ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรวงการคลังปัดหาแหล่งเงินกู้-ค้ำประกันการบินไทย ยันการบินไทยยังไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพราะยังมีสภาพคล่องเหลืออีก 1-2 เดือน หากต้องกู้ก็ต้องกู้เอง ปัดปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ต้องรอรัฐบาลแถลงต่อ สนช. ยันปรับไม่ถึง 10% พร้อมหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดันจีดีพีให้โต 2%
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงแผนฟื้นฟูการบินไทยว่า ไม่มีเรื่องที่กระทรวงการคลังจะหาแหล่งเงินกู้หรือค้ำประกันให้แต่อย่างใด เนื่องจากการบินไทยยังมีสภาพคล่อง สามารถดำเนินธุรกิจได้ 1-2 เดือน จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ อย่างไรก็ตาม หากการบินไทย เห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ ก็ให้การบินไทยดำเนินการกู้เอง
ปลัดกระทรวงการคลังยัง เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องการขึ้นเงินเดือนข้าราชการด้วยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณา แต่อัตราที่จะปรับขึ้นคงไม่ถึง 10% และคงต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้เรียบร้อยก่อน
“กระแสข่าวลือในโซเชียลเน็ตเวิร์คเกี่ยวกับการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการสูงสุดถึงร้อยละ 10 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ว่า เป็นเพียงข่าวลือ และขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี” นายรังสรรค์กล่าวและว่า ในการประชุม ครม.ในวันนี้ (9 ก.ย.) ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการพิจารณาหรือไม่
สำหรับข้อสรุปการจัดเก็บภาษีมรดกนายรังสรรค์กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด เนื่องจากกรมสรรพากรยังไม่ได้สรุปเสนอมาให้พิจารณา ส่วนกรณีรถยนต์ที่ไม่ยอมมาเสียภาษีและหายไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บน 500 คัน ซึ่งได้สั่งการให้นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร รายงานเรื่องดังกล่าวให้ตนรับทราบภายในสัปดาห์นี้
เร่งหามาตรการกระตุ้น GDP โต 2%
นายรังสรรค์เปิดเผยว่า ได้หารือ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหามาตรการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวทั้งปีที่ร้อยละ 2 ต่อปี ในเบื้องต้น จะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบจัดอบรมสัมมนามีการตั้งเป้าให้เบิกจ่ายได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 หรือไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของงบจัดอับรมสัมมนา นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง เตรียมดึงเงินส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาเป็นรายได้ของแผ่นดิน โดยจะเสนอให้ใช้อำนาจของ ครม. ส่วนเงินที่ได้มาก็นำไปใช้จ่ายผ่านงบประมาณปกติ
“คาดว่าจะขอคืนได้ภายในปีงบประมาณ 2558 นอกจากนี้ จะมีการประเมินประสิทธิภาพของผู้บริหารกองทุนหมุนเวียน ถ้าหากบริหารขาดทุนก็จะมีการเตือนส่วนกองทุนหมุนเวียนที่มีผลกำไร ก็ต้องติดตามหากมีเงินสภาพคล่องเหลือมากเกินไป ก็จะให้นำส่งคลังต่อไป”.
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงแผนฟื้นฟูการบินไทยว่า ไม่มีเรื่องที่กระทรวงการคลังจะหาแหล่งเงินกู้หรือค้ำประกันให้แต่อย่างใด เนื่องจากการบินไทยยังมีสภาพคล่อง สามารถดำเนินธุรกิจได้ 1-2 เดือน จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ อย่างไรก็ตาม หากการบินไทย เห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ ก็ให้การบินไทยดำเนินการกู้เอง
ปลัดกระทรวงการคลังยัง เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องการขึ้นเงินเดือนข้าราชการด้วยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณา แต่อัตราที่จะปรับขึ้นคงไม่ถึง 10% และคงต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้เรียบร้อยก่อน
“กระแสข่าวลือในโซเชียลเน็ตเวิร์คเกี่ยวกับการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการสูงสุดถึงร้อยละ 10 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ว่า เป็นเพียงข่าวลือ และขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี” นายรังสรรค์กล่าวและว่า ในการประชุม ครม.ในวันนี้ (9 ก.ย.) ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการพิจารณาหรือไม่
สำหรับข้อสรุปการจัดเก็บภาษีมรดกนายรังสรรค์กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียด เนื่องจากกรมสรรพากรยังไม่ได้สรุปเสนอมาให้พิจารณา ส่วนกรณีรถยนต์ที่ไม่ยอมมาเสียภาษีและหายไปจากคลังสินค้าทัณฑ์บน 500 คัน ซึ่งได้สั่งการให้นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร รายงานเรื่องดังกล่าวให้ตนรับทราบภายในสัปดาห์นี้
เร่งหามาตรการกระตุ้น GDP โต 2%
นายรังสรรค์เปิดเผยว่า ได้หารือ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อหามาตรการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวทั้งปีที่ร้อยละ 2 ต่อปี ในเบื้องต้น จะเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2558 โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบจัดอบรมสัมมนามีการตั้งเป้าให้เบิกจ่ายได้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 หรือไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของงบจัดอับรมสัมมนา นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง เตรียมดึงเงินส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาเป็นรายได้ของแผ่นดิน โดยจะเสนอให้ใช้อำนาจของ ครม. ส่วนเงินที่ได้มาก็นำไปใช้จ่ายผ่านงบประมาณปกติ
“คาดว่าจะขอคืนได้ภายในปีงบประมาณ 2558 นอกจากนี้ จะมีการประเมินประสิทธิภาพของผู้บริหารกองทุนหมุนเวียน ถ้าหากบริหารขาดทุนก็จะมีการเตือนส่วนกองทุนหมุนเวียนที่มีผลกำไร ก็ต้องติดตามหากมีเงินสภาพคล่องเหลือมากเกินไป ก็จะให้นำส่งคลังต่อไป”.
