ASTVผู้จัดการรายวัน – บอร์ดบมจ.อี ฟอร์ แอล เอม ไฟเขียวตั้งบริษัทย่อยเข้าซื้อ “วุฒิศักดิ์คลินิก” ทั้ง 100% มูลค่ารวม 4.5 พันล้านบาท เผยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของวุฒิศักดิ์คลินิกปรับสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทย่อยแห่งใหม่ 25% ผู้บริหารชี้จุดเด่นมีสาขา 120 แห่งทั่วประเทศและแฟรนไชส์ในประเทศเพื่อนบ้านรองรับเออีซี
นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จํากัด (WCIG) ทั้ง 100 % ผ่านบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ด้วยมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท
โดย EFORL จะเข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยใน 60 %ส่วนที่เหลืออีก 40% จะเป็นการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิม คือนายณกรณ์ กรณ์หิรัญ นายพลภัทร จันทร์วิเมลือง และนายวุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช โดยถือหุ้นบริษัทย่อยสัดส่วน 25 % และอีก 15 % ถือหุ้นโดยกองทุนซึ่งจัดตั้งและบริหารโดย Solaris Asset Management Company Limited
สำหรับบริษัทย่อยที่จะไปลงทุนซื้อ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จํากัด นั้น จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วรวมส่วนเกินทุนเป็นเงินทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท ซึ่ง EFORL ถือหุ้น 60 % ต้องใช้เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้EFORLจะกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศ ไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุน และ/หรือ ดำเนินการอื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น EFORL ในปัจจุบัน เนื่องจาก EFORL เป็นบริษัทที่ไม่มีภาระหนี้สิน
โดยบริษัทย่อยจะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดสัดส่วน 100% จากผู้ถือหุ้นเดิมของ WCIG โดยจํานวนเงินที่ใช้สําหรับการเข้าซื้อหุ้น WCIG ทั้งหมดรวม 153,395 หุ้น เป็นเงิน 3,500 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทย่อยจะให้ WCIG กู้ยืมเงิน ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อให้ WCIG นําไปจ่าย ชําระคืนหนี้เงินกู้ยืมทั้งหมดให้แก่ Wise Thai Company Limited ซึ่งทั้งหมดรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท
สำหรับเงินที่จะลงทุนครั้งนี้ บริษัทย่อยจะใช้แหล่งเงินมาจากส่วนทุนและจากการกู้ยืมเงิน โดยในส่วนของทุนบริษัทจะร่วมลงทุนกับผู้ร่วมลงทุนรายอื่น ด้วยเงินทุนชำระรวมส่วนเกินทุน 2,500 ล้านบาทดังที่กล่าวในข้างต้น นอกจากนี้ บริษัทย่อยจะกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศเป็นเงินรวม 2,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 วันที่ 22 ตุลาคม 57 เพื่อขออนุมัติดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ WCIG ประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทคลินิกเวชกรรมไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน โดยเน้นให้บริการคําปรึกษาและตรวจรักษาปัญหาด้านผิวพรรณและลดกระชับสัดส่วนภายใต้ชื่อ “วุฒิศักดิ์คลินิก” มีสาขารวม 120 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการในลักษณะ Franchise ในประเทศ สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนม่าร์ รวม 11 สาขา
“การได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทในครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจของ EFORL ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพและความงาม โดยธุรกิจหลักยังคงเป็นการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ โดยธุรกิจนี้จะเติบโตควบคู่ไปกับการลงทุนใน WCIG ได้อย่างลงตัว และเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตไปยังภูมิอาเซียนได้ในอนาคต” นายธีรวุทธิ์ กล่าว
นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จํากัด (WCIG) ทั้ง 100 % ผ่านบริษัทย่อยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ ด้วยมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท
โดย EFORL จะเข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยใน 60 %ส่วนที่เหลืออีก 40% จะเป็นการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายเดิม คือนายณกรณ์ กรณ์หิรัญ นายพลภัทร จันทร์วิเมลือง และนายวุฒิศักดิ์ ลิ่มพานิช โดยถือหุ้นบริษัทย่อยสัดส่วน 25 % และอีก 15 % ถือหุ้นโดยกองทุนซึ่งจัดตั้งและบริหารโดย Solaris Asset Management Company Limited
สำหรับบริษัทย่อยที่จะไปลงทุนซื้อ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์ กรุ๊ป จํากัด นั้น จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วรวมส่วนเกินทุนเป็นเงินทั้งสิ้น 2,500 ล้านบาท ซึ่ง EFORL ถือหุ้น 60 % ต้องใช้เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้EFORLจะกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศ ไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุน และ/หรือ ดำเนินการอื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น EFORL ในปัจจุบัน เนื่องจาก EFORL เป็นบริษัทที่ไม่มีภาระหนี้สิน
โดยบริษัทย่อยจะเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดสัดส่วน 100% จากผู้ถือหุ้นเดิมของ WCIG โดยจํานวนเงินที่ใช้สําหรับการเข้าซื้อหุ้น WCIG ทั้งหมดรวม 153,395 หุ้น เป็นเงิน 3,500 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทย่อยจะให้ WCIG กู้ยืมเงิน ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อให้ WCIG นําไปจ่าย ชําระคืนหนี้เงินกู้ยืมทั้งหมดให้แก่ Wise Thai Company Limited ซึ่งทั้งหมดรวมประมาณ 4,500 ล้านบาท
สำหรับเงินที่จะลงทุนครั้งนี้ บริษัทย่อยจะใช้แหล่งเงินมาจากส่วนทุนและจากการกู้ยืมเงิน โดยในส่วนของทุนบริษัทจะร่วมลงทุนกับผู้ร่วมลงทุนรายอื่น ด้วยเงินทุนชำระรวมส่วนเกินทุน 2,500 ล้านบาทดังที่กล่าวในข้างต้น นอกจากนี้ บริษัทย่อยจะกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศเป็นเงินรวม 2,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 วันที่ 22 ตุลาคม 57 เพื่อขออนุมัติดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ WCIG ประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทคลินิกเวชกรรมไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน โดยเน้นให้บริการคําปรึกษาและตรวจรักษาปัญหาด้านผิวพรรณและลดกระชับสัดส่วนภายใต้ชื่อ “วุฒิศักดิ์คลินิก” มีสาขารวม 120 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการในลักษณะ Franchise ในประเทศ สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และเมียนม่าร์ รวม 11 สาขา
“การได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทในครั้งนี้จะช่วยให้ธุรกิจของ EFORL ครอบคลุมทั้งด้านสุขภาพและความงาม โดยธุรกิจหลักยังคงเป็นการนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ โดยธุรกิจนี้จะเติบโตควบคู่ไปกับการลงทุนใน WCIG ได้อย่างลงตัว และเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตไปยังภูมิอาเซียนได้ในอนาคต” นายธีรวุทธิ์ กล่าว