บิดาน้องเนมเดินทางมารับศพที่สถาบันนิติเวช ด้วยใบหน้าที่โศกเศร้า ผลการชันสูตรชี้ เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ และช่องคลอดฉีกขาด ด้านพนักงานสอบสวน ชี้ รปภ. ผู้ต้องสงสัยมีพฤติกรรมชอบเมาสุรา และสุงสิงกับเด็กผู้หญิง เตรียมแถลงข่าวอีกครั้งพรุ่งนี้
วันนี้ (7 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่นิติเวช พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวช กล่าวถึงกรณี ด.ญ.วิกานดา เรืองปัญญา หรือ น้องเนม อายุ 4 ปี ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา ต่อมาพบเป็นศพถูกยัดในถุงขยะสีดำภายในท่อน้ำ ว่า ขณะนี้ไม่พบบาดแผลที่ชัดเจน เพราะสภาพศพเน่ามาก คิดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน ส่วนข้อสันนิษฐานว่าศีรษะแตกนั้นไม่จริง เพราะสภาพศพเปื่อย เน่ามาก และเกิดจากหัวกะโหลกแยกกันเอง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ เนื่องจากว่าพบเศษผงในช่องหลอดลม และพบว่าช่องคลอดฉีกขาด ซึ่งอาจจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนในภายหลัง ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพิสูจน์หาหลักฐาน ส่วนคราบอสุจิอาจจะต้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 1 สัปดาห์
ด้าน นายวิโรจน์ เรืองปัญญา บิดาน้องเนม กล่าวว่า ตนมีลูกสาว 2 คน คนโตชื่อน้องนิว อายุ 5 ขวบ และคนเล็กชื่อน้องเนม อายุ 4 ขวบ พักอาศัยอยู่กับปู่ย่า ในวันเกิดเหตุน้องเนมถามย่าว่าปู่ไปไหน ย่าจึงตอบว่าปู่ไปตลาด น้องจึงเดินตามออกไป พอปู่กลับเข้ามาบ้านแล้วไม่เห็นหลาน จึงถามย่าว่าหลานไปไหน ย่าจึงตอบว่าหลานเดินตามปู่ออกไป ทั้งปู่และย่าจึงออกมาดูหลานบริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่พบ จนกระทั่งเดินทางไปแจ้งความที่ สน.บุคคโล ว่าหลานสาวหายตัวไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับแจ้งความ เนื่องจากว่าน้องเนมหายตัวไม่ถึง 24 ชม. จึงเดินทางไปร้องทุกข์ตามมูลนิธิ และประกาศตามหาน้องเนม ผ่านโทรทัศน์ช่องต่างๆ ระหว่างนั้นไปสอบถามข้อมูลจากคนแถวบ้าน ทุกคนบอกว่าเห็นครั้งสุดท้ายตอนเดินตามปู่ออกไป และไปขอดูภาพจากกล้องซีซีทีวี ที่ติดอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล แต่ต้องประสานงานเจ้าหน้าที่ไปติดต่อขอดูภาพจากกล้องดังกล่าว ปรากฏว่าในภาพเห็นน้องเดินผ่าน แล้วมีบุคคลแปลกหน้า แต่งกายคล้ายรปภ. เดินตามไป เจ้าหน้าที่จึงลงไปตรวจสอบพื้นที่ที่น้องเดินผ่าน พบว่าภายในท่อระบายน้ำมีถุงสีดำ จึงนำขึ้นมาตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นศพเด็ก ลักษณะเน่าเปื่อย แต่ตนปักใจเชื่อว่าเป็นน้องเนม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเกิดเหตุสงสัยใครเป็นพิเศษ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตอนนั้นคิดว่าน้องคงโดนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ หรือถูกจับตัวไปเป็นขอทาน หรือตกเขื่อน หรือแม่ของน้องเนมจะมารับตัวไป แต่ไม่ได้เน้น ขอเพียงให้ลูกมีชีวิตเท่านั้น
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการติดตามตัวคนร้ายคดีน้องเนม บริเวณด้านหลังอพาร์ตเมนต์ ซอยรัชดา-ท่าพระ 5 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. ว่า รปภ. ที่ดูแลอพาร์ตเมนต์ เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เพราะใช้ชื่อคนอื่นมาโดยตลอด รวมทั้งยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า รปภ. คนดังกล่าวชื่อนามสกุลอะไร โดยปกติแล้ว รปภ. คนดังกล่าวมีพฤกติกรรมเมาสุรา และชอบไปสุงสิงกับเด็กผู้หญิง คาดว่าจะมีส่วนรู้เห็นอย่างดี ทั้งนี้ คงจะต้องรอผลชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ อีกครั้ง ว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวถูกข่มขืนหรือไม่ เพราะจากการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยให้การว่าเป็นผู้ลงมือทำ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุชัดเจน จึงยังไม่ปักใจเชื่อ
ด้าน พ.ต.อ.กัปนาท อรุณคิรีโรจน์ ผกก.สน.บุคคโล กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาหลักฐานที่ชัดเจนอีกครั้ง ว่า รปภ. คนดังกล่าวเป็นผู้ลงมือจริงหรือไม่ ส่วนชื่อและนามสกุลของ รปภ. คนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะจากการตรวจสอบชื่อและนามสกุลในทะเบียนราษฎร ยังไม่ระบุแน่ชัด ทั้งนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบหาหลักฐานมายืนยันโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 ก.ย. เวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะแถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าวอีกครั้ง รวมทั้งจะแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นธนาคารออมสิน สาขาหัวลำโพง อีกด้วย