งที่ยังทำไม่ได้ต้องฝากให้รุ่นต่อไปทำให้ เรามีวันนี้เพราะข้าราชการชั้นผู้น้อย ดังนั้น อย่าลืมคนเหล่านี้ เพราะเขาคือ นักรบแนวหน้า และครูคนที่ 2 ของเรา ทั้งนี้ ประเทศของเรามีทุกอย่าง ยกเว้นการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม หลังจากนี้เรายังเจอกันอีกนานพอสมควร เพราะผมต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนประเทศ ขอให้ทุกคนช่วยกันเดินหน้าทำเพื่อประเทศ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นพิธี พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ได้ไปเยี่ยมกองกำลังผสมที่ทำหน้าที่สวนสนามเทิดเกียรติ ที่พักผ่อนรับประทานอาหารกลางวัน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ โดยมี พล.ต.กู้เกียรติ และผู้แทนหน่วยรบพิเศษจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษให้การต้อนรับ โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ขอให้ทุกคนทำตัวตามสบาย ยังไงก็ไม่ลืมหน่วยรบพิเศษ รักทุกคนเท่ากัน ขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามที่ได้รับมอบหมาย "
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางกลับกทม.ทันที ด้วยเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากติดภารกิจ โดยปฏิเสธที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

**"บิ๊กตู่"ชิ่ง ยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับมาถึง กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ( พล.ม.2) ในช่วงบ่าย ซึ่งสารวัตรทหาร (สห.) ไม่มีการแจ้งต่อสื่อมวลชน ว่าเฮลิคอร์ปเตอร์ของ พล.อ.ประยุทธ์ มาถึงแล้ว ขณะที่ช่างภาพได้เตรียมตัวถ่ายภาพ แต่ทาง สห.ได้ให้เข้าไปรอในที่รับรอง
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นรถยนตร์ประจำตำแหน่ง เดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ขณะที่สื่อมวลชนมารอสัมภาษณ์ ได้รับการแจ้งภายหลังว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางออกจาก พล.ม.2 ไปแล้ว

**กำหนดเยือนเมียนมาร์ 9-10 ต.ค.

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเช้าวานนี้ (29 ก.ย.) คณะทำงานด้านการต่างประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีการประชุมหารือ เพื่อรับทราบการตอบรับของนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางไปเยือนสาธารรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 9-10 ต.ค. ตามคำเชิญของรัฐบาลเมียนมาร์ ในฐานะประธานอาเชียน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ตอบรับที่จะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) ในระหว่างวันที่ 16-17 ต.ค.นี้ ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งจะเป็นการประชุมด้านเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและยุโรป โดยหลังจากที่นายกรัฐมนตรีตอบรับการเดินทางของทั้งสองประเทศแล้ว คณะทำงานด้านการต่างประเทศ ก็จะดำเนินการประสานในรายละเอียดต่างๆ กับกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ทั้งนี้ ในส่วนของคณะทำงาน ซึ่งเป็นทีมล่วงหน้าในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป จะเดินทางไปประสานงานกับทางเจ้าภาพในด้านต่างๆ ทั้งรายละเอียดการเข้าร่วมประชุม เรื่องของที่พัก และสถานที่ต่างๆ รวมถึงกำหนดพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบรับคำเชิญเพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ เอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) ครั้งนี้ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเดินทางไปพบปะกับผู้นำของประเทศต่างๆ หลังจากที่ได้มีการรัฐประหาร ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-ยุโรป (อาเซ็ม) จะมีผู้นำจากประเทศต่างๆ ทั้งยุโรปและเอเชีย เข้าร่วมประชุม ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จะได้ถือโอกาสชี้แจงสถานการณ์ภายในประเทศ และข้อเท็จจริงต่างๆ หากมีการสอบถาม


**นายกฯสิงคโปร์เชิญ"ประยุทธ์" เยือน

วานนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นางชวา ซิว ซาน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำเป็นประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ และปรึกษาข้อราชการ ภายหลังเข้าพบ ม.ล.ปนัดดา เปิดเผยว่า มาแสดงความขอบคุณทางการไทยที่มีไมตรีจิตด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์ แลกเปลี่ยนนักศึกษา และแสดงความดีใจที่คนทั้งสองประเทศรักใคร่กัน แสดงความปรารถนาดีมายังประชาชนชาวไทย บอกเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย และขอเป็นกำลังใจในฐานะประเทศในกลุ่มอาเซียน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ยังฝากแสดงความยินดีมายัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมถือโอกาสเชิญเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ เป็นกำลังใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ ฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ ประเทศมีความสงบ
กำลังโหลดความคิดเห็น