ASTVผู้จัดการรายวัน-อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยาสั่งให้ออก อาจารย์ฉาวแชตลวง นร.-นศ. ถ่ายโป๊ ก่อนแบล็กเมล์ พร้อมสอบวินัยซ้ำ ยันไม่ปกป้องคนผิด พร้อมให้อาจารย์กฏหมายช่วยเหยื่อสาว สะพัดมีอาจารย์ช่วยเจรจาจนผู้เสียหายถอนแจ้งความแล้ว 4 ราย ยังคงเหลือแจ้งจับพรากผู้เยาว์อีก 1 ราย
วานนี้ (27 ส.ค.) คณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) อ.เมือง จ.พะเยา นำโดยนายวุฒิชัย ไชยรินคำ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ดร.ไพรัช ธีระชัยมหิทธิ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ และดร.รัฐภูมิ พรหมณะ ผู้ช่วยอธิการบดี เข้าพบพ.ต.อ.สว่างวิทย์ สุทธหลวง ผกก.สภ.เมือง พ.ต.อ.คะนอง ไข่ทา หัวหน้าพนักงานสอบสวน และพ.ต.ท.กฤตภาส ตาลาน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนายสินชัย กิมเซียะ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มพ. ถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดพนักงานสอบสวนสภ.เมือง นำตัวนายสินชัยไปฝากขังต่อศาลผลัดแรก 12 วัน ส่วนผู้เสียหายถอนแจ้งความ 4 ราย เหลืออีก 1 รายที่แจ้งความดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์
รศ.ชาลี ทองเรือง รองอธิการบดี ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรีอธิการบดี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยนายสินชัยแล้ว โดยบทลงโทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือน ภาคทัณฑ์ ปลดออก ไล่ออก เพราะกรณีนายสินชัยต้องแยกเป็นสองประเด็น คือ 1.ความผิดทางอาญา ซึ่งเป็นความผิดส่วนตัว และ 2.การสอบสวนทางวินัยของสถาบัน ซึ่งจะเร่งสอบสวนโดยเร็ว
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องทบทวนกฎเกณฑ์การรับบุคคลเข้ามาเป็นพนักงาน โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรม จริยธรรม จากเดิมมีการสัมภาษณ์เพียง 1 ชั่วโมง อาจต้องปรับปรุงให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ หรือขัดต่อหลักคุณธรรม จริยธรรม"
ด้านนายวุฒิชัยกล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่ปกป้องคนผิดแน่นอน โดยาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล มีคำสั่งให้นายสินชัยออกจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยไว้ก่อน ซึ่งปกติความผิดร้ายแรงโทษถึงไล่ออก และกรณีที่เกิดขึ้น ถือว่าร้ายแรง แต่ก็ต้องพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายด้วย ส่วนผู้เสียหายจะมอบหมายให้อาจารย์คณะนิติศาสตร์ เป็นผู้ดูแลให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและสภาพจิตใจด้วย ส่วนผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความก็ต้องให้ความช่วยเหลือกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน
"ที่ผ่านมา มีบุคลากรกลุ่มหนึ่งช่วยเหลือผู้กระทำผิด ซึ่งเชิญตัวมาพูดคุยแล้ว โดยหลักการ คือ มหาวิทยาลัยจะไม่ปกป้องคนผิดเด็ดขาด มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ถือได้ว่าเราเต็มที่ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยแล้ว"
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า อาจารย์กลุ่มหนึ่งพยายามไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความนายสินชัย แต่ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการจ่ายเงินชดใช้หรือข่มขู่
วานนี้ (27 ส.ค.) คณะผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยพะเยา (มพ.) อ.เมือง จ.พะเยา นำโดยนายวุฒิชัย ไชยรินคำ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต ดร.ไพรัช ธีระชัยมหิทธิ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ และดร.รัฐภูมิ พรหมณะ ผู้ช่วยอธิการบดี เข้าพบพ.ต.อ.สว่างวิทย์ สุทธหลวง ผกก.สภ.เมือง พ.ต.อ.คะนอง ไข่ทา หัวหน้าพนักงานสอบสวน และพ.ต.ท.กฤตภาส ตาลาน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีนายสินชัย กิมเซียะ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มพ. ถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดพนักงานสอบสวนสภ.เมือง นำตัวนายสินชัยไปฝากขังต่อศาลผลัดแรก 12 วัน ส่วนผู้เสียหายถอนแจ้งความ 4 ราย เหลืออีก 1 รายที่แจ้งความดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์
รศ.ชาลี ทองเรือง รองอธิการบดี ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล สงวนเสริมศรีอธิการบดี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยนายสินชัยแล้ว โดยบทลงโทษมีตั้งแต่ตัดเงินเดือน ภาคทัณฑ์ ปลดออก ไล่ออก เพราะกรณีนายสินชัยต้องแยกเป็นสองประเด็น คือ 1.ความผิดทางอาญา ซึ่งเป็นความผิดส่วนตัว และ 2.การสอบสวนทางวินัยของสถาบัน ซึ่งจะเร่งสอบสวนโดยเร็ว
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องทบทวนกฎเกณฑ์การรับบุคคลเข้ามาเป็นพนักงาน โดยเฉพาะเรื่องคุณธรรม จริยธรรม จากเดิมมีการสัมภาษณ์เพียง 1 ชั่วโมง อาจต้องปรับปรุงให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ หรือขัดต่อหลักคุณธรรม จริยธรรม"
ด้านนายวุฒิชัยกล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่ปกป้องคนผิดแน่นอน โดยาสตราจารย์พิเศษ ดร.มณฑล มีคำสั่งให้นายสินชัยออกจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยไว้ก่อน ซึ่งปกติความผิดร้ายแรงโทษถึงไล่ออก และกรณีที่เกิดขึ้น ถือว่าร้ายแรง แต่ก็ต้องพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายด้วย ส่วนผู้เสียหายจะมอบหมายให้อาจารย์คณะนิติศาสตร์ เป็นผู้ดูแลให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและสภาพจิตใจด้วย ส่วนผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความก็ต้องให้ความช่วยเหลือกลุ่มนี้เช่นเดียวกัน
"ที่ผ่านมา มีบุคลากรกลุ่มหนึ่งช่วยเหลือผู้กระทำผิด ซึ่งเชิญตัวมาพูดคุยแล้ว โดยหลักการ คือ มหาวิทยาลัยจะไม่ปกป้องคนผิดเด็ดขาด มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ถือได้ว่าเราเต็มที่ตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยแล้ว"
ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า อาจารย์กลุ่มหนึ่งพยายามไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายถอนแจ้งความนายสินชัย แต่ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามีการจ่ายเงินชดใช้หรือข่มขู่
