ขยายปมโยกย้าย“บิ๊ก มท.” เบื้องลึกเบื้องหลังเก้าอี้ดนตรี

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -จะว่าไปการโยกย้ายข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย ที่เพิ่งได้รับการตีตราประทับรับรองไปในการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรกของ “ครม.ประยุทธ์” ก็ถือเป็นไปตามฤดูกาลปกติที่ต้องมีการสลับปรับเปลี่ยน เหตุเพราะหลายคนถึงเวลาเกษียณอายุราชการ ในช่วงปลายเดือนกันยายน

สำหรับบัญชีโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ( รองปลัด อธิบดี ผู้ว่าฯ ผู้ตรวจราชการ ) ของกระทรวงมหาดไทย ในครั้งนี้ มีจำนวน 37 ตำเเหน่ง ที่ได้รับการอนุมัติจากการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 ประกอบด้วย

1. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช เป็นรองปลัดกระทรวง 2. นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าฯชุมพร เป็นผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช 3. นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง เป็นอธิบดีกรมที่ดิน 4. นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าฯสงขลา เป็นอธิบดีกรมการปกครอง 5. นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าฯพังงา เป็นผู้ว่าฯสงขลา 6. นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการสมุทรปราการ เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง 7. นายพินิจ หาญพาณิชย์ อธิบดีกรมที่ดิน เป็นผู้ว่าฯสมุทรปราการ 8. นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าฯอุบลราชธานี เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง 9. นายเสริม ไชยณรงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯอุบลราชธานี

10.นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าฯระยอง เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง 11. นายธานี สามารถกิจ ผู้ตรวจราชการจังหวัดกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯระยอง 12. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าฯขอนแก่น เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง 13. นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าฯชัยนาท เป็น ผู้ว่าฯขอนแก่น 14. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าฯสระบุรี เป็น ผู้ว่าฯชัยนาท 15. นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าฯเชียงใหม่ เป็น ผู้ว่าฯสระบุรี 16. นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าฯตาก เป็น ผู้ว่าฯเชียงใหม่ 17. นายสมชัยฐ์ หทยะตันติ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯตาก

18.นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง 19. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เป็น ผู้ว่าฯร้อยเอ็ด 20. นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ เป็น ผู้ตรวจราชการกระทรวง 21.นายภุชงค์ โพธิกุฎสัย ที่ปรึกษาด้านการปกครอง เป็น ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ 22. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการบุรีรัมย์ เป็น ผู้ว่าฯนครราชสีมา 23. นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าฯพัทลุง เป็น ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ 24. นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯนครราชสีมา เป็น ผู้ว่าฯพัทลุง 25. นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็น ผู้ว่าฯจันทบุรี

26.นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าฯภูเก็ต เป็น รองปลัดกระทรวง 27. นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าฯราชบุรี เป็น ผู้ว่าฯภูเก็ต 28. นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผู้ว่าฯสิงห์บุรี เป็น ผู้ว่าฯ ราชบุรี 29. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าฯบึงกาฬ เป็น ผู้ว่าฯสิงห์บุรี 30. นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าฯอุทัยธานี เป็น ผู้ว่าฯ กาญจนบุรี 31. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ เป็น ผู้ว่าฯชัยภูมิ

32.นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าฯพิษณุโลก เป็น ผู้ว่าฯนครสวรรค์ 33. นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าฯสุโขทัย เป็น ผู้ว่าฯพิษณุโลก 34.นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม เป็น ผู้ว่าฯนนทบุรี 35. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าฯแพร่ เป็น ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา 36. นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าฯยะลา เป็น ผู้ว่าฯสตูล และ 37. นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าฯมหาสารคาม เป็น ผู้ว่าฯอุดรธานี

การโยกย้ายภายของกระทรวงมหาดไทยทุกครั้งย่อมมีกลิ่นอายการขับเคี่ยว ห้ำหั่นกันของ “สิงห์ดำ”รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ “สิงห์แดง”รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมี “สิงห์ทอง”รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ “สิงห์ขาว”รัฐศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมแจมด้วย

ครั้งนี้ก็เช่นกันที่กลายเป็นเวทีเวทีประลองกำลังของ“สิงห์ดำ-สิงห์แดง”อีกครั้ง เพราะก่อนที่ “บิ๊กป๊อก - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทย คนใหม่ ก็มีคลื่นใต้น้ำภายในกระทรวงคลองหลอด ปล่อยโผหลอกออกมา โดยคิดการใหญ่ถึงขนาดจะงัด “วิบูลย์ สงวนพงษ์” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกจากตำแหน่งเลยด้วยซ้ำ

ซึ่งมองไม่ยากว่าเป็นฝีมือการปล่อยข่าวจาก “ค่ายสิงห์แดง”ที่หวังใช้จังหวะชุลมุน สอย “ปลัดวิบูลย์”แห่ง “ค่ายสิงห์ดำ”ออกจากเก้าอี้แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งยังส่งผลให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายกรัฐมนตรี ต้องออกคำสั่งห้ามให้มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการใดๆ จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ นัยว่าเป็นการเบรกกระแสคลื่นใต้น้ำภายในกระทรวงคลองหลอดโดยเฉพาะ 

ในความเป็นจริง โผการโยกย้าย ขรก.ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยรอบนี้ ทำเสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และส่งให้ คสช. พิจารณาแล้วด้วย แต่ก็ถูกเบรกเอาไว้ เพื่อรอให้มีการแต่งตั้งนายกฯ-ครม.ให้เรียบร้อยก่อน จนเมื่อ “บิ๊กป๊อก”เข้ามารับตำแหน่ง “มท.1” จึงกลั่นกรองก่อนชงเข้าที่ประชุม ครม.หนแรก ตามที่รับทราบกันไปแล้ว

พล.อ.อนุพงษ์ พูดถึงการแต่งตั้งโยกย้ายรอบนี้เอาไว้ว่า “ผมเพิ่งมา ยังไม่รู้จักโครงสร้างมากนัก เพียงแค่มาดำเนินการให้ถูกต้องตามประกาศของ คสช. ส่วนการโยกย้ายอธิบดีกรมที่ดิน ทั้งที่มาปฏิบัติงานได้เพียง 2 เดือนนั้น ก็ขอย้ำและยืนยันว่า ทำตามความเหมาะสม ไม่ได้รื้อ เป็นมติของปลัด มท. และคณะที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ซึ่ง มท. ก็ได้บอกว่าพิจารณาและกลั่นกรองเป็นอย่างดีแล้ว"

ที่ “บิ๊กป๊อก”ต้องออกมาชี้แจงแถลงไข ก็เนื่องมาจากกระแสข่าวที่ว่า ท่าน มท.1 เข้ามาล้วงโผในนาทีสุดท้าย จนเป็นเหตุให้ “พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า” ผู้ว่าฯชุมพร ที่เพิ่งได้เข้ากรุงมาทำหน้าที่อธิบดีกรมที่ดิน ตามคำสั่งคสช.ได้ยังไม่ครบ 3 เดือนดี ต้องล่องใต้อีกครั้ง ไปเป็นผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช และให้ “ศิริพงษ์ ห่านตระกูล”รองปลัดกระทรวง ที่ถูกเด้งจากอธิบดีกรมการปกครอง เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน ตามคำสั่ง คสช.มาเป็นอธิบดีกรมที่ดินแทน
 
ว่ากันว่า “พีระศักดิ์”เจอมืดดีเจาะยาง โดยนำคลิปตอนเป็นผู้ว่าฯชุมพร เมื่อครั้งสั่งตั้งกรรมการสอบกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ที่เป็นแนวร่วม กปปส. จนชื่อของ“พีระศักดิ์”เกือบโดนเก็บเข้ากรุผู้ตรวจฯอีกหน หลังจากที่เคยโดยมวลน้ำซัดกระเด็น จากผู้ว่าฯปทุมธานี เข้าไปอยู่ในกรุมาแล้วหนหนึ่ง เมื่อครั้งมหาอุทกภัยปี 54

รวมไปถึงกรณีที่ “พีระศักดิ์”ไปสะดุดตอขบวนการรุกป่าสงวน อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เมืองภูเก็ต ที่เป็นเรื่องแดงขึ้นมาในช่วงที่เข้ามารับตำแหน่ง จนมีปัญหาข้ามกระทรวงด้วยก็น่าจะเป็นอีก เหตุผลกนึ่ง

ยังดีรอบนี้มีคนกันตีฝีมือจนได้โอกาสไปโชว์ผลงานพ่อเมืองต่อที่ “เมืองคอน”

ส่วนตำแหน่งที่น่าสนใจอื่นๆ ที่สลับปับเปลี่ยนกันในรอบนี้ก็มี อาทิ “อภินันท์ ชื่อธานุวงศ์”แห่งค่ายสิงห์ดำ ที่ผละตำแหน่งผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช มาเป็น “รองปลัดมหาดไทย”ซึ่งคาดหมายว่าอาจจะมาเป็นตัวตายตัวแทนของฝั่งสิงห์ดำ เพราะ “ปลัดวิบูลย์”มีคิวเกษียณในปี 2558

ด้าน “จักริน เปลี่ยนวงษ์” ผู้ว่าฯสุโขทัย ที่ขึ้นชั้นมาเป็นผู้ว่าฯพิษณุโลก ก็มีข่าวว่าได้แรงหนุนพิเศษเพราะบุตรสาว เป็นสะใภ้ของ "บิ๊กหนุ่ย" พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ และแกนนำ คสช. จนทำให้ “ระพี ผ่องบุพกิจ”เจ้าของเก้าอี้เดิมต้องไปเป็นผู้ว่าฯนครสวรรคแทน

ขณะที่ “อภิชาติ โตดิลกเวชช์”ก็ได้รับอานิสงส์ จากการเป็นสิงห์ดำ ย้ายจาก จ.แพร่ มาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นจังหวัดเกรดเอ รับไม้ต่อจาก “วิทยา ผิวผ่อง”รุ่นพี่สิงห์ดำ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการปลายเดือนกันยายนนี้

ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ เป็นไปตามที่ปลัด มท.เคยมีคำสั่งไปเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2557 ในยุค คสช. เพียงแต่ยังไม่ได้ผ่านที่ประชุม ครม. ทั้ง “สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต”ผู้ว่าฯขอนแก่นที่เข้ากรุผู้ตรวจฯ “กำธร ถาวรสถิตย์” ผู้ว่าฯชัยนาทที่ไปเป็นพ่อเมืองขอนแก่นแทน “สุทธิพงศ์ จุลเจริญ”ผู้ว่าฯสระบุรีสลับไปอยู่ชัยนาท “วิเชียร พุฒิวิญญู”ผู้ว่าฯเชียงใหม่มาแทนที่ จ.สระบุรี “สุริยะ ประสาทบัณฑิต” ผู้ว่าฯตากขึ้นชั้นผู้ว่าฯเชียงใหม่ “สมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ” ออกจากผู้ตรวจฯไปเป็นผู้ว่าฯตาก “วินัย บัวประดิษฐ์” ผู้ว่าฯโคราชถูกอัปเปหิไปไกลถึง จ.พัทลุง และได้ “ธงชัย ลืออดุลย์” ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ โดดมาคุมโคราชแทน ส่วน “เสรี ศรีหะไตร” ผู้ว่าฯพัทลุง ก็ไปอยู่ จ.บุรีรัมย์
 
ครั้งนี้ แม้จะโยกย้ายล๊อตใหญ่ 37 เก้าอี้ แต่ก็ถือเป็นเพียงออเดิร์ฟเท่านั้น เพราะโผทำเสร็จล่วงหน้าแล้ว เร็วๆ นี้ ก็ยังมีอีก 20 กว่าเก้าอี้ ให้ขยับขยายกัน ดูแล้ว “เก้าอี้ดนตรี” หนหน้า ท่าน มท.1 คงเหนื่อยกว่านี้อีกโข