ที่ลานอเนกประสงค์ชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จำนวน 11 ด้าน ระหว่างวันที่ 14 ส.ค.- 2 ก.ย. ซึ่งวานนี้เปิดให้องค์กรนิติบุคคลได้เสนอชื่อเป็นวันที่ 13 นั้นโดยบรรยากาศตลอดช่วงเช้า ยังคงมีองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรให้ความสนใจทยอยเข้าเสนอรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมเข้าสรรหาเป็นสปช.กันอย่างต่อเนื่อง โดยเวลา 10.30 น. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง ก็ได้เข้ายื่นรับการสรรหาเป็นสปช. ด้านการเมือง ในนามของสำนักงานกกต. พร้อมกับตรวจความเรียบร้อยในการรับการเสนอชื่อ ซึ่งนายสมชัย กล่าวว่า เป็นการใช้สิทธิในฐานะองค์กรนิติบุคคล ตามที่กกต.มีมติเสนอชื่อตนเอง และ นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เข้ารับการสรรหา จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะคัดเลือกให้เข้าไปเป็นหนึ่งใน สปช.หรือไม่
ทั้งนี้หากได้รับการสรรหา ยืนยันว่าเข้าไปแล้วจะยึดหลักในการทำงาน 3 ด้าน คือ
1. จะมองประโยชน์ของสังคมเป็นหลักมากกว่ามองประโยชน์ของตนเอง หรือของกกต. เพราะการปฏิรูปเป็นเรื่องของประเทศ จึงจำเป็นต้องยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
2. จะเอาประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งสมัยที่ทำงานสนับสนุนตรวจสอบการเลือกตั้งในฐานเลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือพีเน็ตกว่า 20 ปี รวมถึงประสบการณ์ในการทำงานจัดการเลือกตั้งขององค์กรสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งอีก 16 ปี เข้าไปช่วยในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องของการจัดการเลือกตั้งให้ดีขึ้น
3. อยากให้การปฏิรูปครั้งนี้เป็นที่ยอมรับของประชาชน ก็ต้องฟังเสียงของประชาชน เพื่อให้การปฏิรูปครั้งนี้เป็ทางออกกับสังคม ไม่อยากให้มีการแยกสี แยกฝ่ายกันอีก จึงอยากให้ใช้กลไก สปช.ครั้งนี้เป็นทางออกของสังคม
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีแผนงานที่จะไปเสนอชัดเจน แต่หลายเรื่องควรได้ช่วยกันคิด ช่วยกันตรวจสอบ จึงเห็นว่าควรจะมีการรับฟังและร่วมกันคิดในประเด็นข้อเสนอต่างๆ ดีกว่า ทั้งนี้หากเรื่องใดจำเป็นจะต้องมีการแก้ไขกลไก หรือเป็นเรื่องที่ต้องใช้กลไกการบริหาาจัดการภายในของกกต. ตนก็จะได้นำมาหารือและรับการสนับสนุนข้อมูลจากกกต.ต่อไป
สำหรับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีบุคคล อาทิ สมาคมวิศวกรรมเคมีและเคมีประยุกตุ์แห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายชัยฤิทธิ์ สัตยาประเสริฐ อาจารย์คณะวิศวกรรมเคมี จุฬาฯ เข้าสรรหาด้านพลังงาน สมาคมสุโขทัยธรรมาธิราช เสนอชื่อ นางอุทุมพร จามรมาน อดีตผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ เข้าสรรหา ด้านการศึกษา เมืองพัทยา เสนอชื่อ นายพิสิฐ เกตุผาสุก อดีต ผวจ.ชลบุรี เข้าสรรหาด้านปกครองท้องถิ่น มูลนิธิเพิ่มสุข เสนอชื่อ พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. เข้าสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน สมาคมที่ปรึกษาธุรกิจไทย เสนอชื่อ นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล เข้าสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน
**สรุป13 วันคนแห่สมัคร 2,792 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสปช. วันที่ 13 ณ เวลา 16.30 น. โดยตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 11 ด้านรวม 193 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 158 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 35 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 138 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 331 คน สรุป 13 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อเมื่อวันที่ 14 ส.ค.-26 ส.ค. มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามา1,020 คน สมัครทางจังหวัด 1,772 คน รวมทั้งสิ้น 2,792 คน
สำหรับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในช่วงบ่ายวานนี้ มีองค์กรนิติบุคคลต่างทยอยเข้ารับการเสนอชื่อ อาทิ ด้านการเมือง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เสนอชื่อ นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เสนอชื่อนายพิฑูรย์ พุ่มหิรัญ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอชื่อ นายอุดม รัฐอมฤต อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอชื่อ นายชาติชาย สุทธิกลม อดีต เลขากสม. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายปัญญา อุดชาชน ที่ปรึกษาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ เสนอชื่อ นายพิมล พูพิพิธ อดีตคณบดีบัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ด้านปกครองท้องถิ่น มูลนิธิพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ เสนอชื่อ นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านเศรษฐกิจ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ เสนอชื่อ นายวิชัย เบญจรงคกุล กรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เบญจจินดา กรุ๊ป สมาคมกงศุลกิติมศักดิ์(ประเทศไทย) เสนอชื่อ นายอัมรินทร์ คอมันตร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสหรัฐอเมริกา
ด้านสื่อมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอชื่อ นายมานิจ สุขสมจิตร สื่อมวลชนอาวุโส และที่ปรึกษาชมรมเพื่อโดม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เสนอชื่อ พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร เลขานุการประธาน กสทช. และด้านอื่นๆ มูลนิธิโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย
** ยังไม่พบปัญหาผู้ขาดคุณสมบัติ
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่าการเสนอชื่อมีปัญหาอะไร และจากการทยอยตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับการเสนอชื่อ ก็ไม่พบว่าใครมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ มีเพียง นางลีน่า จังจรรยา ที่มีปัญหาเคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แต่ก็ได้มีหนังสือแจ้งประสงค์ขอไม่รับการสรรหาแล้ว
ส่วนองค์กรนิติบุคคลที่เข้าเสนอชื่อ ก็ไม่พบว่าขาดคุณสมบัติ โดย กกต.ยึดเอกสารที่แต่ละองค์กรนิติบุคคลยื่รับรองว่าเป็นองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ส่วนคณะกรรมการสรรหาในระดับจังหวัด ขณะนี้ก็มีความเข้าใจชัดเจนแล้วว่า จะต้องเปิดรับการเสนอชื่อไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย. และก่อนวันที่ 2 ก.ย. จะไม่สามารถประชุมพิจารณาคัดเลือกบุคคลเป็นสปช.ได้ และแม้หลังวันที่ 2 ก.ย. หากตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการทาบทาม และเข้ายื่นความจำนงค์รับการสรรหาเสร็จก่อนระยะเวลา 10 วันที่มีการกำหนดไว้ การจะประชุมคัดเลือกบุคคล 5 คน เป็นผู้เหมาะสมเป็นสปช. ก่อนก็ไม่ควร โดยคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ควรจะรอเวลาและเริ่มคัดเลือกพร้อมกับคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน เพื่อให้การคัดเลือกผู้เป็นสปช.ทั้งจาก 2 ส่วน เป็นไปสอดคล้องกัน
นายภุชงค์ ยังเชื่อว่า แม้ว่าขณะนี้ในการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาขององค์กรนิติบุคคลบางด้านอาจจะยังมีผู้เข้ารับการสรรหาไม่ถึง 50 คน ตามที่กฎหมายกำหนดว่า ให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.ด้านละไม่เกิน 50 คน แต่เมื่อถึงวันที่ 2 ก.ย.ที่ปิดรับการเสนอชื่อในทุกด้านจะมีผู้เข้ารับการสรรหาเกินกว่า 50 คนแน่นอน และเมื่อรวมยออดผู้เข้ารับการสรรหาก็จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อราว 3 พันคน
ทั้งนี้หากได้รับการสรรหา ยืนยันว่าเข้าไปแล้วจะยึดหลักในการทำงาน 3 ด้าน คือ
1. จะมองประโยชน์ของสังคมเป็นหลักมากกว่ามองประโยชน์ของตนเอง หรือของกกต. เพราะการปฏิรูปเป็นเรื่องของประเทศ จึงจำเป็นต้องยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
2. จะเอาประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งสมัยที่ทำงานสนับสนุนตรวจสอบการเลือกตั้งในฐานเลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย หรือพีเน็ตกว่า 20 ปี รวมถึงประสบการณ์ในการทำงานจัดการเลือกตั้งขององค์กรสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งอีก 16 ปี เข้าไปช่วยในการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องของการจัดการเลือกตั้งให้ดีขึ้น
3. อยากให้การปฏิรูปครั้งนี้เป็นที่ยอมรับของประชาชน ก็ต้องฟังเสียงของประชาชน เพื่อให้การปฏิรูปครั้งนี้เป็ทางออกกับสังคม ไม่อยากให้มีการแยกสี แยกฝ่ายกันอีก จึงอยากให้ใช้กลไก สปช.ครั้งนี้เป็นทางออกของสังคม
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีแผนงานที่จะไปเสนอชัดเจน แต่หลายเรื่องควรได้ช่วยกันคิด ช่วยกันตรวจสอบ จึงเห็นว่าควรจะมีการรับฟังและร่วมกันคิดในประเด็นข้อเสนอต่างๆ ดีกว่า ทั้งนี้หากเรื่องใดจำเป็นจะต้องมีการแก้ไขกลไก หรือเป็นเรื่องที่ต้องใช้กลไกการบริหาาจัดการภายในของกกต. ตนก็จะได้นำมาหารือและรับการสนับสนุนข้อมูลจากกกต.ต่อไป
สำหรับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีบุคคล อาทิ สมาคมวิศวกรรมเคมีและเคมีประยุกตุ์แห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายชัยฤิทธิ์ สัตยาประเสริฐ อาจารย์คณะวิศวกรรมเคมี จุฬาฯ เข้าสรรหาด้านพลังงาน สมาคมสุโขทัยธรรมาธิราช เสนอชื่อ นางอุทุมพร จามรมาน อดีตผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ เข้าสรรหา ด้านการศึกษา เมืองพัทยา เสนอชื่อ นายพิสิฐ เกตุผาสุก อดีต ผวจ.ชลบุรี เข้าสรรหาด้านปกครองท้องถิ่น มูลนิธิเพิ่มสุข เสนอชื่อ พล.อ.ภาษิต สนธิขันธ์ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. เข้าสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน สมาคมที่ปรึกษาธุรกิจไทย เสนอชื่อ นายขจรศักดิ์ สิงโตกุล เข้าสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน
**สรุป13 วันคนแห่สมัคร 2,792 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสปช. วันที่ 13 ณ เวลา 16.30 น. โดยตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 11 ด้านรวม 193 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 158 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์จำนวน 35 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 138 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 331 คน สรุป 13 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อเมื่อวันที่ 14 ส.ค.-26 ส.ค. มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามา1,020 คน สมัครทางจังหวัด 1,772 คน รวมทั้งสิ้น 2,792 คน
สำหรับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในช่วงบ่ายวานนี้ มีองค์กรนิติบุคคลต่างทยอยเข้ารับการเสนอชื่อ อาทิ ด้านการเมือง สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เสนอชื่อ นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เสนอชื่อนายพิฑูรย์ พุ่มหิรัญ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอชื่อ นายอุดม รัฐอมฤต อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เสนอชื่อ นายชาติชาย สุทธิกลม อดีต เลขากสม. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายปัญญา อุดชาชน ที่ปรึกษาสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ เสนอชื่อ นายพิมล พูพิพิธ อดีตคณบดีบัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง
ด้านปกครองท้องถิ่น มูลนิธิพัฒนาประสิทธิภาพในราชการ เสนอชื่อ นายพงศ์โพยม วาศภูติ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านเศรษฐกิจ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ เสนอชื่อ นายวิชัย เบญจรงคกุล กรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เบญจจินดา กรุ๊ป สมาคมกงศุลกิติมศักดิ์(ประเทศไทย) เสนอชื่อ นายอัมรินทร์ คอมันตร์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสหรัฐอเมริกา
ด้านสื่อมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอชื่อ นายมานิจ สุขสมจิตร สื่อมวลชนอาวุโส และที่ปรึกษาชมรมเพื่อโดม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เสนอชื่อ พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร เลขานุการประธาน กสทช. และด้านอื่นๆ มูลนิธิโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย
** ยังไม่พบปัญหาผู้ขาดคุณสมบัติ
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่าการเสนอชื่อมีปัญหาอะไร และจากการทยอยตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ารับการเสนอชื่อ ก็ไม่พบว่าใครมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ มีเพียง นางลีน่า จังจรรยา ที่มีปัญหาเคยถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แต่ก็ได้มีหนังสือแจ้งประสงค์ขอไม่รับการสรรหาแล้ว
ส่วนองค์กรนิติบุคคลที่เข้าเสนอชื่อ ก็ไม่พบว่าขาดคุณสมบัติ โดย กกต.ยึดเอกสารที่แต่ละองค์กรนิติบุคคลยื่รับรองว่าเป็นองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร ส่วนคณะกรรมการสรรหาในระดับจังหวัด ขณะนี้ก็มีความเข้าใจชัดเจนแล้วว่า จะต้องเปิดรับการเสนอชื่อไปจนถึงวันที่ 2 ก.ย. และก่อนวันที่ 2 ก.ย. จะไม่สามารถประชุมพิจารณาคัดเลือกบุคคลเป็นสปช.ได้ และแม้หลังวันที่ 2 ก.ย. หากตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการทาบทาม และเข้ายื่นความจำนงค์รับการสรรหาเสร็จก่อนระยะเวลา 10 วันที่มีการกำหนดไว้ การจะประชุมคัดเลือกบุคคล 5 คน เป็นผู้เหมาะสมเป็นสปช. ก่อนก็ไม่ควร โดยคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ควรจะรอเวลาและเริ่มคัดเลือกพร้อมกับคณะกรรมการสรรหา 11 ด้าน เพื่อให้การคัดเลือกผู้เป็นสปช.ทั้งจาก 2 ส่วน เป็นไปสอดคล้องกัน
นายภุชงค์ ยังเชื่อว่า แม้ว่าขณะนี้ในการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาขององค์กรนิติบุคคลบางด้านอาจจะยังมีผู้เข้ารับการสรรหาไม่ถึง 50 คน ตามที่กฎหมายกำหนดว่า ให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละด้านคัดเลือกผู้เหมาะสมเป็น สปช.ด้านละไม่เกิน 50 คน แต่เมื่อถึงวันที่ 2 ก.ย.ที่ปิดรับการเสนอชื่อในทุกด้านจะมีผู้เข้ารับการสรรหาเกินกว่า 50 คนแน่นอน และเมื่อรวมยออดผู้เข้ารับการสรรหาก็จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อราว 3 พันคน
