ความซวยของคนไทยที่ผ่านมา คือ ส่วนใหญ่ชาติไทยมีรัฐบาลเผด็จการรัฐสภา-ชั่ว ได้รัฐบาลเผด็จการทหาร-เลว!
ห้วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา เผด็จการรัฐสภากับเผด็จการทหารยึด “อำนาจรัฐ” กันแบบ “สมบัติผลัดกันโกง” มาตลอด จึงไม่เคยคิดจะปฏิรูปชาติไทยทุกภาคส่วน ดังชาติที่เจริญแล้วเขาทำกัน
โดยเฉพาะทศวรรษล่าสุด เครือข่ายเหลี่ยมใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดอำนาจรัฐเพื่อนำไปปล้นชาติกันอย่างโจ๋งครึ่ม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง แถมให้สมุนทำลายสถาบันสูงสุดของชาติอีกด้วย
ประชาชนผู้รักชาติในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงออกมาขับไล่รัฐบาลชั่วของเหลี่ยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ “บิ๊กบัง” ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ฉวยโอกาสทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาเหลี่ยม เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
แต่รัฐประหาร “บิ๊กบัง” นั้น-เหลวเป๋ว เพราะมิได้จัดการกับพวกล้มเจ้า มิได้ทำลายระบอบทุนสามานย์เหลี่ยม อย่างถอนรากถอนโคนให้หมดไปจากแผ่นดินไทย
เนื่องจาก “บิ๊กบัง” กับรัฐบาลของ “รสช.” หวังลมๆ แล้งๆ กับการจะสร้างความสมานฉันท์กับพวกปล้นชาติเหลี่ยม แถมจะสืบทอดอำนาจด้วยการใช้นักการเมืองระบบเก่า ลงสู้ในสนามเลือกตั้งเพื่อหวังจะเอาชนะอำนาจเงินของอภิมหาเศรษฐีเหลี่ยมให้ได้
ทว่าผลลัพธ์จริงกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง เพราะเครือข่ายเหลี่ยมหวนกลับมายึดอำนาจรัฐได้ด้วยวิธีเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ นั่นคือ เหลี่ยมยังคงใช้เงินทุ่มซื้อเสียงเลือกตั้ง เอาชนะคู่แข่งได้อย่างลอยลำตามเคยครับ
นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งแล้วว่า “งาช้างไม่มีวันงอกออกจากปากหมา”เด็ดขาด เฉกเช่นเครือข่ายเหลี่ยมที่ไม่มีวันจะละเลิกการใช้ทุกวิถีทางเข้ายึดอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติบ้านเมืองนั่นเอง
ดังเช่น การยึดอำนาจรัฐด้วยเงินครั้งล่าสุด เผด็จการทุนสามานย์เหลี่ยมได้ส่งน้องสาวที่ไร้ความสามารถขึ้นเป็นนายกฯ ของชาติไทย ซึ่งนำความเสียหายมาสู่ชาติอย่างใหญ่หลวง เฉพาะโครงการประชานิยมจำนำข้าวแค่เรื่องเดียว เงินชาติถูกผลาญถูกโกงไปกว่า 5-6 แสนล้านบาท ฯลฯ
เมื่อแกนนำพันธมิตรฯ ยุติบทบาทลง แกนนำ ปชป.จึงได้สานต่อ ด้วยการนำมวลชนนับ 10 ล้านคนออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม โดยมีเป้าหมายหลักที่ชัดเจนว่า
ชาติไทย-ต้องปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ ชาติไทย-ต้องรีบขจัดนักการเมืองโกงชาติ และโค่นระบอบเผด็จการรัฐสภาทุนสามานย์เหลี่ยมให้สิ้นซาก!
“ตาอิน” หรือแกนนำ ปชป.ทั้งหลาย กับ “ตานา” หรือเครือข่ายทุนสามานย์เหลี่ยม ได้เปิดศึกต่อสู้กันแบบยืดเยื้อยาวนานกว่า 6 เดือน
ประชาธิปไตยในประเทศที่เจริญแล้ว ผู้คนย่อมมีความคิดเห็นที่ต่างกันได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา อีกทั้งการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชนทุกกลุ่ม หรือคัดค้านต่อต้านในโครงการหรือนโยบายของรัฐอย่างสันติ เป็นเรื่องที่ทำได้ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ
ชาติไทยยุคเหลี่ยมครองเมือง มิได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงแม้แต่น้อย หากแต่เป็นระบอบเผด็จการรัฐสภาทุนสามานย์ เหลี่ยมจึงมักใช้อันธพาลก่อความรุนแรง ทำลาย-ทำร้าย-ทำการสังหารประชาชนที่ชุมนุมอย่างสันติด้วยวิธีป่าเถื่อนเรื่อยมา
สุดท้าย “ตาอยู่” ก็โผล่หน้าออกมา โดย “บิ๊กตู่” ในฐานะ ผบ.ทบ.ได้นำกองทัพไทยทำรัฐประหาร คว้าพุงปลาเพียวๆ ไปกินแบบชิวๆ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
3 เดือนกว่าผ่านพ้นไป ชาติไทยอยู่ในสภาพที่ยังไม่เคยมีผู้นำเผด็จการทหารคนไหน จะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเท่า “บิ๊กตู่” ที่นั่งควบเก้าอี้สำคัญๆ ไว้ถึง 3 ตำแหน่ง นั่นคือ
ตำแหน่งที่หนึ่ง-เป็น ผบ.ทบ.ผู้ทรงอำนาจสูงยิ่งในกองทัพไทย!
ตำแหน่งที่สอง-เป็นหัวหน้า คสช.ที่มีอำนาจตั้งสมาชิก สนช.ทั้งสภาฯ มีอำนาจเสนอ สนช.ให้ปลดนายกฯ มีอำนาจในการคัดเลือกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เรียกว่า..คสช.มีอำนาจเหนือสภา-รัฐบาล-ตุลาการ ฯลฯ
ตำแหน่งที่สาม-เป็นคนที่ สนช.ทั้งสภฯ ลงมติให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของชาติไทย และ “บิ๊กตู่” เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อเช้าวันที่ 25 สิงหาคม 2557 นี้เอง!!!
ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ต้องขอบอก “บิ๊กตู่” ไว้ ณ ที่นี้ว่า “บิ๊กตู่” จะดำรงตำแหน่งกี่ตำแหน่งไม่มีปัญหา จะเป็นนายกฯ นานแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาอีก ขอเพียง “บิ๊กตู่” ต้องทำเพื่อชาติ อย่าทำเพื่อตนและพวกพ้องเด็ดขาด
“บิ๊กตู่” มีอำนาจเกินร้อยที่จะตั้งเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ดำรงตำแหน่งใดก็ได้ แต่ต้องยึดหลักธรรมาภิบาลที่ว่า เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ “บิ๊กตู่” ตั้งนั้น จะต้องมีทั้งความสามารถและซื่อสัตย์สุจริตไม่โกงชาติด้วย ฯลฯ
เพราะชาติไทยมิใช่ “สมบัติส่วนตัว” ของ “บิ๊กตู่” กับ คสช....จริงไหม?
“โอกาสทอง” ทำดีเพื่อชาติ อยู่ในมือ “บิ๊กตู่” กับ คสช.นั่นคือ ต้องปฏิรูปชาติไทยทุกภาคส่วน ต้องกำจัดการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง ต้องขจัดระบอบเผด็จการรัฐสภา ฯลฯ หากงานนี้สำเร็จ “บิ๊กตู่” กับ คสช.จะเป็น “พระเอก” ในใจคนไทยชั่วลูกชั่วหลานเลยล่ะ!
แต่ถ้าล้มเหลว... “บิ๊กตู่” กับ คสช.ต้องแอ่นอกรับผิดชอบกันแบบเต็มๆ แน่นอน!! โอมเพี้ยง...ขอ “ผู้นำ” ที่ทำเพื่อชาติสักคนเถอะวะ...!!!
ห้วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา เผด็จการรัฐสภากับเผด็จการทหารยึด “อำนาจรัฐ” กันแบบ “สมบัติผลัดกันโกง” มาตลอด จึงไม่เคยคิดจะปฏิรูปชาติไทยทุกภาคส่วน ดังชาติที่เจริญแล้วเขาทำกัน
โดยเฉพาะทศวรรษล่าสุด เครือข่ายเหลี่ยมใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง เข้ามายึดอำนาจรัฐเพื่อนำไปปล้นชาติกันอย่างโจ๋งครึ่ม โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง แถมให้สมุนทำลายสถาบันสูงสุดของชาติอีกด้วย
ประชาชนผู้รักชาติในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงออกมาขับไล่รัฐบาลชั่วของเหลี่ยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ “บิ๊กบัง” ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ฉวยโอกาสทำรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาเหลี่ยม เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549
แต่รัฐประหาร “บิ๊กบัง” นั้น-เหลวเป๋ว เพราะมิได้จัดการกับพวกล้มเจ้า มิได้ทำลายระบอบทุนสามานย์เหลี่ยม อย่างถอนรากถอนโคนให้หมดไปจากแผ่นดินไทย
เนื่องจาก “บิ๊กบัง” กับรัฐบาลของ “รสช.” หวังลมๆ แล้งๆ กับการจะสร้างความสมานฉันท์กับพวกปล้นชาติเหลี่ยม แถมจะสืบทอดอำนาจด้วยการใช้นักการเมืองระบบเก่า ลงสู้ในสนามเลือกตั้งเพื่อหวังจะเอาชนะอำนาจเงินของอภิมหาเศรษฐีเหลี่ยมให้ได้
ทว่าผลลัพธ์จริงกลับตรงข้ามโดยสิ้นเชิง เพราะเครือข่ายเหลี่ยมหวนกลับมายึดอำนาจรัฐได้ด้วยวิธีเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ นั่นคือ เหลี่ยมยังคงใช้เงินทุ่มซื้อเสียงเลือกตั้ง เอาชนะคู่แข่งได้อย่างลอยลำตามเคยครับ
นั่นเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดแจ้งแล้วว่า “งาช้างไม่มีวันงอกออกจากปากหมา”เด็ดขาด เฉกเช่นเครือข่ายเหลี่ยมที่ไม่มีวันจะละเลิกการใช้ทุกวิถีทางเข้ายึดอำนาจรัฐ เพื่อโกงชาติบ้านเมืองนั่นเอง
ดังเช่น การยึดอำนาจรัฐด้วยเงินครั้งล่าสุด เผด็จการทุนสามานย์เหลี่ยมได้ส่งน้องสาวที่ไร้ความสามารถขึ้นเป็นนายกฯ ของชาติไทย ซึ่งนำความเสียหายมาสู่ชาติอย่างใหญ่หลวง เฉพาะโครงการประชานิยมจำนำข้าวแค่เรื่องเดียว เงินชาติถูกผลาญถูกโกงไปกว่า 5-6 แสนล้านบาท ฯลฯ
เมื่อแกนนำพันธมิตรฯ ยุติบทบาทลง แกนนำ ปชป.จึงได้สานต่อ ด้วยการนำมวลชนนับ 10 ล้านคนออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม โดยมีเป้าหมายหลักที่ชัดเจนว่า
ชาติไทย-ต้องปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ ชาติไทย-ต้องรีบขจัดนักการเมืองโกงชาติ และโค่นระบอบเผด็จการรัฐสภาทุนสามานย์เหลี่ยมให้สิ้นซาก!
“ตาอิน” หรือแกนนำ ปชป.ทั้งหลาย กับ “ตานา” หรือเครือข่ายทุนสามานย์เหลี่ยม ได้เปิดศึกต่อสู้กันแบบยืดเยื้อยาวนานกว่า 6 เดือน
ประชาธิปไตยในประเทศที่เจริญแล้ว ผู้คนย่อมมีความคิดเห็นที่ต่างกันได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา อีกทั้งการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชนทุกกลุ่ม หรือคัดค้านต่อต้านในโครงการหรือนโยบายของรัฐอย่างสันติ เป็นเรื่องที่ทำได้ตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ
ชาติไทยยุคเหลี่ยมครองเมือง มิได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงแม้แต่น้อย หากแต่เป็นระบอบเผด็จการรัฐสภาทุนสามานย์ เหลี่ยมจึงมักใช้อันธพาลก่อความรุนแรง ทำลาย-ทำร้าย-ทำการสังหารประชาชนที่ชุมนุมอย่างสันติด้วยวิธีป่าเถื่อนเรื่อยมา
สุดท้าย “ตาอยู่” ก็โผล่หน้าออกมา โดย “บิ๊กตู่” ในฐานะ ผบ.ทบ.ได้นำกองทัพไทยทำรัฐประหาร คว้าพุงปลาเพียวๆ ไปกินแบบชิวๆ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
3 เดือนกว่าผ่านพ้นไป ชาติไทยอยู่ในสภาพที่ยังไม่เคยมีผู้นำเผด็จการทหารคนไหน จะมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเท่า “บิ๊กตู่” ที่นั่งควบเก้าอี้สำคัญๆ ไว้ถึง 3 ตำแหน่ง นั่นคือ
ตำแหน่งที่หนึ่ง-เป็น ผบ.ทบ.ผู้ทรงอำนาจสูงยิ่งในกองทัพไทย!
ตำแหน่งที่สอง-เป็นหัวหน้า คสช.ที่มีอำนาจตั้งสมาชิก สนช.ทั้งสภาฯ มีอำนาจเสนอ สนช.ให้ปลดนายกฯ มีอำนาจในการคัดเลือกสภาปฏิรูปแห่งชาติ เรียกว่า..คสช.มีอำนาจเหนือสภา-รัฐบาล-ตุลาการ ฯลฯ
ตำแหน่งที่สาม-เป็นคนที่ สนช.ทั้งสภฯ ลงมติให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของชาติไทย และ “บิ๊กตู่” เพิ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อเช้าวันที่ 25 สิงหาคม 2557 นี้เอง!!!
ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ต้องขอบอก “บิ๊กตู่” ไว้ ณ ที่นี้ว่า “บิ๊กตู่” จะดำรงตำแหน่งกี่ตำแหน่งไม่มีปัญหา จะเป็นนายกฯ นานแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาอีก ขอเพียง “บิ๊กตู่” ต้องทำเพื่อชาติ อย่าทำเพื่อตนและพวกพ้องเด็ดขาด
“บิ๊กตู่” มีอำนาจเกินร้อยที่จะตั้งเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ดำรงตำแหน่งใดก็ได้ แต่ต้องยึดหลักธรรมาภิบาลที่ว่า เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ “บิ๊กตู่” ตั้งนั้น จะต้องมีทั้งความสามารถและซื่อสัตย์สุจริตไม่โกงชาติด้วย ฯลฯ
เพราะชาติไทยมิใช่ “สมบัติส่วนตัว” ของ “บิ๊กตู่” กับ คสช....จริงไหม?
“โอกาสทอง” ทำดีเพื่อชาติ อยู่ในมือ “บิ๊กตู่” กับ คสช.นั่นคือ ต้องปฏิรูปชาติไทยทุกภาคส่วน ต้องกำจัดการใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้ง ต้องขจัดระบอบเผด็จการรัฐสภา ฯลฯ หากงานนี้สำเร็จ “บิ๊กตู่” กับ คสช.จะเป็น “พระเอก” ในใจคนไทยชั่วลูกชั่วหลานเลยล่ะ!
แต่ถ้าล้มเหลว... “บิ๊กตู่” กับ คสช.ต้องแอ่นอกรับผิดชอบกันแบบเต็มๆ แน่นอน!! โอมเพี้ยง...ขอ “ผู้นำ” ที่ทำเพื่อชาติสักคนเถอะวะ...!!!
