แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่ล่วงเลยมากว่า 4 ปีแล้ว แต่การจับตัว 5 ชายชุดดำที่ใช้อาวุธสงครามถล่มใส่ทหารบริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2533 จนพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิต พล.ท.วลิต โรจนภักดี บาดเจ็บสาหัส ยังเป็นข่าวใหญ่ที่ผู้คนสนใจ
การจับตัว 5 ชายชุดดำ เป็นการตอกย้ำว่า กลุ่มชายชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 มีจริง
ความพยายามบิดเบื้องอย่างไร้ยางอาย จากบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง โดยเฉพาะหัวโจกที่ปลุกระดมให้เกิดการเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งอ้างว่า ชายชุดดำไม่มีจริงนั้น ไม่ควรที่จะมีใครไปต่อล้อต่อเถียง
เพราะหลักฐานมีอยู่คาตาประชาชนทั้งประเทศ การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และมีการยิงอาวุธสงครามใส่ทหาร เห็นชัดว่า มีชายชุดดำถืออาวุธสงครามปะปนอยู่กับคนเสื้อแดง และมีการจับชายชุดดำในที่เกิดเหตุด้วยซ้ำ
ในช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุคนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ยังไม่ถูกเด้งจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสเอ) มีความพยายามฟอกดำให้เป็นขาว
พยายามพลิกคดีเผาบ้านเผาเมืองของแกนนำคนเสื้อแดง โดยทำให้คำสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นความผิด โดยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องรับผิดชอบต่อการสลายการชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ศพ
ถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ผิด แกนนำคนเสื้อแดงจะพลิกเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมทันที คนที่ปลุกระดมให้เผาบ้านเผาเมือง จะกลายเป็นวีรบุรุษของคนเสื้อแดง
นายธาริตยัดเยียดข้อหาให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เหิมเกริมถึงขั้นจะเรียกผู้บัญชาการทหารบกมาสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง โดยไม่รื้อฟื้นคดีสังหารนายทหารอย่างโหดเหี้ยม และปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่มีชายชุดดำเข้ามาสร้างสถานการณ์รุนแรง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เปิดตัวชายชุดดำที่ตามจับกุมตัวได้แล้ว 5 คน และกำลังตามจับอีก 2 คน รวมทั้งจะขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ
แกนนำคนเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทย ทยอยกันออกมาโจมตีการจับกุมชายชุดดำ อ้างว่าเป็นแพะ อ้างว่าไม่มีชายชุดดำ แต่ก็เป็นเสียงจากกลุ่มคนที่ไม่มีราคา
เป็นเพียงเสียงจากขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่พยายามเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง 19 พฤษภาคม 2553 เท่านั้น และไม่มีใครใส่ใจฟัง
แต่ประเด็นที่ใส่ใจคือ คดีชายชุดดำจะจบลงตรงไหน แค่โชว์ตัวชายชุดดำแล้วเงียบหาย หรือจะขยายผลไปสู่ผู้จ้างวาน และการลากคอตัวผู้บงการใหญ่
ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คงจะตั้งความคาดหวังคดีชายชุดดำไม่ได้ หรือถ้าเป็นรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ คดีคงถูกเป่าทิ้ง แต่นี่เป็นรัฐบาลทหารที่มีอำนาจเต็มมือ
การลากคอ 5 ชายชุดดำมาได้ ก็เพราะ คสช. เพราะบารมีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ชายชุดดำที่จับมา เป็นเพียงสมุนชั้นปลายแถวเท่านั้น ตัวการสำคัญยังลอยนวลอยู่ ผู้บงการใหญ่ยังไม่ถูกไล่ล่า
มีเหตุผลมากมายที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องสนใจคดีชายชุดดำเป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ ขนอาวุธสงครามถล่มใส่ทหารที่ไม่มีปืนป้องกันตัวกลางเมือง
พล.อ.ร่มเกล้าต้องเซ่นสังเวยชีวิต พล.ท.วลิตเกือบต้องตาย ด้วยฝีมือกลุ่มคนใจทรามอำมหิตที่ต้องการอำนาจทางการเมือง
ทหารอีกหลายนายต้องพลีชีพ อีกหลายนายต้องบาดเจ็บ อีกนับร้อยนับพันนาย ต้องเสียศักดิ์ศรีชายชาติทหาร เพราะถูกกลุ่มคนเสื้อแดงบุกยึดอาวุธ จับเป็นตัวประกัน ทำร้ายจิตใจ และความรุนแรงในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง มีความพยายามยัดเยียดความผิดให้ทหารเสียอีก
พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เรียกคืนความเป็นธรรมให้พล.อ.ร่มเกล้า ไม่ชำระสะสางคดีให้พล.ท.วลิตและทหารที่บาดเจ็บล้มตายจากเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 ที่บริเวณสี่แยกคอกวัวหรือ
การจับชายชุดดำเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของคดีเท่านั้น เพราะจะต้องสาวต่อไปให้ถึงผู้ร่วมขบวนการ ผู้จ้างวานและผู้บงการใหญ่
จะเป็นใคร อยู่ที่ใด ใหญ่ขนาดไหน ต้องกระชากหน้ากาก เปิดโปง และลากคอมาลงโทษให้ถึงที่สุด
นโยบายมองโลกสวย ใจดี ไม่ตามไล่ล่าใคร โดยหวังว่าโจรจะกลับใจ เห็นแล้วว่าใช้ไม่ได้ เพราะโจรไม่ยอมกลับใจ และกำลังหันมาทิ่มแทงพล.อ.ประยุทธ์เอง
หัวโจกคนเสื้อแดงที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ติดใจเอาความ ตอนนี้เริ่มส่งเสียงโหวกเหวกก่อหวอดความวุ่นวาย ทำลายบรรยากาศโลกอันแสนสวยของพล.อ.ประยุทธ์แล้ว ทีนี้จะทำยังไงกันดีล่ะ
การจับตัว 5 ชายชุดดำ เป็นการตอกย้ำว่า กลุ่มชายชุดดำที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง ในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง ช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 มีจริง
ความพยายามบิดเบื้องอย่างไร้ยางอาย จากบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง โดยเฉพาะหัวโจกที่ปลุกระดมให้เกิดการเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งอ้างว่า ชายชุดดำไม่มีจริงนั้น ไม่ควรที่จะมีใครไปต่อล้อต่อเถียง
เพราะหลักฐานมีอยู่คาตาประชาชนทั้งประเทศ การสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และมีการยิงอาวุธสงครามใส่ทหาร เห็นชัดว่า มีชายชุดดำถืออาวุธสงครามปะปนอยู่กับคนเสื้อแดง และมีการจับชายชุดดำในที่เกิดเหตุด้วยซ้ำ
ในช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุคนายธาริต เพ็งดิษฐ์ ยังไม่ถูกเด้งจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสเอ) มีความพยายามฟอกดำให้เป็นขาว
พยายามพลิกคดีเผาบ้านเผาเมืองของแกนนำคนเสื้อแดง โดยทำให้คำสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นความผิด โดยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะต้องรับผิดชอบต่อการสลายการชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ศพ
ถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ผิด แกนนำคนเสื้อแดงจะพลิกเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมทันที คนที่ปลุกระดมให้เผาบ้านเผาเมือง จะกลายเป็นวีรบุรุษของคนเสื้อแดง
นายธาริตยัดเยียดข้อหาให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เหิมเกริมถึงขั้นจะเรียกผู้บัญชาการทหารบกมาสอบสวนข้อเท็จจริงในคดีสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง โดยไม่รื้อฟื้นคดีสังหารนายทหารอย่างโหดเหี้ยม และปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่มีชายชุดดำเข้ามาสร้างสถานการณ์รุนแรง
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เปิดตัวชายชุดดำที่ตามจับกุมตัวได้แล้ว 5 คน และกำลังตามจับอีก 2 คน รวมทั้งจะขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ
แกนนำคนเสื้อแดงและแกนนำพรรคเพื่อไทย ทยอยกันออกมาโจมตีการจับกุมชายชุดดำ อ้างว่าเป็นแพะ อ้างว่าไม่มีชายชุดดำ แต่ก็เป็นเสียงจากกลุ่มคนที่ไม่มีราคา
เป็นเพียงเสียงจากขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่พยายามเบี่ยงเบนข้อเท็จจริงในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง 19 พฤษภาคม 2553 เท่านั้น และไม่มีใครใส่ใจฟัง
แต่ประเด็นที่ใส่ใจคือ คดีชายชุดดำจะจบลงตรงไหน แค่โชว์ตัวชายชุดดำแล้วเงียบหาย หรือจะขยายผลไปสู่ผู้จ้างวาน และการลากคอตัวผู้บงการใหญ่
ถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง คงจะตั้งความคาดหวังคดีชายชุดดำไม่ได้ หรือถ้าเป็นรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ คดีคงถูกเป่าทิ้ง แต่นี่เป็นรัฐบาลทหารที่มีอำนาจเต็มมือ
การลากคอ 5 ชายชุดดำมาได้ ก็เพราะ คสช. เพราะบารมีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ชายชุดดำที่จับมา เป็นเพียงสมุนชั้นปลายแถวเท่านั้น ตัวการสำคัญยังลอยนวลอยู่ ผู้บงการใหญ่ยังไม่ถูกไล่ล่า
มีเหตุผลมากมายที่พล.อ.ประยุทธ์จะต้องสนใจคดีชายชุดดำเป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ ขนอาวุธสงครามถล่มใส่ทหารที่ไม่มีปืนป้องกันตัวกลางเมือง
พล.อ.ร่มเกล้าต้องเซ่นสังเวยชีวิต พล.ท.วลิตเกือบต้องตาย ด้วยฝีมือกลุ่มคนใจทรามอำมหิตที่ต้องการอำนาจทางการเมือง
ทหารอีกหลายนายต้องพลีชีพ อีกหลายนายต้องบาดเจ็บ อีกนับร้อยนับพันนาย ต้องเสียศักดิ์ศรีชายชาติทหาร เพราะถูกกลุ่มคนเสื้อแดงบุกยึดอาวุธ จับเป็นตัวประกัน ทำร้ายจิตใจ และความรุนแรงในเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง มีความพยายามยัดเยียดความผิดให้ทหารเสียอีก
พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เรียกคืนความเป็นธรรมให้พล.อ.ร่มเกล้า ไม่ชำระสะสางคดีให้พล.ท.วลิตและทหารที่บาดเจ็บล้มตายจากเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 ที่บริเวณสี่แยกคอกวัวหรือ
การจับชายชุดดำเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของคดีเท่านั้น เพราะจะต้องสาวต่อไปให้ถึงผู้ร่วมขบวนการ ผู้จ้างวานและผู้บงการใหญ่
จะเป็นใคร อยู่ที่ใด ใหญ่ขนาดไหน ต้องกระชากหน้ากาก เปิดโปง และลากคอมาลงโทษให้ถึงที่สุด
นโยบายมองโลกสวย ใจดี ไม่ตามไล่ล่าใคร โดยหวังว่าโจรจะกลับใจ เห็นแล้วว่าใช้ไม่ได้ เพราะโจรไม่ยอมกลับใจ และกำลังหันมาทิ่มแทงพล.อ.ประยุทธ์เอง
หัวโจกคนเสื้อแดงที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ติดใจเอาความ ตอนนี้เริ่มส่งเสียงโหวกเหวกก่อหวอดความวุ่นวาย ทำลายบรรยากาศโลกอันแสนสวยของพล.อ.ประยุทธ์แล้ว ทีนี้จะทำยังไงกันดีล่ะ