พะเยา - ตำรวจสอบเครียดอาจารย์มหาวิทยาลัยดังพะเยาพรากผู้เยาว์ แชตหลอก นร.-นศ.ถ่ายภาพโป๊ก่อนแบล็กเมล์ พร้อมเร่งควานหาหลักฐานเพิ่มในโลกออนไลน์ ก่อนแจ้งข้อหาเพิ่ม-ค้านประกัน ด้านอาจารย์ฉาวเริ่มให้การภาคเสธ ขณะที่ผู้เสียหายจ่อแจ้งความเพิ่มนับสิบราย
วันนี้ (26 ส.ค.) พ.ต.อ.คะนอง ไข่ทา หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา, พ.ต.ท.กฤติภาส ตาลาน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นำตัวนายสินชัย กิมเซียะ หรือ เก่ง อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.พะเยา ผู้ต้องหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร เข้าห้องสอบสวน สภ.เมืองพะเยา ซึ่งมีฟิล์มติดทึบ โดยมีเพื่อนอาจารย์ ซึ่งไว้วางใจเข้ามาร่วมรับฟังการสอบสวนด้วย แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ
พ.ต.อ.คะนองเปิดเผยถึงแนวทางการสอบสวนว่า นอกจากข้อหาพรากผู้เยาว์ฯ แล้ว พนักงานสอบสวนยังตั้งข้อหาในส่วนที่นำภาพจากคลิปที่เหยื่อถ่ายให้ไปข่มขู่อีกข้อหาหนึ่งคือ ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง จนผู้ถูกข่มขืนใจจำต้องกระทำการต่อสิ่งนั้น
ตำรวจได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 5 รายไว้หมดแล้ว ในจำนวนนี้มี 1 รายที่ผู้ปกครองแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งเป็นเยาวชนอายุประมาณ 17 ปี
พ.ต.อ.คะนองกล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น หลังจากผู้ต้องหาได้พบกับบุคคลที่ไว้วางใจแล้ว การให้ปากคำก็ส่อไปในทางภาคเสธ แต่มีพยานแวดล้อม พยานหลักฐาน พยานตัวบุคคลที่เป็นผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันมากพอแล้ว การที่ผู้ต้องหาให้การภาคเสธก็ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา และในขั้นตอนเข้าจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพ
สำหรับการขอประกันตัวนั้น ในชั้นนี้ไม่อนุญาต หรือหากส่งฝากขังต่อศาลก็จะทำเรื่องคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่เป็นภัยต่อสังคม กระทบกระเทือนต่อความสงบสุขของประชาชน
พ.ต.อ.คะนองกล่าวต่อว่า อยากให้ผู้เสียหายที่เคยถูกผู้ต้องหาหลอกลวง ข่มขู่นำภาพหวิวไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียให้ได้รับความอับอาย มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา นับตั้งแต่รู้เหตุการณ์กระทำผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดภายใน 3 เดือน เนื่องจากเป็นคดีที่ยอมความกันได้ หากพ้นกำหนดคดีจะหมดอายุความ
พ.ต.อ.คะนองกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนที่นำโดย พ.ต.ท.เฉลิมชาติ ยาวิชัย รอง ผกก.(ป.) สภ.เมืองพะเยา พ.ต.ท.จีรวัฒน์ สุปินะ สว.สส.สภ.เมืองพะเยา กับพวก ยังได้ติดตามในโลกออนไลน์ โซเชียลมีเดียทั่วไปว่า มีการนำภาพหวิวของเหยื่อไปโพสต์ที่ใดบ้าง หากพบก็จะเจอข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกข้อหาหนึ่ง
ด้าน พ.ต.ท.กฤตภาษ กล่าวหลังเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาว่า หลังจากสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวนี้ออกไป ก็มีผู้เสียหายโทร.เข้ามาสอบถามอีกกว่า 10 ราย ซึ่งได้นัดให้มาแจ้งความแล้ว หรือถ้ากลัวความอับอายทางเจ้าหน้าที่จะกันไว้เป็นความลับ โดยมีห้องสอบสวนที่ปลอดภัยในการดำเนินการ