00 ใครจะนึกว่าคนอย่าง ธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่เคยสนุกสนานกับอำนาจ ในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สามารถใช้ดุลพินิจในการสอบสวน สั่งฟ้องคดีมากมาย ทำให้หลายคนก่อนหน้านี้เหมือนกับมีชีวิตอยู่ในกำมือของเขา แบบจะบีบก็ตายได้ตลอดเวลา และกลายเป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาลชุดที่แล้ว เป็นมือไม้ที่ขาดไม่ได้เป็นอันขาด อย่างไรก็ดี มาถึงวันนี้ทุกอย่างกลับตาลปัตร กลายเป็นว่ากำลังถูกกฎหมายไล่ล่ากระชั้นชิดเข้ามาทุกที ชนิดที่เรียกว่า ตัวเขาเองก็คาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้
00 โดยก่อนหน้านี้ เขาถูกระบุว่า บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีการสร้างบ้านพักในลักษณะเป็นธุรกิจโฮมสเตย์ ในชื่อของภรรยา โดยมีบ้านพักจำนวนสองหลัง ที่มีการระบุชัดเจนว่า สร้างบุกรุกป่าสงวนฯ แม้ว่าในเวลาต่อมาจะชิงทุบทิ้งบ้านสองหลังดังกล่าวก่อนที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเข้าไปรื้อถอนก็ตาม แต่การดำเนินคดี คงดำเนินต่อไป
00 ต่อมากำลังจะถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันนั่นคือ เข้าไปครอบครองที่ดินโดยมิชอบจำนวน 2 แปลง ในพื้นที่นิคมลำตะคอง และบริเวณเขาหนองเชื่อม ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ประมาณเกือบ 50 ไร่ โดยเป็นการออกเอกสารสิทธิ์รุกเข้าไปในพื้นที่ สปก. และพื้นที่ทหาร โดยมีรายงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่าย "ทวงคืนผืนป่าฯ" ได้ระบุว่า การยื่นขอเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ กระทำในช่วงที่เป็นอัยการจังหวัดนครราชสีมา นี่คือตัวอย่างจาก "กรรม" ของตัวเองที่ก่อขึ้นมาเอง เป็นแค่กรรมหนึ่งเท่านั้น เพราะยังไม่นับรวมคดีอาญาต่างๆ ที่กำลังตามมาอีกมากมายที่ถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหา "ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวยังเคยโอดครวญออกมาในทำนองว่า "รู้ชะตากรรม" แล้วว่านับจากนี้ จะต้องเดินขึ้นศาลไปตลอด หาความสงบไม่ได้แล้ว และนี่คือบทเรียนสำหรับข้าราชการคนหนึ่ง ที่ใช้อำนาจส่อไปในทางมิชอบ รับใช้การเมืองแบบสุดลิ่มทิ่มประตู จนบางครั้งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงได้ทำถึงขนาดนี้ หรือว่า "ถูกเเบล็กเมล์" หรือถูกกำข้อมูลลับอะไรหรือเปล่าถึงได้ยอมตายถวายชีวิต แต่เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือ จึงต้องประสบชะตากรรมที่น่าสมเพช อย่างที่เห็น !!
00 สำหรับ อำพน กิตติอำพน รายนี้ถือว่าน่าจับตาไปอีกแบบ เพราะต้องบอกว่า จัดอยู่ในประเภท "มนุษย์พันธุ์พิเศษ" อยู่เหมือนกัน เพราะสามารถอยู่ยงคงกระพันแบบไม่มีปัญหา ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะไป จะมา เขาก็ยังแน่นมั่นคง ล่าสุดได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล "ประยุทธ์1" ให้ต่ออายุในตำแหน่งเลขาฯ ครม.ไปอีก 1 ปี เป็นครั้งที่หนึ่ง ซึ่งในอนาคตเมื่อครบกำหนดก็อาจต่อได้อีกหนึ่งครั้งแบบเต็มเพดานหรือเปล่า น่าติดตาม แต่อย่างน้อย เมื่อเส้นทางเดินแบบนี้ย่อมไม่ธรรมดา ผลงานเข้าตา ใครมาก็ต้องเรียกใช้ !!
00 ร้อนตามคาดกับวงเสวนา "ถาม-ตอบพลังงาน" ครั้งที่ 2 ที่ห้องประชุมกองทัพบก ดำเนินรายการโดย หลวงปู่พุทธะอิสระ จุดโฟกัส ก็ต้องเป็นคำตอบของฝ่ายตัวแทน ปตท. คือ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ด ปตท. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ฝ่ายภาคประชาชนที่คราวนี้มากันครบ ทั้ง รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. วีระ สมความคิด ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ อิฐบูรณ์ อ้นวงษา ที่ติดตามเรื่องการทวงคืนพลังงานมาเป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ ประเด็นคำถาม คำตอบ ก็ยังเป็นเรื่องข้อข้องใจ เรื่องครอบครองท่อก๊าซโดยมิชอบของ ปตท. ว่ายังไม่คืนกลับมาให้รัฐทั้งหมดตามคำสั่งศาลปกครอง แต่ฝ่ายปตท.ก็เถียงว่า คืนหมดแล้ว แต่ที่เหลืออยู่นั้น ปตท.ลงทุนสร้างเอง เรื่องนี้หาจุดจบไม่ได้สักที เรื่องการคำนวณราคาพลังงานที่แพงเกินจริง การเลิก-ไม่เลิก กองทุนน้ำมัน เป็นต้น แต่ที่ไม่งามก็คือ คำตอบแบบยียวน ท้าทายของ ปิยสวัสดิ์ ที่ให้ใครก็ตามที่ยังข้องใจ ให้ไปค้นหาคำตอบเอาเอง อ้างว่าเป็นข้อมูลสาธารณะ เหมือนกับว่าตัวเองกำข้อมูลมาตอบแค่นี้ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ตอบ ถ้ายังสงสัย ก็ไปหาเอง อย่างไรก็ดี งานนี้แม้จะไม่มีคำตอบชัดเจน แต่ก็ทำให้ได้เห็นท่าทีของฝ่ายรัฐ และปตท. ซึ่งในที่สุดก็ต้องมีบทสรุปจนได้แหละ !!
00 โดยก่อนหน้านี้ เขาถูกระบุว่า บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า ป่าเขานกยูง ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีการสร้างบ้านพักในลักษณะเป็นธุรกิจโฮมสเตย์ ในชื่อของภรรยา โดยมีบ้านพักจำนวนสองหลัง ที่มีการระบุชัดเจนว่า สร้างบุกรุกป่าสงวนฯ แม้ว่าในเวลาต่อมาจะชิงทุบทิ้งบ้านสองหลังดังกล่าวก่อนที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเข้าไปรื้อถอนก็ตาม แต่การดำเนินคดี คงดำเนินต่อไป
00 ต่อมากำลังจะถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันนั่นคือ เข้าไปครอบครองที่ดินโดยมิชอบจำนวน 2 แปลง ในพื้นที่นิคมลำตะคอง และบริเวณเขาหนองเชื่อม ต.วังกะทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ประมาณเกือบ 50 ไร่ โดยเป็นการออกเอกสารสิทธิ์รุกเข้าไปในพื้นที่ สปก. และพื้นที่ทหาร โดยมีรายงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่าย "ทวงคืนผืนป่าฯ" ได้ระบุว่า การยื่นขอเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวของ ธาริต เพ็งดิษฐ์ กระทำในช่วงที่เป็นอัยการจังหวัดนครราชสีมา นี่คือตัวอย่างจาก "กรรม" ของตัวเองที่ก่อขึ้นมาเอง เป็นแค่กรรมหนึ่งเท่านั้น เพราะยังไม่นับรวมคดีอาญาต่างๆ ที่กำลังตามมาอีกมากมายที่ถูกฟ้องดำเนินคดีในข้อหา "ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ" กลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวยังเคยโอดครวญออกมาในทำนองว่า "รู้ชะตากรรม" แล้วว่านับจากนี้ จะต้องเดินขึ้นศาลไปตลอด หาความสงบไม่ได้แล้ว และนี่คือบทเรียนสำหรับข้าราชการคนหนึ่ง ที่ใช้อำนาจส่อไปในทางมิชอบ รับใช้การเมืองแบบสุดลิ่มทิ่มประตู จนบางครั้งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงได้ทำถึงขนาดนี้ หรือว่า "ถูกเเบล็กเมล์" หรือถูกกำข้อมูลลับอะไรหรือเปล่าถึงได้ยอมตายถวายชีวิต แต่เมื่ออำนาจเปลี่ยนมือ จึงต้องประสบชะตากรรมที่น่าสมเพช อย่างที่เห็น !!
00 สำหรับ อำพน กิตติอำพน รายนี้ถือว่าน่าจับตาไปอีกแบบ เพราะต้องบอกว่า จัดอยู่ในประเภท "มนุษย์พันธุ์พิเศษ" อยู่เหมือนกัน เพราะสามารถอยู่ยงคงกระพันแบบไม่มีปัญหา ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะไป จะมา เขาก็ยังแน่นมั่นคง ล่าสุดได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล "ประยุทธ์1" ให้ต่ออายุในตำแหน่งเลขาฯ ครม.ไปอีก 1 ปี เป็นครั้งที่หนึ่ง ซึ่งในอนาคตเมื่อครบกำหนดก็อาจต่อได้อีกหนึ่งครั้งแบบเต็มเพดานหรือเปล่า น่าติดตาม แต่อย่างน้อย เมื่อเส้นทางเดินแบบนี้ย่อมไม่ธรรมดา ผลงานเข้าตา ใครมาก็ต้องเรียกใช้ !!
00 ร้อนตามคาดกับวงเสวนา "ถาม-ตอบพลังงาน" ครั้งที่ 2 ที่ห้องประชุมกองทัพบก ดำเนินรายการโดย หลวงปู่พุทธะอิสระ จุดโฟกัส ก็ต้องเป็นคำตอบของฝ่ายตัวแทน ปตท. คือ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานบอร์ด ปตท. ไพรินทร์ ชูโชติถาวร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ฝ่ายภาคประชาชนที่คราวนี้มากันครบ ทั้ง รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. วีระ สมความคิด ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ อิฐบูรณ์ อ้นวงษา ที่ติดตามเรื่องการทวงคืนพลังงานมาเป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ ประเด็นคำถาม คำตอบ ก็ยังเป็นเรื่องข้อข้องใจ เรื่องครอบครองท่อก๊าซโดยมิชอบของ ปตท. ว่ายังไม่คืนกลับมาให้รัฐทั้งหมดตามคำสั่งศาลปกครอง แต่ฝ่ายปตท.ก็เถียงว่า คืนหมดแล้ว แต่ที่เหลืออยู่นั้น ปตท.ลงทุนสร้างเอง เรื่องนี้หาจุดจบไม่ได้สักที เรื่องการคำนวณราคาพลังงานที่แพงเกินจริง การเลิก-ไม่เลิก กองทุนน้ำมัน เป็นต้น แต่ที่ไม่งามก็คือ คำตอบแบบยียวน ท้าทายของ ปิยสวัสดิ์ ที่ให้ใครก็ตามที่ยังข้องใจ ให้ไปค้นหาคำตอบเอาเอง อ้างว่าเป็นข้อมูลสาธารณะ เหมือนกับว่าตัวเองกำข้อมูลมาตอบแค่นี้ นอกเหนือจากนี้ก็ไม่ตอบ ถ้ายังสงสัย ก็ไปหาเอง อย่างไรก็ดี งานนี้แม้จะไม่มีคำตอบชัดเจน แต่ก็ทำให้ได้เห็นท่าทีของฝ่ายรัฐ และปตท. ซึ่งในที่สุดก็ต้องมีบทสรุปจนได้แหละ !!