xs
xsm
sm
md
lg

รวบขอทานเยอรมันแสบ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หนุ่มเยอรมนีสุดแสบ! ลงทุนขอทานที่ถนนข้าวสาร หลอกคนไทยเห็นใจ ได้เงิน 5 หมื่นเอาไปเที่ยว-ดื่มกินจนเมาแอ๋ที่พัทยา เย้ยคนไทยโง่ เงินหมดกลับมาขอใหม่ได้ ตำรวจท่องเที่ยวรวบตัวส่งตม. หาช่องทางส่งกลับประเทศ เหตุเข้าข่ายหลอกลวง แฉกลุ่ม German Help อุตส่าห์ช่วยพาไปสถานทูตทำพาสปอร์ต-วีซ่า ถึงเวลากลับเผ่นจากโรงแรมไปพัฒน์พงศ์ ก่อนลุยทะเลตะวันออก ส่องเฟซบุ๊ค Benjamin Holst พบเที่ยวญี่ปุ่นก่อนไปจีน ขึ้นเครื่องจากปักกิ่งมากรุงเทพฯ

วานนี้(25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 กันยายน มีการแชร์ภาพและข้อความโลกโชเนียล เน็ตเวิร์ค แฉข้อเท็จจริงกรณีนายเบนจามิน โฮลส์ (Benjamin Holst)อายุ 29 ปี ชาวเยอรมนี ที่มีาการขาโตผิดปกติ เดินเที่ยวด้วยอาการมึนเมาบริเวณชายหาดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ถ่ายภาพร่วมกับหญิงสาวแถวชายหาดพัทยา หน้าโรงแรมเบร์วอล์ค พัทยาใต้

ผู้สื่อข่าวสอบถามกลุ่มวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ท่าเทียบเรือเก่า พัทยาใต้ บอกว่าพบนายเบนจามิน โฮลส์ ตั้งแต่คืนวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา และจำได้ว่าเป็นคนเดียวกับที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จึงพากันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โดยนายเบนจามิน โฮลส์ ได้โชว์เงินเกือบ 40,000 บาทที่ได้รับบริจาคให้ดู ให้ไปซื้อเบียร์มาให้ดื่ม และยังให้ช่วยติดต่อหญิงสาวเพื่อไปหลับนอนอีกด้วย ก่อนที่จะเดินเข้าไปเที่ยวในถนนวอล์คกิ้ง สตรีท

ผู้สื่อข่าวได้พบนายเบนจามิน โฮลส์ ในวลาต่อมา ขณะเดินออกมาจาวอล์คกิ้ง สตรีท ในสภาพเมาสุราอย่างหนัก พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ยิ้มแย้มมีความสุข รสอบถามทราบว่าเหลือเงินที่ได้รับบริจาคอยู่กว่า 7,000 บาท และยังไม่มีที่พัก โดยอ้างว่ามาพัทยาเพื่อมาหาเพื่อน

ข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ค Sirirat Sukarapak โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า "ไอ้ฝรั่งขาโต หนีมาขอทานต่อที่พัทยาแล้ว แถมใช้มุกเดิมๆ คือหาเงินซื้อตั๋วกลับเยอรมัน...!!! เมื่อวันก่อนเพิ่งอ่านข่าวว่าตอนอยู่กรุงเทพฯ มีสมาคมช่วยเหลือชาวเยอรมัน จัดการพาไปสถานทูตเยอรมัน ทำพาสปอร์ตให้ใหม่ แล้วจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้ด้วย แถมจ่ายค่าเกสต์เฮ้าส์ระหว่างรอกลับบ้านให้ด้วย พอถึงวันนัดรับพาสปอร์ตเค้าก็หนีทีมงานไปเลย พอสืบไปสืบมาเจอว่ามันซื้อตั๋วเครื่องบินขามาขาเดียว คือ ตั้งใจมาขอทานอยู่ว่างั้นเหอะ แจ้งตม.ผลักดันออกนอกประเทศได้ไหมเนี่ย เพราะเดี๋ยวมันก็ปั้นเรื่องใส่ร้ายว่าคนไทยขโมยเงินและพาสปอร์ตมันจนทำให้มันมาขอทาน

แถมมีข้อมูลจากคนท้องที่ว่าไปคุยกะมัน มันบอกว่ามันได้จากกรุงเทพฯมา 4 หมื่น นี่เหมารถแท็กซี่มาพัทยาเลยนะ แหม่...กินอยู่สบายใจไทยแลนด์เหลือเกินนะ ทีอย่างนี้น่าจะเอาไปออกข่าวบ้างนะ เพราะคนที่ไม่เล่นเฟซไม่รู้เรื่อง ก็หลงกลเอาเงินไปให้มันเพราะสงสาร"

ต่อมา เฟซบุ๊ก Thailand Police Story รายงานว่าตำรวจสภ.เมืองพัทยา จับกุมนายเบนจามิน โฮลส์ และกักตัวไว้ก่อน แต่ในที่สุดไม่สามารถตั้งข้อหาได้ เนื่องจากเป็นเงินบริจาคจึงปล่อยตัวไป ซึ่งนายเบนจามินบอกว่าจะเอาเงินไปเปิดโรงแรมนอนและเที่ยวพัทยาต่อ เบื้องต้นจึงให้การช่วยเหลือติดต่อที่พักเพื่อให้สร่างเมา เพราะหากปล่อยไว้เกรงว่าจะเกิดอันตราย เนื่องจากเบนจามิน โฮลส์ บอกกับคนพัทยาว่าคนไทยโง่ ให้เงินมาใช้ฟรีๆ 50,000 บาท เงินหมดก็จะกลับไปขอใหม่

เวลา 14.00 น. วันที่ 25 กันยายน มีผู้พบเห็นนายเบนจามิน โฮลส์ นั่งขอทานบนทางเท้าถนนเลียบชาย หาดพัทยา หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงไปตรวจสอบพบกำลังนั่งใช้แก้วพลาสติกขอเศษเงินจากประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยยังอยู่ในอาการเมาสุรา ท่าทางมึนงง ปฏิเสธที่จะตอบคำถามใดๆ แต่ยังมีคนบริจาคเงินให้จำนวนหนึ่ง

ต่อมา ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา นำกำลังมาควบคุมตัวนายเบนจามิน โฮลส์ ขึ้นรถไปควบคุมที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเรื่องคดีคงไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากไม่มีผู้เสียหาย แต่จะนำตัวส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ชลบุรี ผลักดันออกนอกประเทศต่อไป เนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายหลอกลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องราวชาวต่างชาติน่าสงสาร กลับกลายเป็นเรื่องโอละพ่อครั้งนี้ เริ่มจากเมื่อวันที่ 18 กันยายน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง(ขอสงวนนาม) โพสต์ภาพชายชาวต่างชาติขาขวาบวมใหญ่ นั่งขอทานอยู่ริมข้าวสาร พร้อมข้อความว่า

"วันนี้ขับรถผ่านถนนตะเนา บางลำพู ปากซอยถนนข้าวสาร เห็นฝรั่งนั่งขอทาน ขาบวมมากเหมือนเป็นเท้าช้าง น่าสงสาร เลยรีบจอดรถลงไปสอบถาม ได้ความว่าเป็นคนเยรมัน ชื่อ Benjamin HOLST มานั่งรอเพื่อน 3 วันแล้ว เพื่อนจะพาไปสถานทูต ถามพักที่ไหน บอกไม่มีที่พัก นอนกลางถนน เราบอกทำไมไม่ไปสถานทูตจะได้กลับบ้านไปรักษาตัว เขาบอกรอเพื่อนจะมารับพาไป น่าสงสาร เราเลยให้สตางค์เขาไว้ไม่มาก พร้อมเบอร์โทรศัพท์ ถ้าเขาต้องการให้เราช่วยอะไรได้บ้าง เราคิดว่าทางสถานทูตน่าช่วยอะไรเขาได้ เราคิดว่าเขาอาจไปโดนอะไรกัด เอกสารทุกอย่างไม่มีหายหมด จะนั่งรอเพื่อนมารับเท่านั้น"

ต่อมา วันที่ 20 กันยายน ดร.ชุมพล เที่ยงธรรม ประธานสมาคมเยอรมันช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือ German Help ร.ต.ท.ปิยพงษ์ บุขุนทศ รองสว.กก.1 บก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่สถานทูตเยอรมัน เข้าตรวจสอบที่วีเอส เกสต์เฮ้าท์ ในซอยไม่มีชื่อ ถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม. ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่ามาเที่ยวประเทศไทยเพียงคนเดียวได้ประมาณ 3 สัปดาห์ และถูกขโมยกระเป๋าสตางค์พร้อมเอกสาร จึงไม่มีเงินใช้ และไม่มีพาสปอร์ต ส่วนขาที่บวมเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ หญิงไทยที่ทำงานอยู่บริเวณนั้นสงสาร จึงพามาพักที่วีเอส เกสต์เฮ้าท์

"นายเบนจามิน โฮลส์ เดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 2 กันยายน ด้วยสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แฟรงค์เฟิร์ต เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพ ซื้อตั๋วมาเที่ยวเดียว ซึ่งพบบ่อยในหมู่ชาวต่างชาติ ที่ต้องการมาอยู่เมืองไทย ครั้งแรกสมาคมเข้ามาดูแลกลับปฏิเสธไม่ขอรับความช่วยเหลือ จนมีตำรวจประสานมา จึงมาดูอีกครั้ง โดยวันที่ 22 กันยายน จะพาไปสถานทูตเยอรมันเพื่อทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ และรอออกวีซ่าเพื่อพากลับบ้านเกิด"

โดยร.ต.ท.ปิยพงษ์พาไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน กรณีถูกขโมยกระเป๋าสตางค์พร้อมเอกสารไว้ที่สน.ชนะสงคราม

ขณะที่นายเบนจามิน โฮลส์ กล่าวว่า มาท่องเที่ยวคนเดียว และไม่คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะมาเกิดขึ้นกับตน ตอนนี้มีความสุข และเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่คนไทยให้ความช่วยเหลือเรื่องที่พักและอาหาร หลังกลับบ้านเกิดแล้วถ้ามีเงินพอ จะเดินทางกลับมาเที่ยวประเทศไทยอีก

วันที่ 21 กันยายน เฟซบุ๊ค Sirirat Sukarapak โพสต์ข้อความว่า "นักท่องคนนี้เข้ามาเที่ยวโดยมีตั๋วเครื้องบินเที่ยวเดียว ประเทศไทยเป็นที่ทราบกันดีว่าเข้ามาง่าย คนไทยใจดี ขี้สงสาร อาหารอร่อยและถูก นักท่องเที่ยวที่มีฐานะไม่ดีเลยมุ่งมาประเทศไทย พอเงินหมดก็จะอ้างประสบปัญหา เช่น หนังสือเดินทางหายหรือโดนขโมย บัตร ATM ถูกเครื่องดูด พอถามว่าที่ไหนก็ทำเป็นงงๆ ถามเรื่องดียวกันสามสี่ครั้งไม่เคยได้คำตอบเหมือนกัน ก็เหมือนรายนี้ ในที่สุดเขาก็เล่าเรื่องที่ใกล้ความจริงที่สุด เขาเดินทางคนเดียว ใช้ความใจดีขี้สงสารของคนเพื่อการอยู่ต่อในประเทศไทย โดยยังไม่คิดจะกลับบ้าน...

เราต้องแยกแยะในการให้ความช่วยเหลือ และทางที่ดีที่สุด คือ นำเขาส่งสถานทูตหรือแจ้งตำรวจท่องเที่ยว การที่เราใจบุญขี้สงสาร ให้ความช่วยเหลือ เราก็จะเป็นเครื่องมือของเขา คุณทราบไหมว่าในกลุ่มของคนเร่ร่อนในยุโรป เขา POST แนะนำให้แค่ซื้อตั๋วเครื่องบินเข้ามาในประเทศไทยก็จะมาถึงสวรรค์ เพราะคนไทยใจดี ไม่หนาว นอนที่ไหนก็ได้ ชายหาดก็สวย อาหารอร่อย และคนไทยนิยมคนหัวแดง ตำรวจและผู้เกี่ยวข้องก็ไม่ตรวจสอบ..."

วันที่ 23 กันยายน เฟซบุ๊ค Sirirat Sukarapak โพสต์ข้อความ "เราได้ให้ความช่วยเหลือและดูแลใกล้ชิด ไม่ว่าที่พัก อาหารการกิน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. จนถึงบ่ายวันที่ 22 ก.ย. เช้าวันที่ 22 ก.ย. เรานำเขาไปทำหนังสือเดินทาง ซึ่งจะไปรับได้ในเช้าวันที่ 23 ก.ย. แต่เราไม่สามารถที่จะดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เพราะเขาไม่ต้องการ และมีพฤติกรรมที่จะหลบหนี แต่เขาไม่มีคดีที่เราจะควบคุมตัวเขาไว้ได้ จึงนำเขาไปพักที่โรงแรมใกล้ที่ทำการขององค์กร โดยเขาสัญญาว่าจะมาพบเราในเช้าวันที่ 23 ก.ย. เพื่อไปรับหนังสือเดินทางด้วยกัน และบ่ายเราจะส่งตัวเขาไปสนามบินเพื่อเดินทางกลับ แต่เขาก็หลบหนีไปและทราบมาว่าคืนวันจันทร์ที่ 22 ก.ย. เขาไปนั่งขอทานที่พัฒน์พงศ์อีกแล้ว..."

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบในเฟซบุ๊คที่มีการพูดถึงนายเบนจามิน โฮลส์ ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน พบว่ามีผู้ใช้ชื่อ "แม่ บัวพ้นน้ำ" โพสต์ข้อความเตือนคนไทยว่า อย่าหลงเชื่อพฤติกรรมของนายเบนจามิน โฮลส์ แต่กลับถูกต่อว่าในทางที่เสียหาย จนเมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่มีการแชร์ภาพนายเบนจามิน โฮลส์ ที่ชายหาดเมืองพัทยา จ.ชลบุรี "แม่ บัวพ้นน้ำ" ก็เข้ามาโพสต์ข้อความล่าสุดว่า "ฝรั่งตัวนี้มันคนเลว ทำงานขับสิบล้อ เมามาเที่ยวไทย คนไทยสงสารให้ความช่วยเหลือ ออกทีวีไทย มันโพสเฟส มันหัวร่อร่า ดีใจ งานการไม่ทำ กลับมาทำใช้ชีวิตน่าสงสารให้คนไทยช่วยมัน คนทำงาน เขาบินมาเที่ยวเต็มที่ 4 อาทิตย์ ต้องตาหูแหกรีบบินกลับกลัวตกงานถ้ากลับไปทำงานไม่ทัน คนเยอรมันตอนนี้ตกงานเยอะแยะ ไอ้นี่พวกขี้เมา ขี้เกียจทำงาน ไม่ยอมกลับเยอรมัน มันชั่ว ฉันเคยโพสเตือนทุกคน แต่ไม่ค่อยมีคนฟังกลับด่าฉันเสียอีก ทีนี้ถึงกึ๋น"

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพบว่านายเบนจามิน โฮลส์ มีเฟซบุ๊ค Benjamin Holst ด้วย โดยตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ได้โพสต์ภาพและข้อความว่าอยู่ในประเทศญี่ปุ่น จนวันที่ 2 กันยายน โพสต์ว่า "กำลังจะเดินทางเข้าประเทศไทย" และวันที่ 3 กันยายน เวลา 21.45 น. โพสต์ข้อความว่า "มาถึงกรุงเทพมหานคร"
กำลังโหลดความคิดเห็น