ASTVผู้จัดการรายวัน - สหมิตรถังแก๊สปรับเป้ายอดขายปีนี้โตกว่า 30%หลังตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการใช้ถังแก๊สเพิ่มสูงขึ้น ยันพร้อมประมูลถังแก๊สในตะวันออกกลางหลังเจอโรคเลื่อนทั้งคูเวตและลิเบีย ชี้ปีหน้าทุ่มงบลงทุนตั้งโรงงานซ่อมถังแก๊สเพิ่ม รองรับปริมาณถังแก๊สที่ไม่มีการซ่อม 14 ล้านใบในตลาดพร้อมกับเลื่อนลงทุนตั้งโรงงานในเมียนมาร์ รอจังหวะที่เหมาะสม
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) (SMPC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้จากเดิมโต 15-20% เป็นโตกว่า 30%จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,201.61 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้ถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG)เข้ามาอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของการใช้ก๊าซLPG โลก โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจและในครึ่งปีหลังนี้ถือเป็นช่วงที่มีการใช้สูงสุดด้วย และปีนี้จะมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 8%สูงกว่าปีก่อนอยู่ที่ 6% ทำให้ทั้งปี 2557 มีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 135.95 ล้านบาท
“ครึ่งปีแรกบริษัทฯมียอดขายถังแก๊สแล้ว 2.02 ล้านใบ คาดว่าสิ้นปีนี้ยอดขายอยู่ที่ 3.8-4 ล้านบาท ดังนั้นในครึ่งปีหลังนี้บคาดว่ามาร์จินจะไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง ค่าเงินบาทอ่อนค่า และการเพิ่มประสิทธิภาพโรงงาน โดยมีการย้ายการผลิตถังสามส่วนออกมาเป็นโรงงานที่ 3 ทำให้มีกำลังการผลิตถังแก๊สในโรงงาน 1-2 เพิ่มขึ้นอีก โดยมีแผนจะปรับปรุงไลน์การผลิตบางส่วนในโรงงานที่ 1และ 2 ใช้เงินลงทุน 45 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตถังแก๊สจากปัจจุบัน 5.5 ล้านใบเป็น 6.2 ล้านใบ/ปี ”
นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมลงทุนอีก 15 ล้านบาทในการขยายโรงงานซ่อมถังแก๊สจากเดิมกำลังผลิต 1.5 หมื่นใบ/เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นใบ/เดือน หรือปีละ 6 ล้านใบ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น120-150 ล้านบาท ซึ่งอัตรากำไรจากธุรกิจนี้ 20-40%
จากการศึกษาของสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พบว่าปริมาณถังแก๊สในประเทศไทยที่ไม่ได้ตรวจสอบหรือซ่อมแซมหลังมีอายุการใช้ครบ 5ปีสูงถึง 14 ล้านใบ หากกรมธุรกิจพลังงานเข้มงวดให้มีการนำถังแก๊สดังกล่าวไปตรวจสอบและหรือซ่อมถังเพื่อปลอดภัย เชื่อว่าด้วยกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะซ่อมแซมถังแก๊สได้
“ ขณะนี้บริษัทให้กำลังการผลิตถังแก๊สอยู่ที่ 73%ของกำลังการผลิตรวม โดยทั่วไปหากมีการใช้กำลังการผลิตเกิน 80%ก็คงต้องมองโอกาสที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม โดยอาจจะปรับปรุงเครื่องจักรหรือตั้งโรงงานแห่ง 4 ขึ้นมา คาดว่าปีหน้าจะมีการศึกษาตลาดและภาพรวมเศรษฐกิจก่อนตัดสินใจลงทุนดังกล่าว”
นายสุรศักดิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการเจาะตลาดถังแก๊สเพิ่มเติมในต่างประเทศว่า บริษัทฯพร้อมที่จะยื่นประมูลผลิตถังแก๊สน้ำหนักให้คูเวตและลิเบีย โดยคูเวตที่จะเปิดประมูลจำนวน 6 แสนใบในเร็วๆนี้ หลังจากเลื่อนการประมูลมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 คาดว่าน่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ ส่วนลิเบียเองก็จะเปิดประมูลผลิตถังแก๊ส 3 แสนใบแต่เกิดปัญหาภายในประเทศทำให้ต้องชะลอออกไปก่อน
แม้ว่าประเทศในตะวันออกกลางจะชะลอการประมูลถังแก๊สไป แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ เนื่องจากการประมูลดังกล่าวไม่ได้นำมารวมเป็นเป้าหมายรายได้ในปีนี้ แต่หากบริษัทฯสามารถชนะประมูลได้ก็ทำให้รายได้เติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อีก
ส่วนแผนตั้งโรงงานผลิตถังแก๊สฯในเมียนมาร์ที่เดิมกำหนดไว้ในปีนี้คงต้องเลื่อนออกไปก่อน คงต้องรอจังหวะที่จะเข้าไปลงทุน เพราะระบบสาธารณูปโภคยังไม่พร้อม คงต้องให้บริษัทน้ำมันใหญ่ไปลงทุนก่อน
ซึ่งการตั้งโรงงานผลิตถังแก๊สในเมียนมาร์นั้นนอกเหนือจากการทำตลาดในประเทศแล้วยังคาดว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านGSPที่ต่างชาติให้กับเมียนมาร์ในการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายด้วยโดยไม่เก็บภาษีนำเข้าด้วย
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯไม่สนใจทำถังคอมโพสิตแม้ว่าปตท.มีแผนจะใช้ถังแก๊สชนิดดังกล่าวไปทดแทนถังแก๊สที่ผลิตจากเหล็กในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเห็นว่าถังแก๊สคอมโพสิตที่ยังไม่สามารถพิสูจน์เรื่องความปลอดภัยที่แท้จริงได้แม้ว่าจะมีการพัฒนามานาน 14-15 ปีในตลาดโลกรวมทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องขนาดและการระเหยตัวของแก๊สในถังต่ำกว่าถังแก๊สเหล็กทั่วไป สหมิตรถังแก๊สเป็นผู้ผลิตถังแก๊สรายใหญ่ 1 ใน 3 ของโลก โดยได้รับรองมาตรฐานจากกลุ่มประเทศขั้นนำมียอดขายจากการส่งออกไปต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 85%ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลือเป็นรายได้จากในประเทศ
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) (SMPC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเป้าหมายรายได้ในปีนี้จากเดิมโต 15-20% เป็นโตกว่า 30%จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,201.61 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้ถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG)เข้ามาอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของการใช้ก๊าซLPG โลก โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจและในครึ่งปีหลังนี้ถือเป็นช่วงที่มีการใช้สูงสุดด้วย และปีนี้จะมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 8%สูงกว่าปีก่อนอยู่ที่ 6% ทำให้ทั้งปี 2557 มีกำไรสุทธิสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 135.95 ล้านบาท
“ครึ่งปีแรกบริษัทฯมียอดขายถังแก๊สแล้ว 2.02 ล้านใบ คาดว่าสิ้นปีนี้ยอดขายอยู่ที่ 3.8-4 ล้านบาท ดังนั้นในครึ่งปีหลังนี้บคาดว่ามาร์จินจะไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง ค่าเงินบาทอ่อนค่า และการเพิ่มประสิทธิภาพโรงงาน โดยมีการย้ายการผลิตถังสามส่วนออกมาเป็นโรงงานที่ 3 ทำให้มีกำลังการผลิตถังแก๊สในโรงงาน 1-2 เพิ่มขึ้นอีก โดยมีแผนจะปรับปรุงไลน์การผลิตบางส่วนในโรงงานที่ 1และ 2 ใช้เงินลงทุน 45 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตถังแก๊สจากปัจจุบัน 5.5 ล้านใบเป็น 6.2 ล้านใบ/ปี ”
นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทฯเตรียมลงทุนอีก 15 ล้านบาทในการขยายโรงงานซ่อมถังแก๊สจากเดิมกำลังผลิต 1.5 หมื่นใบ/เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นใบ/เดือน หรือปีละ 6 ล้านใบ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น120-150 ล้านบาท ซึ่งอัตรากำไรจากธุรกิจนี้ 20-40%
จากการศึกษาของสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พบว่าปริมาณถังแก๊สในประเทศไทยที่ไม่ได้ตรวจสอบหรือซ่อมแซมหลังมีอายุการใช้ครบ 5ปีสูงถึง 14 ล้านใบ หากกรมธุรกิจพลังงานเข้มงวดให้มีการนำถังแก๊สดังกล่าวไปตรวจสอบและหรือซ่อมถังเพื่อปลอดภัย เชื่อว่าด้วยกำลังการผลิตที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอที่จะซ่อมแซมถังแก๊สได้
“ ขณะนี้บริษัทให้กำลังการผลิตถังแก๊สอยู่ที่ 73%ของกำลังการผลิตรวม โดยทั่วไปหากมีการใช้กำลังการผลิตเกิน 80%ก็คงต้องมองโอกาสที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติม โดยอาจจะปรับปรุงเครื่องจักรหรือตั้งโรงงานแห่ง 4 ขึ้นมา คาดว่าปีหน้าจะมีการศึกษาตลาดและภาพรวมเศรษฐกิจก่อนตัดสินใจลงทุนดังกล่าว”
นายสุรศักดิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการเจาะตลาดถังแก๊สเพิ่มเติมในต่างประเทศว่า บริษัทฯพร้อมที่จะยื่นประมูลผลิตถังแก๊สน้ำหนักให้คูเวตและลิเบีย โดยคูเวตที่จะเปิดประมูลจำนวน 6 แสนใบในเร็วๆนี้ หลังจากเลื่อนการประมูลมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2557 คาดว่าน่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ ส่วนลิเบียเองก็จะเปิดประมูลผลิตถังแก๊ส 3 แสนใบแต่เกิดปัญหาภายในประเทศทำให้ต้องชะลอออกไปก่อน
แม้ว่าประเทศในตะวันออกกลางจะชะลอการประมูลถังแก๊สไป แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ เนื่องจากการประมูลดังกล่าวไม่ได้นำมารวมเป็นเป้าหมายรายได้ในปีนี้ แต่หากบริษัทฯสามารถชนะประมูลได้ก็ทำให้รายได้เติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อีก
ส่วนแผนตั้งโรงงานผลิตถังแก๊สฯในเมียนมาร์ที่เดิมกำหนดไว้ในปีนี้คงต้องเลื่อนออกไปก่อน คงต้องรอจังหวะที่จะเข้าไปลงทุน เพราะระบบสาธารณูปโภคยังไม่พร้อม คงต้องให้บริษัทน้ำมันใหญ่ไปลงทุนก่อน
ซึ่งการตั้งโรงงานผลิตถังแก๊สในเมียนมาร์นั้นนอกเหนือจากการทำตลาดในประเทศแล้วยังคาดว่าจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านGSPที่ต่างชาติให้กับเมียนมาร์ในการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายด้วยโดยไม่เก็บภาษีนำเข้าด้วย
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯไม่สนใจทำถังคอมโพสิตแม้ว่าปตท.มีแผนจะใช้ถังแก๊สชนิดดังกล่าวไปทดแทนถังแก๊สที่ผลิตจากเหล็กในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากเห็นว่าถังแก๊สคอมโพสิตที่ยังไม่สามารถพิสูจน์เรื่องความปลอดภัยที่แท้จริงได้แม้ว่าจะมีการพัฒนามานาน 14-15 ปีในตลาดโลกรวมทั้งยังมีข้อจำกัดเรื่องขนาดและการระเหยตัวของแก๊สในถังต่ำกว่าถังแก๊สเหล็กทั่วไป สหมิตรถังแก๊สเป็นผู้ผลิตถังแก๊สรายใหญ่ 1 ใน 3 ของโลก โดยได้รับรองมาตรฐานจากกลุ่มประเทศขั้นนำมียอดขายจากการส่งออกไปต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 85%ของรายได้ทั้งหมด ที่เหลือเป็นรายได้จากในประเทศ