3 หน่วยงาน ร่วมบูรณะราชรถพระนำและราชรถเชิญพระโกศพระศพสมเด็จพระสังฆราชเสร็จสมบูรณ์แล้ว พร้อมใช้ในริ้วกระบวนพระอิสริยยศอย่างสมพระเกียรติ
วานนี้ (22 ก.ย.) ที่สำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวการบูรณะซ่อมแซมราชรถพระนำและราชรถเชิญพระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ว่า กรมศิลปากร ร่วมกับ กรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ ดำเนินการซ่อมแซมราชรถเพื่อใช้ในริ้วกระบวนพระอิสริยยศเชิญพระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มซ่อมแซ่อมตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. ถึง 15 ก.ย. 2557 รวมระยะเวลา 6 เดือน ใช้งบประมาณ 2,147,300 บาท โดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรได้ทำการเสริมความแข็งแรงโครงไม้ ลวดลายแกะสลักที่ชำรุดเสียหาย และงานปิดทองประดับกระจก งานผ้าลายทองแผ่ลวด ซึ่งซ่อมในส่วนลวดลายผิดไปจากรูปแบบงานศิลปกรรมไทยที่ถูกต้องให้สมบูรณ์ครบถ้วน สำหรับกรมสรรพาวุธทหารบก ได้ดำเนินการซ่อมเปลี่ยนระบบล้อ สำรวจตรวจสอบกลไกชุดเคลื่อนที่ ล้อ เพลาแหนบ คันบังคับเลี้ยว ของราชรถทั้ง 2 องค์ ส่วนกรมอู่ทหารเรือ ได้จัดการในส่วนงานการทำเชือกฉุดชักราชรถทั้ง 2 องค์ ทั้งนี้ สรุปได้ว่าการซ่อมแซมถือว่าได้ดำเนินงานเสร็จสมบูรณ์ตามอย่างโบราณราชประเพณี และพร้อมใช้ในริ้วกระบวนพระอิสริยยศอย่างสมพระเกียรติ
นายอเนก กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ กำหนดวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ดังนั้น กรมศิลปากร จะเก็บรักษาราชรถทั้ง 2 องค์ไว้ที่ สำนักช่างสิบหมู่ เพื่อจะต้องดูแลควบคุมความชื้น และใช้พลาสติกคลุม ป้องกันฝุ่น สำหรับงานส่วนอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ได้มอบหมายให้ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ดูแลการจัดพิมพ์ จดหมายเหตุในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ขณะที่ สำนักการสังคีต ก็ได้วางแผนงานการแสดงสมโภชไว้แล้ว
ด้าน พล.ต.ชาญชลิต พนมสารนรินทร์ ผู้บัญชาการศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก กล่าวว่า กรมสรรพาวุธได้ดำเนินการตรวจสอบกลไกชุดส่วนประกอบการขับเคลื่อนที่ช่วงล่างของราชรถพระนำ และราชรถเชิญพระโกศพระศพ ได้แก่ ล้อ เพลาแหนบ คันบังคับเลี้ยวของราชรถทั้ง 2 องค์ โดยได้รับไม้มีค่าจากหน่วยงาน ตลอดจนประชาชนที่นำมามอบให้ ทั้งไม้สักทอง ไม้มะค่า ไม้แดง ที่ใช้แกะสลักทำงอน หัวนาค หัวนาคงอนราชรถ หัวนาคหน้าเกริน กนกท้ายเกริน กนกท้ายเกรินราชรถ และดุมล้อ โดยการดำเนินงานใช้ความละเอียดและมีตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงทุกขั้นตอน
ขณะที่ พลเรือตรีสงกรานต์ ต่อศรี ผู้อำนวยการอู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ กล่าวว่า กรมอู่ทหารเรือได้ดำเนินการจัดทำเชือกฉุดชักราชรถทั้ง 2 องค์ ทั้งเชือกหลัก และเชือกประคอง โดยใช้เชือกไนล่อนใยสังเคราะห์ ที่มีความเหนียวแน่นพันด้วยผ้าสีแดง รวมทั้งห่วงคล้องไหล่ สำหรับกำลังพลฉุดชัก โดยได้มีการตรวจสอบความแข็งแรง และการรองรับน้ำหนัก โดยราชรถพระนำ ทดสอบโดยแผ่นอิฐเหลี่ยม น้ำหนักกว่า 200 กก. ส่วนราชรถเชิญพระโกศพระศพ ทดสอบโดยนำน้ำใส่แกลลอน จำนวนกว่า 500 กก. รวมถึงระบบเลี้ยวต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้มีความปลอดภัยทุกด้านแล้ว
วานนี้ (22 ก.ย.) ที่สำนักช่างสิบหมู่ จ.นครปฐม นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวการบูรณะซ่อมแซมราชรถพระนำและราชรถเชิญพระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ว่า กรมศิลปากร ร่วมกับ กรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ ดำเนินการซ่อมแซมราชรถเพื่อใช้ในริ้วกระบวนพระอิสริยยศเชิญพระโกศพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเริ่มซ่อมแซ่อมตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. ถึง 15 ก.ย. 2557 รวมระยะเวลา 6 เดือน ใช้งบประมาณ 2,147,300 บาท โดยสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรได้ทำการเสริมความแข็งแรงโครงไม้ ลวดลายแกะสลักที่ชำรุดเสียหาย และงานปิดทองประดับกระจก งานผ้าลายทองแผ่ลวด ซึ่งซ่อมในส่วนลวดลายผิดไปจากรูปแบบงานศิลปกรรมไทยที่ถูกต้องให้สมบูรณ์ครบถ้วน สำหรับกรมสรรพาวุธทหารบก ได้ดำเนินการซ่อมเปลี่ยนระบบล้อ สำรวจตรวจสอบกลไกชุดเคลื่อนที่ ล้อ เพลาแหนบ คันบังคับเลี้ยว ของราชรถทั้ง 2 องค์ ส่วนกรมอู่ทหารเรือ ได้จัดการในส่วนงานการทำเชือกฉุดชักราชรถทั้ง 2 องค์ ทั้งนี้ สรุปได้ว่าการซ่อมแซมถือว่าได้ดำเนินงานเสร็จสมบูรณ์ตามอย่างโบราณราชประเพณี และพร้อมใช้ในริ้วกระบวนพระอิสริยยศอย่างสมพระเกียรติ
นายอเนก กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ กำหนดวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ดังนั้น กรมศิลปากร จะเก็บรักษาราชรถทั้ง 2 องค์ไว้ที่ สำนักช่างสิบหมู่ เพื่อจะต้องดูแลควบคุมความชื้น และใช้พลาสติกคลุม ป้องกันฝุ่น สำหรับงานส่วนอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบ ได้มอบหมายให้ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ดูแลการจัดพิมพ์ จดหมายเหตุในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ขณะที่ สำนักการสังคีต ก็ได้วางแผนงานการแสดงสมโภชไว้แล้ว
ด้าน พล.ต.ชาญชลิต พนมสารนรินทร์ ผู้บัญชาการศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก กล่าวว่า กรมสรรพาวุธได้ดำเนินการตรวจสอบกลไกชุดส่วนประกอบการขับเคลื่อนที่ช่วงล่างของราชรถพระนำ และราชรถเชิญพระโกศพระศพ ได้แก่ ล้อ เพลาแหนบ คันบังคับเลี้ยวของราชรถทั้ง 2 องค์ โดยได้รับไม้มีค่าจากหน่วยงาน ตลอดจนประชาชนที่นำมามอบให้ ทั้งไม้สักทอง ไม้มะค่า ไม้แดง ที่ใช้แกะสลักทำงอน หัวนาค หัวนาคงอนราชรถ หัวนาคหน้าเกริน กนกท้ายเกริน กนกท้ายเกรินราชรถ และดุมล้อ โดยการดำเนินงานใช้ความละเอียดและมีตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงทุกขั้นตอน
ขณะที่ พลเรือตรีสงกรานต์ ต่อศรี ผู้อำนวยการอู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ กล่าวว่า กรมอู่ทหารเรือได้ดำเนินการจัดทำเชือกฉุดชักราชรถทั้ง 2 องค์ ทั้งเชือกหลัก และเชือกประคอง โดยใช้เชือกไนล่อนใยสังเคราะห์ ที่มีความเหนียวแน่นพันด้วยผ้าสีแดง รวมทั้งห่วงคล้องไหล่ สำหรับกำลังพลฉุดชัก โดยได้มีการตรวจสอบความแข็งแรง และการรองรับน้ำหนัก โดยราชรถพระนำ ทดสอบโดยแผ่นอิฐเหลี่ยม น้ำหนักกว่า 200 กก. ส่วนราชรถเชิญพระโกศพระศพ ทดสอบโดยนำน้ำใส่แกลลอน จำนวนกว่า 500 กก. รวมถึงระบบเลี้ยวต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้มีความปลอดภัยทุกด้านแล้ว
