ASTVผู้จัดการรายวัน - ปตท.สผ.จ่อเลื่อนผลิตน้ำมันดิบแหล่งเบอร์ ซาบาในแอลจีเรียเป็นต้นปี 58 พร้อมทั้งเพิ่มหลุมเจาะประเมินในแหล่งฮาสสิ เบอร์ราเคซอีก 4-5 หลุม เตรียมทุ่ม 1 พันล้านเหรียญฯในโครงการโรวูม่า ที่โมซัมบิก เพิ่อเดินหน้าพัฒนาผลิตแอลเอ็นจี
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) เปิดเผยความว่าในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งเบอร์ซาบาในแอลจีเรีย เพิ่มเข้ามาจำนวน 20,000 บาร์เรล/วัน ส่วนแหล่งฮาสสิ เบอร์ราเคซ (HBR) ในแอลจีเรีย ก็จะมีการเจาะหลุมประเมินผลเพิ่มเติมอีก 4-5
หลุมเพื่อประเมินปริมาณสำรองและเตรียมการผลิตต่อไป
ส่วนโครงการโรวูมา ประเทศโมซัมบิก ได้สำรวจเบื้องต้นแล้วคาดว่าจะมีปริมาณสำรองอยู่จำนวนมาก สามารถผลิตก๊าซแอลเอ็นจีได้ถึง 100 ล้านตัน/ปี โดยจะเริ่มพัฒนาและสร้างแท่นขุดเจาะ รวมทั้ง และ LNG Terminal เบื้องต้นกำลังการผลิต 10 ล้านตัน/ปีก่อน คาดว่าปตท.สผ.จะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการนี้ 8.5% ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทยอยลงทุนนับตั้งแต่ปีหน้า
ต่อเนื่องไปอีก 5-6 ปี
ปัจจุบันสามารถจัดหาตลาดรองรับปริมาณLNGที่จะผลิตได้แล้ว 5-6 ล้านตัน/ปีมีทั้งจีน ญี่ปุ่น และไทย ขณะนี้รอการตัดสินใจของลูกค้าที่อินเดียอยู่ รวมทั้งรอรัฐบาลโมซัมบิกออกกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นใจในการลงทุนด้วย
นายเทวินทร์ กล่าวถึงแหล่งมอนทารา ประเทศออสเตรเลียว่า ขณะนี้แหล่งมอนทาราผลิตน้ำมันดิบอยู่ 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน คาดว่าทั้งปีจะผลิตเฉลี่ย 1.6-1.7 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่จะผลิตเต็มที่ได้ 3 หมื่นบาร์เรล/วัน เนื่องจากติดปัญหาอีกหลุมหนึ่ง ทำให้ผลิตน้ำมันดิบได้ไม่ถึงเป้าหมาย ส่วนแหล่งแคช/เมเปิ้ลที่ออสเตรเลีย ขณะนี้มีผู้แสดงความสนใจที่จะซื้อหรือร่วมทุนเข้ามา แต่บริษัทฯยังไม่ได้ตัดสินใจ
ส่วนแหล่งปิโตรเลียมในเมียนมาร์นั้น บริษัทเตรียมสรุปปริมาณสำรองปิโตรเลียมในแหล่งM 3 เบื้องต้นคาดว่าปริมาณสำรองฯคงมีไม่มากโดยก๊าซฯที่ผลิตได้จะขายให้เมียนมา ร์ทั้งหมด
ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จะไม่ค่อยกระทบกับราคาขายของบริษัท เพราะมีสัดส่วนของยอดขายก๊าซฯ 60-70% ของยอดขาย แต่การขายน้ำมันดิบ บริษัทฯก็มีการบริหารความเสี่ยงโดยทำเฮดจิ้งประมาณ 50%
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) เปิดเผยความว่าในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งเบอร์ซาบาในแอลจีเรีย เพิ่มเข้ามาจำนวน 20,000 บาร์เรล/วัน ส่วนแหล่งฮาสสิ เบอร์ราเคซ (HBR) ในแอลจีเรีย ก็จะมีการเจาะหลุมประเมินผลเพิ่มเติมอีก 4-5
หลุมเพื่อประเมินปริมาณสำรองและเตรียมการผลิตต่อไป
ส่วนโครงการโรวูมา ประเทศโมซัมบิก ได้สำรวจเบื้องต้นแล้วคาดว่าจะมีปริมาณสำรองอยู่จำนวนมาก สามารถผลิตก๊าซแอลเอ็นจีได้ถึง 100 ล้านตัน/ปี โดยจะเริ่มพัฒนาและสร้างแท่นขุดเจาะ รวมทั้ง และ LNG Terminal เบื้องต้นกำลังการผลิต 10 ล้านตัน/ปีก่อน คาดว่าปตท.สผ.จะใช้เงินลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการนี้ 8.5% ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทยอยลงทุนนับตั้งแต่ปีหน้า
ต่อเนื่องไปอีก 5-6 ปี
ปัจจุบันสามารถจัดหาตลาดรองรับปริมาณLNGที่จะผลิตได้แล้ว 5-6 ล้านตัน/ปีมีทั้งจีน ญี่ปุ่น และไทย ขณะนี้รอการตัดสินใจของลูกค้าที่อินเดียอยู่ รวมทั้งรอรัฐบาลโมซัมบิกออกกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นใจในการลงทุนด้วย
นายเทวินทร์ กล่าวถึงแหล่งมอนทารา ประเทศออสเตรเลียว่า ขณะนี้แหล่งมอนทาราผลิตน้ำมันดิบอยู่ 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน คาดว่าทั้งปีจะผลิตเฉลี่ย 1.6-1.7 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่จะผลิตเต็มที่ได้ 3 หมื่นบาร์เรล/วัน เนื่องจากติดปัญหาอีกหลุมหนึ่ง ทำให้ผลิตน้ำมันดิบได้ไม่ถึงเป้าหมาย ส่วนแหล่งแคช/เมเปิ้ลที่ออสเตรเลีย ขณะนี้มีผู้แสดงความสนใจที่จะซื้อหรือร่วมทุนเข้ามา แต่บริษัทฯยังไม่ได้ตัดสินใจ
ส่วนแหล่งปิโตรเลียมในเมียนมาร์นั้น บริษัทเตรียมสรุปปริมาณสำรองปิโตรเลียมในแหล่งM 3 เบื้องต้นคาดว่าปริมาณสำรองฯคงมีไม่มากโดยก๊าซฯที่ผลิตได้จะขายให้เมียนมา ร์ทั้งหมด
ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบปรับลงต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จะไม่ค่อยกระทบกับราคาขายของบริษัท เพราะมีสัดส่วนของยอดขายก๊าซฯ 60-70% ของยอดขาย แต่การขายน้ำมันดิบ บริษัทฯก็มีการบริหารความเสี่ยงโดยทำเฮดจิ้งประมาณ 50%