xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวงฯ-พระราชินี พระพักตร์สดใส เสด็จฯกลับวังไกลกังวล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ในหลวง-ราชินี” เสด็จฯ ออกจาก รพ.ศิริราช กลับวังไกลกังวลแล้ว โดยตลอดตลอดระยะที่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งแล่นผ่าน ทั้งสองพระองค์ได้โบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลได้สร้างความปีติให้แก่พสกนิกรที่มารับเสด็จอย่างมาก บางส่วนกลั้นน้ำตาความปีตีไว้ไม่อยู่

หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงตรวจพระวรกาย ณ โรงพยาบาลศิริราช ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งคณะแพทย์ได้ถวายการตรวจพระวรกายด้วยเครื่องมือพิเศษ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ฯลฯ พบว่า อุณหภูมิพระวรกาย การหายพระหทัย ความดันพระโลหิต เป็นปกติ เช่นเดียวกับพระอุระ พระปัปผาสะ (ปอด) และภาวการณ์ทำงานของพระหทัยอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย.57 ทางสำนักพระราชวังได้แจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินกลับไปประทับ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมเวลาที่ประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช 41 วัน

วานนี้(15 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลศิริราช พสกนิกรจำนวนมากต่างสวมเสื้อสีเหลืองมาส่งเสด็จตั้งแต่ช่วงเช้า โดยนำเสื่อและผ้าพลาสติกมาปูจับจองพื้นที่บริเวณถนนภายในโรงพยาบาลที่ขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน เพื่อจะได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด จนทำให้สองฝั่งถนนคับคั่งไปด้วยผู้คน ขณะเดียวกันพ่อค้าแม่ค้าได้นำธงชาติไตรรงค์ และธงตราสัญญาลักษณ์ ภปร.มาจำหน่ายอีกด้วย

ต่อมาเวลา 16.56 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จลงจากที่ประทับ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ประทับรถตู้พระที่นั่ง โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับรถยนต์พระที่นั่งคันแรกด้านขวามือ ทรงมีพระพักตร์แจ่มใส ฉลองพระองค์สูทสีเหลืองและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทับรถยนต์พระที่นั่งคันที่สองด้านขวามือ ทรงมีพระพักตร์แจ่มใส ในฉลองพระองค์สีฟ้า โบกพระหัตถ์ให้พสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ โดยขบวนรถยนต์พระที่นั่ง เคลื่อนฯ จากชั้นใต้ดินอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งสองพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลให้แก่พสกนิกรที่มาเฝ้าฯ ส่งเสด็จตลอดสองข้างทาง ยังความปลื้มปีติมาสู่พสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ พสกนิกรบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติที่ได้เห็นล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงยิ่งขึน

จากนั้นขบวนรถยนต์พระที่นั่งแล่น ผ่านหน้าตึกกายวิภาค เลี้ยวขวาผ่านตึกเทคนิคการแพทย์ ตึกอำนวยการ แล้วออกจากโรงพยาบาลศิริราชทางประตู 8 (ประตูท่าน้ำ) เลี้ยวขวาที่สี่แยกโรงพยาบาลศิริราช โดยตลอดทั้งสองข้างทาง พสกนิกรที่เฝ้ารอส่งเสด็จต่าง โบกธงชาติไทยและธงตราสัญญาลักษณ์ ภปร. พร้อมกับเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ”ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ จากนั้นขบวนเสด็จฯ ขึ้นสะพานอรุณอมรินทร์ ก่อนขึ้นทางยกระดับลอยฟ้าบรมราชชนนี ลงแยกฉิมพลี ไปทางถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่ถนนเพชรเกษม ก่อนเข้าสู่วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

นายสุนทร งามเกิดศิริ วัย 41 ปี ผู้พิการแต่กำเนิดอดีตนักเรียนทุนสมเด็จย่า โรงเรียนศรีสังวาลย์ เผยความรู้สึกหลังจากที่ได้ชื่นชมพระบารมีของทั้งสองพระองค์ว่าหลังจากที่ทราบข่าวการเสด็จฯของทั้งสองพระองค์ก็รีบมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่บ่ายความร้อนและอุปสรรคทางร่างกายมิได้มีผลต่อการมาวันนี้เลย เพราะนาทีแรกที่ได้เห็นพระพักตร์ของทั้งสองพระองค์แล้ว รู้สึกปลาบปลื้มปิติเป็นที่สุดที่ได้เห็นทั้งสองพระองค์มีพระพักตร์สดใส และพระพลานามัยที่แข็งแรง

ด้าน ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาทรงตรวจพระวรกาย ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น คณะแพทย์ได้ตรวจพระวรกายอย่างละเอียดแล้วนั้นพบว่า พระวรกายเป็นปกติดีเรียบร้อยทุกอย่าง และเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประทับที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป

***จัดกำลัง 760 นาย ถวายอารักขา"ในหลวง-ราชินี"

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล และผู้ช่วยผู้อำนวยการ กองอำนวยการร่วม โรงพยาบาลศิริราช กล่าวถึงเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปยังวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยขบวนรถพระที่นั่งจะออกจากโรงพยาบาลศิริราช ทางประตู 8 หรือประตูท่าน้ำ เลี้ยวขวาตรงสี่แยกโรงพยาบาลศิริราช ขึ้นสะพานอรุณอัมรินทร์ จากนั้น ขึ้นทางยกระดับลอยฟ้าบรมราชชนนี ลงแยกฉิมพลี ไปทางถนนกาญจนาภิเษก เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 2 สู่ถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าวังไกลกังวล

ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก 22 หน่วย จำนวน 760 นาย เพื่อถวายอารักขา และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จ

ส่วนที่บริเวณท่าน้ำศิริราช กองทัพเรือได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่จากกองเรือลำน้ำ หมู่เรือถวายความปลอดภัยทางน้ำ จำนวน 18 นาย พร้อมเรือตรวจการณ์ลาดตระเวนทางน้ำ จำนวน 2 ลำ และเรือจู่โจมลาดตระเวนทางน้ำอีก 2 ลำ เพื่อถวายความปลอดภัยในช่วงที่จะเสด็จพระราชดำเนิน โดยจะปิดกั้นลำน้ำครึ่งแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วน ทางฝั่งโรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่บริเวณตึกนักศึกษาแพทย์ ถึงท่าน้ำศิริราช
กำลังโหลดความคิดเห็น