ใครทำดี-ทำชั่ว..มิได้พิสูจน์ด้วย “ปาก” แต่พิสูจน์ด้วยผลงานจากการกระทำ!
คนไทยกำลังติดตามการเคลื่อนไหวของ “บิ๊กตู่” และ คสช.ทุกฝีก้าว เพราะหาก “บิ๊กตู่” กับ คสช.บริหารชาติดี ผลดีจะตกแก่คนไทยทั้งชาติและคสช.ทุกคน แต่หากบริหารชาติผิดพลาด คนที่รับความเดือดร้อนเต็มๆ คือ...คนไทยทั้งชาติเช่นกัน
ถึงวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ คสช.อาจพ้นจากตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว โดยมิต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายเกิดขึ้นกับชาติและประชาชนใดๆ ทั้งสิ้น
ดังยุค “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกรัฐมนตรี แค่ผิดพลาดเรื่องน้ำท่วมในปี 2554 ครั้งเดียว นายกฯ หญิงที่ไร้ความสามารถ-ไร้ความโปร่งใส ฯลฯ ทำให้เศรษฐกิจชาติเสียหายถึง 3.3 ล้านล้านบาท แถมคนไทยยังตายไปอีกเกือบ 1 พันคน
นอกจากนายกฯ “ปู” จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใหญ่หลวงที่ตนกระทำแล้ว นายกฯ หุ่นเชิดคนนี้ยังผลาญเงินชาติอีกหลายแสนล้านบาท ด้วยข้ออ้างจะแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยให้พี่ชายแอบเดินทางไปล็อบบี้บางชาติให้มาสวาปามเงินโครงการนี้อย่างไม่โปร่งใสอีกด้วย
วันนี้... “บิ๊กตู่” กับ คสช.มีอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเต็มร้อย แต่ปัญหาเลวร้ายทั้งเรื่องคนและชาตินั้นมหาศาล อีกทั้งสะสมมายาวนานและหนักหนาสาหัสยิ่งนัก รวมทั้ง “บิ๊กตู่” กับ คสช.ได้ใช้แนวทางแก้ปัญหาชาติด้วยวิธี “ปรองดอง” เป็นหลัก ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ บางเรื่องจึงยังมิได้แก้ไขอย่างหมดจดรวดเร็วดังคาดหวัง
แต่ผลงานของ “บิ๊กตู่” กับ คสช.ที่ผ่านมาก็มีเรื่องดีๆ มิใช่น้อย ที่เด่นชัดที่สุดก็คือ การนำความสงบคืนสู่ชาติได้นั่นเอง หรืออย่างน้อยก็ในช่วง คสช.ยังมีอำนาจอยู่ และประชาชนส่วนใหญ่ยังสนับสนุนเช่นนี้ กำลังบนดินของเหลี่ยมจำต้องสงบ และเคลื่อนไหวกันแค่ใต้ดินเท่านั้น
เพราะ “นายใหญ่” กับกลุ่มแกนนำแดงเชื่อว่า รัฐประหารแบบ “ถ้อยทีถ้อยอาศัย” นี้ “บิ๊กตู่” กับ คสช.ย่อมไม่เป็นอันตรายร้ายแรงใดๆ ต่อ “นายใหญ่” กับพวก ยิ่งเครือข่ายผู้ต่อต้านการโกงชาติของเหลี่ยมถูก คสช.จำกัดการแสดงออกแทบทุกทางในห้วงนี้ ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อเหลี่ยมและพวกไม่มากก็น้อย
ยิ่งผู้มีอำนาจในยามนี้ยังเชื่อว่า การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย และประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งเช่นเดิม “นายใหญ่” กับเครือข่ายยิ่งมีโอกาสจะหวนกลับมายิ่งใหญ่ทางการเมืองได้อีกครั้ง
วันนี้...วันที่ “บิ๊กตู่” ประธาน คสช.อยู่ในฐานะผู้ทรงอำนาจทุกมิติ คือ ผู้เลือกสมาชิก สนช.ทั้งยวงเข้าสู่สภาฯ หลังการเปิดสภา สนช.อย่างเป็นทางการ เสียงเชียร์ “บิ๊กตู่” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ยิ่งดังกระหึ่มจากทั่วทุกสารทิศมากขี้น
เพราะ “ตู่นายกฯ” รู้ใจ “ตู่คสช.” การทำงานระหว่างนายกฯ กับ คสช.จะ “เข้าขา” กันยิ่งนัก!
แต่ผู้หวังดีด้วยใจจริงก็ติงว่า “บิ๊กตู่” ผู้สวมหมวกประธาน คสช.มีฐานะเหนือนายกฯ อยู่แล้ว สู้ยืนคุมยืนบงการอยู่เบื้องหลังดีกว่า ถ้านายกฯ ที่ สนช.ตั้งลืมตัว-บิดพลิ้ว-ทำไม่ดี ฯลฯ “บิ๊กตู่” กับ คสช.ก็เสนอให้ สนช.ปลดนายกฯ คนนั้นออกจากตำแหน่งได้นี่นา..
โลกแห่งความจริงนั้น มนุษย์ทุกคนล้วนมีพวกพ้อง และมักเอาพวกพ้องที่ไว้ใจได้มาทำงานกับตนหรือแทนตนเสมอ เพียงแต่พวกพ้องจะมีความสามารถตรงกับงานหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ยิ่งเรื่องของชาติด้วยแล้ว หากพวกพ้องมีความสามารถไม่เพียงพอ ก็ต้องเสาะหาผู้มีความสามารถที่เหมาะสมเข้ามาทำงานให้กับชาติแทนพวกพ้องก่อน เพราะชาติมิใช่สมบัติหรือบริษัทส่วนตัวของใคร จึงไม่อาจนำไปให้เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ด้อยความสามารถ “ทดลองงาน” หรือทำปู้ยี่ปู้ยำชาติเล่นได้ตามอำเภอใจเด็ดขาด
เพราะการรักพวกพ้องแบบผิดๆ ที่นำความเสียหายมาให้ชาติและประชาชนนั้น ถือเป็นอาชญากรรมต่อชาติ หรือเป็นการคอร์รัปชันชาติชนิดหนึ่งเช่นกัน!
แต่ถ้ามั่นใจในเพื่อนพ้องน้องพี่ ว่าจะบริหารชาติได้ดีแน่ๆ ก็ตั้งเลย ไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนจะด่าว่าเพราะทุกชาติในโลกเขาก็ทำกันเกร่อไปหมด เพียงแต่คนมีอำนาจที่แต่งตั้งพวกพ้องขึ้นเป็นใหญ่ จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นคือ หาก “บิ๊กตู่” ให้พี่หรือเพื่อนเป็นนายกฯ ถ้าพี่หรือเพื่อนทำดี “บิ๊กตู่” ย่อมได้รับเสียงชื่นชม แต่ถ้าบริหารชาติไม่เอาอ่าว “บิ๊กตู่” ย่อมถูกประณามหนักกว่าใครทั้งหมดแน่นอน
ดังนั้น “บิ๊กตู่” จะเป็นเองหรือให้ใครเป็นนายกฯ แทน เกิดการทำดีหรือทำชั่ว “บิ๊กตู่” ต้องรับผิดชอบเต็มๆ อยู่แล้ว เอาเป็นว่า..เดือนกันยายนนี้รู้แน่ว่า “บิ๊กตู่” หรือใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไปของชาติไทยครับ
ส่วนตัวผมแล้ว... “บิ๊กตู่” ลงทุนมาถึงขนาดนี้ “บิ๊กตู่” น่าจะเป็นนายกฯ ลุยงานชาติเองเลย เพราะ “บิ๊กตู่” ประธาน คสช.กับ “บิ๊กตู่” นายกฯ จะได้ใช้อำนาจครบทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ เพื่อ “สองตู่” จะได้ช่วยกันขจัดพวกคอร์รัปชันโกงชาติ และปฏิรูปประเทศไทยในทุกภาคส่วนให้สำเร็จ
งานนี้...“บิ๊กตู่” จะต้องทุ่มกายใจทำดีเพื่อชาติสถานเดียวเท่านั้น!
จำได้ว่าในปี 2535 หมอดูทั้งเมืองไทย “เจ๊ง” เป็นแถบมาแล้ว กับคำทำนาย “รัฐบาลสุจินดาจะอยู่ยั้งยืนยงนับสิบปี” เพราะเป็นรัฐบาลที่มีเพื่อนพ้องน้องพี่คุมทุกกองทัพไว้ในกำมือแบบเต็มร้อยเต็มล้าน
แต่แล้วนายทหารรุ่นพี่นาม “บิ๊กสุ” กลับเป็นรัฐบาลได้แค่ 47 วันเท่านั้น เพราะถูกคนไทยขับไล่กันทั่วบ้านทั่วเมือง!
คนไทยกำลังติดตามการเคลื่อนไหวของ “บิ๊กตู่” และ คสช.ทุกฝีก้าว เพราะหาก “บิ๊กตู่” กับ คสช.บริหารชาติดี ผลดีจะตกแก่คนไทยทั้งชาติและคสช.ทุกคน แต่หากบริหารชาติผิดพลาด คนที่รับความเดือดร้อนเต็มๆ คือ...คนไทยทั้งชาติเช่นกัน
ถึงวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ คสช.อาจพ้นจากตำแหน่งอันยิ่งใหญ่ไปแล้ว โดยมิต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายเกิดขึ้นกับชาติและประชาชนใดๆ ทั้งสิ้น
ดังยุค “ยิ่งลักษณ์” เป็นนายกรัฐมนตรี แค่ผิดพลาดเรื่องน้ำท่วมในปี 2554 ครั้งเดียว นายกฯ หญิงที่ไร้ความสามารถ-ไร้ความโปร่งใส ฯลฯ ทำให้เศรษฐกิจชาติเสียหายถึง 3.3 ล้านล้านบาท แถมคนไทยยังตายไปอีกเกือบ 1 พันคน
นอกจากนายกฯ “ปู” จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใหญ่หลวงที่ตนกระทำแล้ว นายกฯ หุ่นเชิดคนนี้ยังผลาญเงินชาติอีกหลายแสนล้านบาท ด้วยข้ออ้างจะแก้ปัญหาน้ำท่วม โดยให้พี่ชายแอบเดินทางไปล็อบบี้บางชาติให้มาสวาปามเงินโครงการนี้อย่างไม่โปร่งใสอีกด้วย
วันนี้... “บิ๊กตู่” กับ คสช.มีอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเต็มร้อย แต่ปัญหาเลวร้ายทั้งเรื่องคนและชาตินั้นมหาศาล อีกทั้งสะสมมายาวนานและหนักหนาสาหัสยิ่งนัก รวมทั้ง “บิ๊กตู่” กับ คสช.ได้ใช้แนวทางแก้ปัญหาชาติด้วยวิธี “ปรองดอง” เป็นหลัก ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ บางเรื่องจึงยังมิได้แก้ไขอย่างหมดจดรวดเร็วดังคาดหวัง
แต่ผลงานของ “บิ๊กตู่” กับ คสช.ที่ผ่านมาก็มีเรื่องดีๆ มิใช่น้อย ที่เด่นชัดที่สุดก็คือ การนำความสงบคืนสู่ชาติได้นั่นเอง หรืออย่างน้อยก็ในช่วง คสช.ยังมีอำนาจอยู่ และประชาชนส่วนใหญ่ยังสนับสนุนเช่นนี้ กำลังบนดินของเหลี่ยมจำต้องสงบ และเคลื่อนไหวกันแค่ใต้ดินเท่านั้น
เพราะ “นายใหญ่” กับกลุ่มแกนนำแดงเชื่อว่า รัฐประหารแบบ “ถ้อยทีถ้อยอาศัย” นี้ “บิ๊กตู่” กับ คสช.ย่อมไม่เป็นอันตรายร้ายแรงใดๆ ต่อ “นายใหญ่” กับพวก ยิ่งเครือข่ายผู้ต่อต้านการโกงชาติของเหลี่ยมถูก คสช.จำกัดการแสดงออกแทบทุกทางในห้วงนี้ ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อเหลี่ยมและพวกไม่มากก็น้อย
ยิ่งผู้มีอำนาจในยามนี้ยังเชื่อว่า การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย และประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งเช่นเดิม “นายใหญ่” กับเครือข่ายยิ่งมีโอกาสจะหวนกลับมายิ่งใหญ่ทางการเมืองได้อีกครั้ง
วันนี้...วันที่ “บิ๊กตู่” ประธาน คสช.อยู่ในฐานะผู้ทรงอำนาจทุกมิติ คือ ผู้เลือกสมาชิก สนช.ทั้งยวงเข้าสู่สภาฯ หลังการเปิดสภา สนช.อย่างเป็นทางการ เสียงเชียร์ “บิ๊กตู่” ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ยิ่งดังกระหึ่มจากทั่วทุกสารทิศมากขี้น
เพราะ “ตู่นายกฯ” รู้ใจ “ตู่คสช.” การทำงานระหว่างนายกฯ กับ คสช.จะ “เข้าขา” กันยิ่งนัก!
แต่ผู้หวังดีด้วยใจจริงก็ติงว่า “บิ๊กตู่” ผู้สวมหมวกประธาน คสช.มีฐานะเหนือนายกฯ อยู่แล้ว สู้ยืนคุมยืนบงการอยู่เบื้องหลังดีกว่า ถ้านายกฯ ที่ สนช.ตั้งลืมตัว-บิดพลิ้ว-ทำไม่ดี ฯลฯ “บิ๊กตู่” กับ คสช.ก็เสนอให้ สนช.ปลดนายกฯ คนนั้นออกจากตำแหน่งได้นี่นา..
โลกแห่งความจริงนั้น มนุษย์ทุกคนล้วนมีพวกพ้อง และมักเอาพวกพ้องที่ไว้ใจได้มาทำงานกับตนหรือแทนตนเสมอ เพียงแต่พวกพ้องจะมีความสามารถตรงกับงานหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ยิ่งเรื่องของชาติด้วยแล้ว หากพวกพ้องมีความสามารถไม่เพียงพอ ก็ต้องเสาะหาผู้มีความสามารถที่เหมาะสมเข้ามาทำงานให้กับชาติแทนพวกพ้องก่อน เพราะชาติมิใช่สมบัติหรือบริษัทส่วนตัวของใคร จึงไม่อาจนำไปให้เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ด้อยความสามารถ “ทดลองงาน” หรือทำปู้ยี่ปู้ยำชาติเล่นได้ตามอำเภอใจเด็ดขาด
เพราะการรักพวกพ้องแบบผิดๆ ที่นำความเสียหายมาให้ชาติและประชาชนนั้น ถือเป็นอาชญากรรมต่อชาติ หรือเป็นการคอร์รัปชันชาติชนิดหนึ่งเช่นกัน!
แต่ถ้ามั่นใจในเพื่อนพ้องน้องพี่ ว่าจะบริหารชาติได้ดีแน่ๆ ก็ตั้งเลย ไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนจะด่าว่าเพราะทุกชาติในโลกเขาก็ทำกันเกร่อไปหมด เพียงแต่คนมีอำนาจที่แต่งตั้งพวกพ้องขึ้นเป็นใหญ่ จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นคือ หาก “บิ๊กตู่” ให้พี่หรือเพื่อนเป็นนายกฯ ถ้าพี่หรือเพื่อนทำดี “บิ๊กตู่” ย่อมได้รับเสียงชื่นชม แต่ถ้าบริหารชาติไม่เอาอ่าว “บิ๊กตู่” ย่อมถูกประณามหนักกว่าใครทั้งหมดแน่นอน
ดังนั้น “บิ๊กตู่” จะเป็นเองหรือให้ใครเป็นนายกฯ แทน เกิดการทำดีหรือทำชั่ว “บิ๊กตู่” ต้องรับผิดชอบเต็มๆ อยู่แล้ว เอาเป็นว่า..เดือนกันยายนนี้รู้แน่ว่า “บิ๊กตู่” หรือใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไปของชาติไทยครับ
ส่วนตัวผมแล้ว... “บิ๊กตู่” ลงทุนมาถึงขนาดนี้ “บิ๊กตู่” น่าจะเป็นนายกฯ ลุยงานชาติเองเลย เพราะ “บิ๊กตู่” ประธาน คสช.กับ “บิ๊กตู่” นายกฯ จะได้ใช้อำนาจครบทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ เพื่อ “สองตู่” จะได้ช่วยกันขจัดพวกคอร์รัปชันโกงชาติ และปฏิรูปประเทศไทยในทุกภาคส่วนให้สำเร็จ
งานนี้...“บิ๊กตู่” จะต้องทุ่มกายใจทำดีเพื่อชาติสถานเดียวเท่านั้น!
จำได้ว่าในปี 2535 หมอดูทั้งเมืองไทย “เจ๊ง” เป็นแถบมาแล้ว กับคำทำนาย “รัฐบาลสุจินดาจะอยู่ยั้งยืนยงนับสิบปี” เพราะเป็นรัฐบาลที่มีเพื่อนพ้องน้องพี่คุมทุกกองทัพไว้ในกำมือแบบเต็มร้อยเต็มล้าน
แต่แล้วนายทหารรุ่นพี่นาม “บิ๊กสุ” กลับเป็นรัฐบาลได้แค่ 47 วันเท่านั้น เพราะถูกคนไทยขับไล่กันทั่วบ้านทั่วเมือง!