ASTV ผู้จัดการรายวัน - บิดามารดาทำพิธีเชิญวิญญาณ นศ.วิศวะปี 1 เทคโนฯกรุงเทพ ที่จุดเกิดเหตุ โดยขอให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาพร้อมอโหสิกรรมให้คนร้าย ด้านรอง"เอก"ลงพื้นที่คุมการสืบสวน พบปมใหม่ เชิงชู้สาว เนื่องจากผู้ตายมีภรรยาและลูกอยู่แล้ว แต่มาคบกับหญิงหน้าตาดีคนใหม่ เตรียมขยายผลสอบ
จากกรณีนายพชร กัมพลาศิริ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ถูกคนร้ายกระหน่ำยิงระยะเผาขน 6 นัด จนเสียชีวิต ภายในซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) หน้าอาคารอัสสกาญจน์ เพลส เลขที่ 231 อาคาร 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (2 ก.ย.) นายกัมพล กัมพลาศิริ อายุ 60 ปี บิดา นางสุรียา กัมพลาศิริ 59 ปี มารดา และครอบครัวของนายพชร ได้นำศพของนายพชร เดินทางมาทำพิธีเชิญวิญญาณ ก่อนนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า อีกทั้งมีประชาชนมามุงดูจำนวนมาก นางสุรียา มารดาของนายพชร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนขออโหสิกรรมให้ทุกคนที่ทำร้ายลูก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมารับผิดตามกฏหมาย ตั้งแต่ลูกเกิดมาก็รักและห่วงเค้ามาก ซึ่งตอนนี้ลูกกำลังมีอนาคต กำลังเรียนในสิ่งที่เค้ารัก แต่ก็ต้องมาจากไปซะก่อน ถามว่าลูกชายตนเกเรไหม ก็มีบ้างตามภาษาวัยรุ่น แต่ไม่เคยทำให้ครอบครัวเดือนร้อน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.กก.สส.บก.น.4 เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาจากซอยรามคำแหง 113 มายัง ซอยรามคำแหง 107 เพื่อเดินทางมาขึ้นเรือโดยสารที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง โดยคนร้ายทั้งสองได้มาจอดรถจยย.ดักรออยู่ฝั่งตรงข้าม อาคารอัสสกาญจน์ เพลส อาคาร 3 เมื่อผู้เสียชีวิตเดินมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้าย1ใน 2 ได้เดินมาก่อนจ่อยิงผู้เสียชีวิต ซึ่งในการตรวจสอบที่เกิดเหตุครั้งนี้ เพื่อเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ผู้เสียชีวิตออกจากบ้าน ทั้งนี้มีกล้องวงจรปิดบางส่วนเป็นของ กทม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานกับทางกทม. เพื่อขอภาพ อย่างไรก็ตามได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 3-4 ปาก แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงตัวคนร้ายได้ รวมถึงยังไม่สรุปฉนวนเหตุในการสังหาร แต่ต้องมีการสอบปากคำบุคคลใกล้ชิด ญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวนของกองกำกับการตำรวจนครบาล 4 พบว่าผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี และมีลูกกับภรรยาอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังมีการพูดคุยไปมาหาสู่กับผู้หญิงสาวหน้าตาดีอีกคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้หญิงคนดังกล่าวมาสอบปากคำเพื่อไขปมฉนวนเหตุในการสังหารครั้งนี้ด้วย
จากกรณีนายพชร กัมพลาศิริ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ถูกคนร้ายกระหน่ำยิงระยะเผาขน 6 นัด จนเสียชีวิต ภายในซอยรามคำแหง 107 (ซอยวัดศรีบุญเรือง) หน้าอาคารอัสสกาญจน์ เพลส เลขที่ 231 อาคาร 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (2 ก.ย.) นายกัมพล กัมพลาศิริ อายุ 60 ปี บิดา นางสุรียา กัมพลาศิริ 59 ปี มารดา และครอบครัวของนายพชร ได้นำศพของนายพชร เดินทางมาทำพิธีเชิญวิญญาณ ก่อนนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า อีกทั้งมีประชาชนมามุงดูจำนวนมาก นางสุรียา มารดาของนายพชร กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนขออโหสิกรรมให้ทุกคนที่ทำร้ายลูก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมารับผิดตามกฏหมาย ตั้งแต่ลูกเกิดมาก็รักและห่วงเค้ามาก ซึ่งตอนนี้ลูกกำลังมีอนาคต กำลังเรียนในสิ่งที่เค้ารัก แต่ก็ต้องมาจากไปซะก่อน ถามว่าลูกชายตนเกเรไหม ก็มีบ้างตามภาษาวัยรุ่น แต่ไม่เคยทำให้ครอบครัวเดือนร้อน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.กก.สส.บก.น.4 เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาจากซอยรามคำแหง 113 มายัง ซอยรามคำแหง 107 เพื่อเดินทางมาขึ้นเรือโดยสารที่ท่าน้ำวัดศรีบุญเรือง โดยคนร้ายทั้งสองได้มาจอดรถจยย.ดักรออยู่ฝั่งตรงข้าม อาคารอัสสกาญจน์ เพลส อาคาร 3 เมื่อผู้เสียชีวิตเดินมาถึงจุดเกิดเหตุ คนร้าย1ใน 2 ได้เดินมาก่อนจ่อยิงผู้เสียชีวิต ซึ่งในการตรวจสอบที่เกิดเหตุครั้งนี้ เพื่อเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่ผู้เสียชีวิตออกจากบ้าน ทั้งนี้มีกล้องวงจรปิดบางส่วนเป็นของ กทม. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังประสานกับทางกทม. เพื่อขอภาพ อย่างไรก็ตามได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 3-4 ปาก แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดถึงตัวคนร้ายได้ รวมถึงยังไม่สรุปฉนวนเหตุในการสังหาร แต่ต้องมีการสอบปากคำบุคคลใกล้ชิด ญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวนของกองกำกับการตำรวจนครบาล 4 พบว่าผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี และมีลูกกับภรรยาอยู่ก่อนแล้ว แต่ยังมีการพูดคุยไปมาหาสู่กับผู้หญิงสาวหน้าตาดีอีกคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้หญิงคนดังกล่าวมาสอบปากคำเพื่อไขปมฉนวนเหตุในการสังหารครั้งนี้ด้วย