วานนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ชาญชาตรี สีดาคำ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บุคคโล เจ้าของคดีคนร้ายสังหารโหดด.ญ.วิกานดา เรืองปัญญา หรือน้องเนม อายุ 4 ขวบ ก่อนนำศพใส่ถุงขยะยัดท่อระบายน้ำภายในซ.รัชดา-ท่าพระ ย่านบุคคโล พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุคคโล ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานพยานแวดล้อมเพิ่มเติม พร้อมกับจำลองเหตุการณ์ และชี้จุด ตามคำให้การของผู้ต้องหา โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่ และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าที่เกิดเหตุได้เท่านั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้อธิบายขั้นตอนการลงมือ ตามคำให้การของผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวนรับทราบ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการจำลองเหตุการณ์ประมาณ 30 นาที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการจำลองเหตุการณ์อยู่นั้น ได้มีชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน ที่ทราบข่าวมาเฝ้ารอดูหน้าผู้ต้องหา เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหามาด้วย แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางมาที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
ด้านพ.ต.ท.ชาญชาตรี กล่าวว่า ขั้นตอนที่ลงพื้นที่ในวันนี้เป็นเพียงการจำลองเหตุการณ์จากคำให้การของผู้ต้องหา โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด ซึ่งในรายละเอียดของขั้นตอนทั้งหมดที่แน่ชัดต้องรอการแถลงข่าวของผู้บังคัญบัญชา ในวันนี้ (8 ก.ย.) อีกครั้ง
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัย จนทราบชื่อ ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุ คือ นายชาตรี สีดี (ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์) อายุ 27 ปี อดีตรปภ.ของอพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งใกล้กับที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือ เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำได้ ซ่อนเร้น ย้าย หรือ ทำลายศพ หรือ ส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย”
จากการสอบสวนนายชาตรี ให้การรับสารภาพ ว่า ลงมือก่อเหตุฆ่าด.ญ.วิกานดา จริง พร้อมพยายามที่จะใช้กำลังข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 18.30 น. ของวันที่ 3 ก.ย. ขณะที่ตนนั่งดื่มสุราอยู่บริเวณข้างตึกที่เกิดเหตุจนเมา จากนั้น ด.ญ.วิกานดา ซึ่งรู้จักคุ้นหน้ากันอยู่แล้ว ได้เดินเข้ามาหา ตนจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงกวักมือเรียกน้องเนม ก่อนเปิดประตู แล้วพาเข้าไปในห้อง โดยตนเดินนำหน้า เมื่อเข้าไปถึงตรงทางเดิน ตนได้พยายามข่มขืน โดยถอดกางเกงแล้วพยายามนำอวัยวะเพศสอดใส่เข้าไป แต่ไม่สำเร็จ และน้องเนมไม่ยินยอม พร้อมกับส่งเสียงร้องและขัดขืนต่อสู้ ตนจึงใช้มือบีบคอจนเด็กแน่นิ่งไป ตนได้ใช้นิ้วมือแตะดูที่จมูก พบว่า เด็กเหมือนหยุดหายใจแล้ว ด้วยความกลัวความผิด จึงนำน้องเนมใส่ในถุงขยะ สีดำ ที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งพับอยู่ใกล้กัน โดยนำส่วนบริเวณศีรษะ เข้าไปในถุง ก่อนที่จะเดินไปใช้ท่อนเหล็กเปิดฝาท่อโดยใช้ขาขวายันฝาท่อไว้ จากนั้นจึงใช้มือลากถุงดำที่มีร่างน้องเนมอยู่หย่อนลงไป แล้วทำการปิดฝาท่อ หลังจากนั้น ตนได้พยายามทำลายหลักฐาน โดยการนำกางเกงในของน้องเนมและกางเกงที่ตัวเองใส่ ซึ่งเปื้อนดินจากฝาท่อ ไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปากซอยรัชดา-ท่าพระ 5 ก่อนจะหลบหนีไปกบดานย่านสาธร
*****"น้องเนม" ถูกบีบคอ ช่องคลอดฉีกขาด
ที่นิติเวช พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช กล่าวถึงกรณีน้องเนม ที่หายตัวไปเมื่อวันที่3ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาพบเป็นศพถูกยัดในถุงขยะสีดำภายในท่อน้ำว่า ขณะนี้ไม่พบบาดเเผลที่ชัดเจน เพราะสภาพศพเน่ามาก คิดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน ส่วนข้อสันนิฐานว่าศรีษะแตกนั้นไม่จริง เพราะสถาพศพเปื่อย เน่ามาก และเกิดจากหัวกระโหลกแยกกันเอง เบื้องต้นสันนิฐานว่าอาจจะขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ เนื่องจากว่าพบเศษผงในช่องหลอดลม และพบว่าช่องคลอดฉีกขาด ซึ่งอาจจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนในภายหลัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์หาหลักฐาน ส่วนคราบอสุจิอาจจะต้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 1 สัปดาห์
ด้านนายวิโรจน์ เรืองปัญญา บิดาน้องเนม กล่าวว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตชื่อน้องนิว อายุ 5 ขวบ และคนเล็กชื่อน้องเนม อายุ 4 ขวบ พักอาศัยอยู่กับปู่ย่า ในวันเกิดเหตุน้องเนมถามย่าว่าปู่ไปไหน ย่าจึงตอบว่าปู่ไปตลาด น้องจึงเดินตามออกไป พอปู่กลับเข้ามาบ้าน แล้วไม่เห็นหลาน จึงถามย่าว่าหลานไปไหน ย่าจึงตอบว่าหลานเดินตามปู่ออกไป ทั้งปู่และย่าจึงออกมาดูหลานบริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่พบ จนกระทั่งเดินทางไปแจ้งความที่สน.บุคคโล ว่าหลานสาวหายตัวไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ เนื่องจากว่าน้องเนมหายตัวไม่ถึง 24ชม. จึงเดินทางไปร้องทุกข์ตามมูลนิธิ และประกาศตามหาน้องเนม ผ่านโทรทัศน์ช่องต่างๆ ระหว่างนั้นไปสอบถามข้อมูลจากคนแถวบ้าน ทุกคนบอกว่าเห็นครั้งสุดท้าย ตอนเดินตามปู่ออกไป และไปขอดูภาพจากกล้องซีซีทีวี ที่ติดอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ต้องประสานงานเจ้าหน้าที่ไปติดต่อขอดูภาพจากกล้องดังกล่าว ปรากฎว่าในภาพเห็นน้องเดินผ่าน แล้วมีบุคคลแปลกหน้า แต่งกายคล้ายรปภ.เดินตามไป เจ้าหน้าที่จึงลงไปตรวจสอบพื้นที่ๆน้องเดินผ่าน พบว่าภายในท่อระบายน้ำมีถุงสีดำ จึงนำขึ้นมาตรวจสอบ ปรากฎว่าเป็นศพเด็ก ลักษณะเน่า เปื่อย แต่ตนปักใจเชื่อว่าเป็นน้องเนม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเกิดเหตุ สงสัยใครเป็นพิเศษ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตอนนั้นคิดว่าน้องคงโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ หรือถูกจับตัวไปเป็นขอทาน หรือตกเขื่อน หรือแม่ของน้องเนมจะมารับตัวไป แต่ไม่ได้เน้น ขอเพียงให้ลูกมีชีวิตเท่านั้น
****บช.น.แถลงข่าวความคืบหน้าคดีอีกครั้ง
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการติดตามตัวคนร้ายคดีน้องเนม บริเวณด้านหลังอพาร์ตเม้น ซอยรัชดา-ท่าพระ5 แขวงดาวคะนอง เขตธรบุรี กทม.ว่า รปภ.ที่ดูแลอพาร์ตเม้น เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เพราะใช้ชื่อคนอื่นมาโดยตลอด รวมทั้งยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่ารปภ.คนดังกล่าวชื่อนามสกุลอะไร โดยปกติแล้วรปภ.คนดังกล่าวมีพฤกติกรรมเมาสุรา และชอบไปสุงสิงกับเด็กผู้หญิง คาดว่าจะมีส่วนรู้เห็นอย่างดี ทั้งนี้คงจะต้องรอผลชันสูติจากรพ.ตำรวจอีกครั้งว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวถูกข่มขืนหรือไม่ เพราะจากการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยให้การว่าเป็นผู้ลงมือทำ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุชัดเจนจึงยังไม่ปักใจเชื่อ
ด้าน พ.ต.อ.กัปนาท อรุณคิรีโรจน์ ผกก.สน.บุคคโล กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาหลักฐานที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่ารปภ.คนดังกล่าวเป็นผู้ลงมือจริงหรือไม่ ส่วนชื่อและนามสกุลของรปภ.คนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะจากการตรวจสอบชื่อและนามสกุลในทะเบียนราษฎร์ ยังไม่ระบุแน่ชัด ทั้งนี้จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ หาหลักฐานมายืนยันโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามในวันที่8ก.ย. เวลา10.30น. ที่กองบัญชาการตำรสจนครบาล(บช.น.) จะแถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าวอีกครั้ง รวมทั้งจะแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพงอีกด้วย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการจำลองเหตุการณ์อยู่นั้น ได้มีชาวบ้านจำนวนกว่า 100 คน ที่ทราบข่าวมาเฝ้ารอดูหน้าผู้ต้องหา เพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่จะคุมตัวผู้ต้องหามาด้วย แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางมาที่เกิดเหตุแต่อย่างใด
ด้านพ.ต.ท.ชาญชาตรี กล่าวว่า ขั้นตอนที่ลงพื้นที่ในวันนี้เป็นเพียงการจำลองเหตุการณ์จากคำให้การของผู้ต้องหา โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด ซึ่งในรายละเอียดของขั้นตอนทั้งหมดที่แน่ชัดต้องรอการแถลงข่าวของผู้บังคัญบัญชา ในวันนี้ (8 ก.ย.) อีกครั้ง
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัย จนทราบชื่อ ผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุ คือ นายชาตรี สีดี (ไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร์) อายุ 27 ปี อดีตรปภ.ของอพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่งใกล้กับที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือ เพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนกระทำได้ ซ่อนเร้น ย้าย หรือ ทำลายศพ หรือ ส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย”
จากการสอบสวนนายชาตรี ให้การรับสารภาพ ว่า ลงมือก่อเหตุฆ่าด.ญ.วิกานดา จริง พร้อมพยายามที่จะใช้กำลังข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงเวลา 18.30 น. ของวันที่ 3 ก.ย. ขณะที่ตนนั่งดื่มสุราอยู่บริเวณข้างตึกที่เกิดเหตุจนเมา จากนั้น ด.ญ.วิกานดา ซึ่งรู้จักคุ้นหน้ากันอยู่แล้ว ได้เดินเข้ามาหา ตนจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงกวักมือเรียกน้องเนม ก่อนเปิดประตู แล้วพาเข้าไปในห้อง โดยตนเดินนำหน้า เมื่อเข้าไปถึงตรงทางเดิน ตนได้พยายามข่มขืน โดยถอดกางเกงแล้วพยายามนำอวัยวะเพศสอดใส่เข้าไป แต่ไม่สำเร็จ และน้องเนมไม่ยินยอม พร้อมกับส่งเสียงร้องและขัดขืนต่อสู้ ตนจึงใช้มือบีบคอจนเด็กแน่นิ่งไป ตนได้ใช้นิ้วมือแตะดูที่จมูก พบว่า เด็กเหมือนหยุดหายใจแล้ว ด้วยความกลัวความผิด จึงนำน้องเนมใส่ในถุงขยะ สีดำ ที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งพับอยู่ใกล้กัน โดยนำส่วนบริเวณศีรษะ เข้าไปในถุง ก่อนที่จะเดินไปใช้ท่อนเหล็กเปิดฝาท่อโดยใช้ขาขวายันฝาท่อไว้ จากนั้นจึงใช้มือลากถุงดำที่มีร่างน้องเนมอยู่หย่อนลงไป แล้วทำการปิดฝาท่อ หลังจากนั้น ตนได้พยายามทำลายหลักฐาน โดยการนำกางเกงในของน้องเนมและกางเกงที่ตัวเองใส่ ซึ่งเปื้อนดินจากฝาท่อ ไปทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปากซอยรัชดา-ท่าพระ 5 ก่อนจะหลบหนีไปกบดานย่านสาธร
*****"น้องเนม" ถูกบีบคอ ช่องคลอดฉีกขาด
ที่นิติเวช พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช กล่าวถึงกรณีน้องเนม ที่หายตัวไปเมื่อวันที่3ก.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาพบเป็นศพถูกยัดในถุงขยะสีดำภายในท่อน้ำว่า ขณะนี้ไม่พบบาดเเผลที่ชัดเจน เพราะสภาพศพเน่ามาก คิดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน ส่วนข้อสันนิฐานว่าศรีษะแตกนั้นไม่จริง เพราะสถาพศพเปื่อย เน่ามาก และเกิดจากหัวกระโหลกแยกกันเอง เบื้องต้นสันนิฐานว่าอาจจะขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ เนื่องจากว่าพบเศษผงในช่องหลอดลม และพบว่าช่องคลอดฉีกขาด ซึ่งอาจจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนในภายหลัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์หาหลักฐาน ส่วนคราบอสุจิอาจจะต้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 1 สัปดาห์
ด้านนายวิโรจน์ เรืองปัญญา บิดาน้องเนม กล่าวว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตชื่อน้องนิว อายุ 5 ขวบ และคนเล็กชื่อน้องเนม อายุ 4 ขวบ พักอาศัยอยู่กับปู่ย่า ในวันเกิดเหตุน้องเนมถามย่าว่าปู่ไปไหน ย่าจึงตอบว่าปู่ไปตลาด น้องจึงเดินตามออกไป พอปู่กลับเข้ามาบ้าน แล้วไม่เห็นหลาน จึงถามย่าว่าหลานไปไหน ย่าจึงตอบว่าหลานเดินตามปู่ออกไป ทั้งปู่และย่าจึงออกมาดูหลานบริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่พบ จนกระทั่งเดินทางไปแจ้งความที่สน.บุคคโล ว่าหลานสาวหายตัวไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ เนื่องจากว่าน้องเนมหายตัวไม่ถึง 24ชม. จึงเดินทางไปร้องทุกข์ตามมูลนิธิ และประกาศตามหาน้องเนม ผ่านโทรทัศน์ช่องต่างๆ ระหว่างนั้นไปสอบถามข้อมูลจากคนแถวบ้าน ทุกคนบอกว่าเห็นครั้งสุดท้าย ตอนเดินตามปู่ออกไป และไปขอดูภาพจากกล้องซีซีทีวี ที่ติดอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ต้องประสานงานเจ้าหน้าที่ไปติดต่อขอดูภาพจากกล้องดังกล่าว ปรากฎว่าในภาพเห็นน้องเดินผ่าน แล้วมีบุคคลแปลกหน้า แต่งกายคล้ายรปภ.เดินตามไป เจ้าหน้าที่จึงลงไปตรวจสอบพื้นที่ๆน้องเดินผ่าน พบว่าภายในท่อระบายน้ำมีถุงสีดำ จึงนำขึ้นมาตรวจสอบ ปรากฎว่าเป็นศพเด็ก ลักษณะเน่า เปื่อย แต่ตนปักใจเชื่อว่าเป็นน้องเนม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเกิดเหตุ สงสัยใครเป็นพิเศษ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตอนนั้นคิดว่าน้องคงโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ หรือถูกจับตัวไปเป็นขอทาน หรือตกเขื่อน หรือแม่ของน้องเนมจะมารับตัวไป แต่ไม่ได้เน้น ขอเพียงให้ลูกมีชีวิตเท่านั้น
****บช.น.แถลงข่าวความคืบหน้าคดีอีกครั้ง
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการติดตามตัวคนร้ายคดีน้องเนม บริเวณด้านหลังอพาร์ตเม้น ซอยรัชดา-ท่าพระ5 แขวงดาวคะนอง เขตธรบุรี กทม.ว่า รปภ.ที่ดูแลอพาร์ตเม้น เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เพราะใช้ชื่อคนอื่นมาโดยตลอด รวมทั้งยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่ารปภ.คนดังกล่าวชื่อนามสกุลอะไร โดยปกติแล้วรปภ.คนดังกล่าวมีพฤกติกรรมเมาสุรา และชอบไปสุงสิงกับเด็กผู้หญิง คาดว่าจะมีส่วนรู้เห็นอย่างดี ทั้งนี้คงจะต้องรอผลชันสูติจากรพ.ตำรวจอีกครั้งว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวถูกข่มขืนหรือไม่ เพราะจากการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยให้การว่าเป็นผู้ลงมือทำ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุชัดเจนจึงยังไม่ปักใจเชื่อ
ด้าน พ.ต.อ.กัปนาท อรุณคิรีโรจน์ ผกก.สน.บุคคโล กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาหลักฐานที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่ารปภ.คนดังกล่าวเป็นผู้ลงมือจริงหรือไม่ ส่วนชื่อและนามสกุลของรปภ.คนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะจากการตรวจสอบชื่อและนามสกุลในทะเบียนราษฎร์ ยังไม่ระบุแน่ชัด ทั้งนี้จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ หาหลักฐานมายืนยันโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามในวันที่8ก.ย. เวลา10.30น. ที่กองบัญชาการตำรสจนครบาล(บช.น.) จะแถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าวอีกครั้ง รวมทั้งจะแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพงอีกด้วย.