ได้เกิดเหตุร้ายต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศไทยขึ้นอีกราย หลังเกิดเหตุฆาตกรรมโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่บริเวณเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ไปเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้
โดยรายล่าสุดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นคดีล่อลวงนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียไปข่มขืนถึงที่ห้องพักของตนเอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวคนร้ายได้ก่อนที่คนร้ายรายนี้จะหลบหนีไปได้
โดยเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 27ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.กะรน พร้อมด้วย พ.ต.ต.อศลย์ จิรักษา สว.สส.สภ.กะรน ร.ต.อ.มนัส วงษ์แก้ว รอง สว.สส.สภ.กะรน ร.ต.ต.สุรเชษฐ ดำใส รอง สว.สส.สภ.กะรน ด.ต.บุญเลิศ เผือกผ่อง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กะรน ร่วมกันจับกุม นายสมเดช ศรีใส อายุ 33 ปี อยู่ที่ 78 ม.8 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
หลังผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้าแจ้งความว่าถูกข่มขืน พร้อมยึดของกลางประกอบด้วย เศษผ้าปูที่นอนมีการฉีกเป็นแถบ ซึ่งผู้ต้องหาให้มัดมือผู้เสียหายขณะข่มขืนกระทำชำเราจำนวน 4 ชิ้น เสื้อยืดคอโปโล สีแดงลายขาว แถบขวาง 1 ตัว กางเกงยีนส์ 1 ตัว กางเกงในสีเขียว 1 ตัว และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีเขียว หมายเลขทะเบียน กยพ 575 ภูเก็ต 1 คัน โดยสามารถจับกุมได้ที่ซอยตรงข้ามห้างแว่นกรุงไทย ถนนปฏัก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงนำตัวพร้อมของกลางส่ง ร.ต.อ.นิพนธ์ เต็มสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.กะรน ดำเนินคดีในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย"
พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.กะรน กล่าวว่า เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ลี (นามสมมติ) อายุ 29 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซีย เดินทางมาแจ้งความต่อ ร.ต.อ.นิพนธ์ เต็มสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.กะรน ว่า ได้เดินทางออกมาจากโรงแรมดวงจิตร รีสอร์ท ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อมาดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.กะรน จากนั้นเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 27 ก.ย.57 ผู้เสียหายเริ่มรู้สึกตัวว่าเมา ได้เดินออกมาจากวงเลี้ยงสังสรรค์มาริมถนนเพื่อหารถโดยสารกลับโรงแรม โดยขณะนั้นเพื่อนๆ ได้นั่งดื่มเหล้ากันต่อ
ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชายไทย 1 คนขับรถจักรยานยนต์มาจากหาดป่าตอง แล้วคนร้ายได้จอดรถจักรยานยนต์ชวนพูดคุยกับตน และหลอกลวงอาสาจะไปขับรถไปส่งที่โรงแรมที่พัก ผู้เสียหายจึงนั่งซ้อนท้ายไปด้วย โดยแทนที่คนร้ายจะพาไปโรงแรมที่พัก แต่คนร้ายได้พาไปห้องพักของคนร้าย หลังจากนั้นคนร้ายได้ใช้กำลังพยายามจะข่มขืนผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายพยายามดิ้นรนขัดขืนเพื่อเอาตัวรอดแต่ถูกคนร้ายดังกล่าวมัดมือทั้ง 2 ข้างด้วยผ้าปูที่นอนแล้วพาดกับศีรษะไปทางด้านหลังเพื่อไม่ให้ตนขัดขืน
ด้วยผู้เสียหายเกรงว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าจึงยอมให้คนร้ายข่มขืนจนเสร็จกิจ 2 ครั้ง หลังจากนั้นในช่วงเช้าวันเดียวกันผู้เสียหายอ้อนวอนขอให้คนร้ายได้พาตนไปส่งที่โรงแรมที่พัก เมื่อกลับถึงโรงแรมที่พักผู้เสียหายจึงแจ้งให้แฟนหนุ่มทราบก่อนที่จะเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว
พ.ต.ท.โสภณ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้รับแจ้งความจึงเรียกประชุมชุดสืบสวน เพื่อออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ตำบลกะรน ที่คนร้ายขับผ่าน จนกระทั่งเห็นภาพคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน กยพ 575 ภูเก็ต พาผู้เสียหายออกจากปากซอยที่เกิดเหตุผ่านวงเวียนกะรน ต.กะรน เจ้าหน้าที่จึงนำภาพกล้องวงจรปิดสอบถามชาวบ้านที่อยู่ปากซอยที่เกิดเหตุ
กระทั่งทราบว่าคนร้ายรายนี้คือนายสมเดช ศรีใส อายุ 33 ปี พักอยู่ที่ห้องเช่าเลขที่ 500/2 ชั้น 2 ภายในซอยตรงข้ามห้างแว่นกรุงไทย ต.กะรน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่านายสมเดช ไม่อยู่ที่ห้องพักจึงเฝ้าดักรอจนกระทั่งเวลา 17.30 น.นายสมเดช ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.กะรน
จากการสอบสวนนายสมเดช บอกว่า ตนเห็นผู้เสียหายเมาและเดินอยู่ข้างถนนจึงอาสาจะไปส่งผู้เสียหายที่โรงแรมที่พัก ต.ป่าตอง แต่ตนพาผู้เสียหายมานอนที่ห้องพัก เพื่อให้สร่างเมา แต่เนื่องจากเห็นว่ามีรูปร่างหน้าตาสวย ตนจึงได้ลูบคลำของสงวนของผู้เสียหาย ก่อนนำผ้าปูที่นอนมาตัดแล้วใช้มัดมือของผู้เสียหายทั้ง 2 ข้างไว้บนศีรษะ จากนั้นได้กระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ 2 ครั้งโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย จากนั้นพอสว่างก็นำผู้เสียหายไปส่งที่โรงแรมที่พักของผู้เสียหาย ต.ป่าตอง ตนไม่คิดว่าผู้เสียหายจะแจ้งความ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยัน ในเบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
**"รมว.ท่องเที่ยวลงเกาะเต่าฟังปัญหา
วันเดียวกันเวลา 10.00 น.นางกอบกาญจน์ วัฒนารางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนใน ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นหลังเกิดคดีฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเมื่อวันที่ 15 ก.ย.57 ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างหนัก และการเดินทางมาวันนี้ นางกอบกาญจน์ ก็เพื่อรับฟังปัญหากับประชาชนในพื้นที่ ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว
ในเบื้องต้นนางกอบกาญจน์ ได้มีการร่วมพูดคุยหาแนวทางป้องกัน ดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวที่เกาะเต่า พร้อมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุปัญหาของเกาะเต่าขีดจำกัดของพื้นที่ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เสนอการติดตั้งกล้องจรปิดทั่วทั้งเกาะขอให้จัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ได้มาตราฐาน และขอเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า ขณะนี้กำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
ส่วนความคืบหน้าของคดี เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดี ที่ห้องประชุมสถานีอนามัย ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน ซึ่งตั้งเป็นศูนย์ปฎิบัตการเฉพาะกิจภาค 8 ส่วนหน้า สภ.ย่อยเกาะเต่า โดยหลังการประชุมผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปดูการทำงานของตำรวจที่งานศูนย์ปฎิบัติการเฉพาะกิจภาค 8 ส่วนหน้า ที่กำลังทำงานเพื่อให้ได้เห็นบรรยากาศในการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปแล้วทั้งหมด 355 ตัวทั้งบนเกาะเต่า, ท่าเรือข้ามฟากไปยังเกาะสมุย ไปสุราษฎร์ธานี และไปชุมพร
**ผบช.ภ.8ยันคดีคืบชี้มีไม่ต่ำกว่า 3 คน
หลังจากนั้น พล.ต.ท.ปัญญา ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ทำการตรวจสอบและเก็บตัวอย่าง DNA แรงงานชาวต่างด้าวเพิ่มอีก 8 คนพร้อมส่งไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยา คาดว่าผลน่าจะออกในวันจันทร์นี้ ส่วนผลการตรวจ DNA ของกลุ่มคนผู้ต้องสงสัย 20 คนนั้นขอไม่เปิดเผยเพราะเกรงจะเสียรูปคดี แต่ยืนยันว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร และใกล้จะถึงตัวคนร้ายแล้ว ตอนนี้รอผลตรวจ DNA เท่านั้น หากตรงกันก็สามารถสาวถึงตัวคนร้ายได้ทันที โดยตีวงแคบเข้ามาเรื่อยๆ
"ตอนนี้ค่อนข้างจะแน่ชัดแล้วว่าผู้ต้องสงสัยเป็นใคร มีไม่ต่ำกว่า 3 คน ทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว และตอนนี้ตำรวจมีวัตถุพยานบางอย่างที่เก็บอยู่ แต่ต้องขอเก็บเป็นความลับ" พล.ต.ท.ปัญญา กล่าว และยืนบยันว่า "คดีนี้อาจจะแล้วเสร็จก่อนที่ผมจะเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ก็เป็นไปได้"
ส่วนบรรยากาศที่เกาะเต่า ชาวเกาะเต่า ยังคงเกาะติดเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้หรือไม่ เนื่องจากจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะกำชับด้วยตัวเองพร้อมมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร. นำทีมตำรวจฝีมือดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่พร้อมติดตามความคืบหน้าด้วยตัวเองตลอดมา.
โดยรายล่าสุดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นคดีล่อลวงนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซียไปข่มขืนถึงที่ห้องพักของตนเอง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวคนร้ายได้ก่อนที่คนร้ายรายนี้จะหลบหนีไปได้
โดยเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 27ก.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.กะรน พร้อมด้วย พ.ต.ต.อศลย์ จิรักษา สว.สส.สภ.กะรน ร.ต.อ.มนัส วงษ์แก้ว รอง สว.สส.สภ.กะรน ร.ต.ต.สุรเชษฐ ดำใส รอง สว.สส.สภ.กะรน ด.ต.บุญเลิศ เผือกผ่อง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กะรน ร่วมกันจับกุม นายสมเดช ศรีใส อายุ 33 ปี อยู่ที่ 78 ม.8 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม
หลังผู้เสียหายซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้าแจ้งความว่าถูกข่มขืน พร้อมยึดของกลางประกอบด้วย เศษผ้าปูที่นอนมีการฉีกเป็นแถบ ซึ่งผู้ต้องหาให้มัดมือผู้เสียหายขณะข่มขืนกระทำชำเราจำนวน 4 ชิ้น เสื้อยืดคอโปโล สีแดงลายขาว แถบขวาง 1 ตัว กางเกงยีนส์ 1 ตัว กางเกงในสีเขียว 1 ตัว และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีเขียว หมายเลขทะเบียน กยพ 575 ภูเก็ต 1 คัน โดยสามารถจับกุมได้ที่ซอยตรงข้ามห้างแว่นกรุงไทย ถนนปฏัก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จึงนำตัวพร้อมของกลางส่ง ร.ต.อ.นิพนธ์ เต็มสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.กะรน ดำเนินคดีในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย"
พ.ต.ท.โสภณ บริรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.กะรน กล่าวว่า เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ลี (นามสมมติ) อายุ 29 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติรัสเซีย เดินทางมาแจ้งความต่อ ร.ต.อ.นิพนธ์ เต็มสังข์ พนักงานสอบสวน สภ.กะรน ว่า ได้เดินทางออกมาจากโรงแรมดวงจิตร รีสอร์ท ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เพื่อมาดื่มสังสรรค์กับเพื่อนๆ ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.กะรน จากนั้นเวลาประมาณตี 4 ของวันที่ 27 ก.ย.57 ผู้เสียหายเริ่มรู้สึกตัวว่าเมา ได้เดินออกมาจากวงเลี้ยงสังสรรค์มาริมถนนเพื่อหารถโดยสารกลับโรงแรม โดยขณะนั้นเพื่อนๆ ได้นั่งดื่มเหล้ากันต่อ
ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชายไทย 1 คนขับรถจักรยานยนต์มาจากหาดป่าตอง แล้วคนร้ายได้จอดรถจักรยานยนต์ชวนพูดคุยกับตน และหลอกลวงอาสาจะไปขับรถไปส่งที่โรงแรมที่พัก ผู้เสียหายจึงนั่งซ้อนท้ายไปด้วย โดยแทนที่คนร้ายจะพาไปโรงแรมที่พัก แต่คนร้ายได้พาไปห้องพักของคนร้าย หลังจากนั้นคนร้ายได้ใช้กำลังพยายามจะข่มขืนผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายพยายามดิ้นรนขัดขืนเพื่อเอาตัวรอดแต่ถูกคนร้ายดังกล่าวมัดมือทั้ง 2 ข้างด้วยผ้าปูที่นอนแล้วพาดกับศีรษะไปทางด้านหลังเพื่อไม่ให้ตนขัดขืน
ด้วยผู้เสียหายเกรงว่าจะถูกทำร้ายหรือถูกฆ่าจึงยอมให้คนร้ายข่มขืนจนเสร็จกิจ 2 ครั้ง หลังจากนั้นในช่วงเช้าวันเดียวกันผู้เสียหายอ้อนวอนขอให้คนร้ายได้พาตนไปส่งที่โรงแรมที่พัก เมื่อกลับถึงโรงแรมที่พักผู้เสียหายจึงแจ้งให้แฟนหนุ่มทราบก่อนที่จะเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว
พ.ต.ท.โสภณ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้รับแจ้งความจึงเรียกประชุมชุดสืบสวน เพื่อออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ตำบลกะรน ที่คนร้ายขับผ่าน จนกระทั่งเห็นภาพคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีเขียวอ่อน หมายเลขทะเบียน กยพ 575 ภูเก็ต พาผู้เสียหายออกจากปากซอยที่เกิดเหตุผ่านวงเวียนกะรน ต.กะรน เจ้าหน้าที่จึงนำภาพกล้องวงจรปิดสอบถามชาวบ้านที่อยู่ปากซอยที่เกิดเหตุ
กระทั่งทราบว่าคนร้ายรายนี้คือนายสมเดช ศรีใส อายุ 33 ปี พักอยู่ที่ห้องเช่าเลขที่ 500/2 ชั้น 2 ภายในซอยตรงข้ามห้างแว่นกรุงไทย ต.กะรน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่านายสมเดช ไม่อยู่ที่ห้องพักจึงเฝ้าดักรอจนกระทั่งเวลา 17.30 น.นายสมเดช ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.กะรน
จากการสอบสวนนายสมเดช บอกว่า ตนเห็นผู้เสียหายเมาและเดินอยู่ข้างถนนจึงอาสาจะไปส่งผู้เสียหายที่โรงแรมที่พัก ต.ป่าตอง แต่ตนพาผู้เสียหายมานอนที่ห้องพัก เพื่อให้สร่างเมา แต่เนื่องจากเห็นว่ามีรูปร่างหน้าตาสวย ตนจึงได้ลูบคลำของสงวนของผู้เสียหาย ก่อนนำผ้าปูที่นอนมาตัดแล้วใช้มัดมือของผู้เสียหายทั้ง 2 ข้างไว้บนศีรษะ จากนั้นได้กระทำชำเราผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ 2 ครั้งโดยไม่ได้สวมถุงยางอนามัย จากนั้นพอสว่างก็นำผู้เสียหายไปส่งที่โรงแรมที่พักของผู้เสียหาย ต.ป่าตอง ตนไม่คิดว่าผู้เสียหายจะแจ้งความ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยัน ในเบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
**"รมว.ท่องเที่ยวลงเกาะเต่าฟังปัญหา
วันเดียวกันเวลา 10.00 น.นางกอบกาญจน์ วัฒนารางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนใน ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นหลังเกิดคดีฆ่าโหด 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเมื่อวันที่ 15 ก.ย.57 ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างหนัก และการเดินทางมาวันนี้ นางกอบกาญจน์ ก็เพื่อรับฟังปัญหากับประชาชนในพื้นที่ ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว
ในเบื้องต้นนางกอบกาญจน์ ได้มีการร่วมพูดคุยหาแนวทางป้องกัน ดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวที่เกาะเต่า พร้อมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยนายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุปัญหาของเกาะเต่าขีดจำกัดของพื้นที่ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เสนอการติดตั้งกล้องจรปิดทั่วทั้งเกาะขอให้จัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ได้มาตราฐาน และขอเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า ขณะนี้กำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียด
ส่วนความคืบหน้าของคดี เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดี ที่ห้องประชุมสถานีอนามัย ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน ซึ่งตั้งเป็นศูนย์ปฎิบัตการเฉพาะกิจภาค 8 ส่วนหน้า สภ.ย่อยเกาะเต่า โดยหลังการประชุมผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปดูการทำงานของตำรวจที่งานศูนย์ปฎิบัติการเฉพาะกิจภาค 8 ส่วนหน้า ที่กำลังทำงานเพื่อให้ได้เห็นบรรยากาศในการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไปแล้วทั้งหมด 355 ตัวทั้งบนเกาะเต่า, ท่าเรือข้ามฟากไปยังเกาะสมุย ไปสุราษฎร์ธานี และไปชุมพร
**ผบช.ภ.8ยันคดีคืบชี้มีไม่ต่ำกว่า 3 คน
หลังจากนั้น พล.ต.ท.ปัญญา ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ทำการตรวจสอบและเก็บตัวอย่าง DNA แรงงานชาวต่างด้าวเพิ่มอีก 8 คนพร้อมส่งไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยา คาดว่าผลน่าจะออกในวันจันทร์นี้ ส่วนผลการตรวจ DNA ของกลุ่มคนผู้ต้องสงสัย 20 คนนั้นขอไม่เปิดเผยเพราะเกรงจะเสียรูปคดี แต่ยืนยันว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากพอสมควร และใกล้จะถึงตัวคนร้ายแล้ว ตอนนี้รอผลตรวจ DNA เท่านั้น หากตรงกันก็สามารถสาวถึงตัวคนร้ายได้ทันที โดยตีวงแคบเข้ามาเรื่อยๆ
"ตอนนี้ค่อนข้างจะแน่ชัดแล้วว่าผู้ต้องสงสัยเป็นใคร มีไม่ต่ำกว่า 3 คน ทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว และตอนนี้ตำรวจมีวัตถุพยานบางอย่างที่เก็บอยู่ แต่ต้องขอเก็บเป็นความลับ" พล.ต.ท.ปัญญา กล่าว และยืนบยันว่า "คดีนี้อาจจะแล้วเสร็จก่อนที่ผมจะเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ก็เป็นไปได้"
ส่วนบรรยากาศที่เกาะเต่า ชาวเกาะเต่า ยังคงเกาะติดเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้หรือไม่ เนื่องจากจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะกำชับด้วยตัวเองพร้อมมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร. นำทีมตำรวจฝีมือดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่พร้อมติดตามความคืบหน้าด้วยตัวเองตลอดมา.