นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้นายวินัย รอดจ่าย ประธานคณะกรรมการพัฒนาการเตรียมการสอนวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้หารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และได้ข้อสรุปว่า วิชาหน้าที่พลเมืองในสาระเกี่ยวกับการปกครองในระบบประชาธิปไตยนั้น สพฐ. กับ กกต. ตกลงร่วมกันว่า จะใช้เนื้อหาของกกต. ส่วนความคืบหน้าในการสอนวิชาประวัติศาสตร์ เร็ว ๆ นี้จะมีการอบรมครูแกนนำ จำนวน 1,200 คน โดยแบ่งการอบรมเป็น 4 รุ่น โดย 2 รุ่นแรก จะอบรมอยู่ในกรุงเทพฯ อีก 2 รุ่นไปอบรมที่ จ. พระนครศรีอยุธยา
สำหรับกิจกรรมระหว่างอบรมจะพาครูแกนนำไปทัศนศึกษายังโบราณสถาน และแหล่งประวัติศาสตร์ด้วย เพื่อให้ครูแกนนำได้มีโอกาสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และฝึกทักษะการสอนวิชาประวัติศาสตร์ไปในตัว โดยการอบรมดังกล่าวจะเริ่มช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำร่างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มี ศ.(พิเศษ) ภาวิช ทองโรจน์ เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตร และตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน นั้น ที่ผ่านมาสพฐ. ได้จ่ายเงินค่าจ้างดำเนินการจัดทำหลักสูตรไปแล้ว ประมาณ 85% ของจำนวนเงินทั้งหมด เหลืออีกประมาณ 15% ที่ สพฐ.จะต้องจ่ายหลังจากที่ ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ได้ยกร่างหลักสูตรเสร็จสิ้น และส่งมอบให้สพฐ. ซึ่งมีกำหนด ในเดือนธันวาคม 2557 นี้
“ที่ผ่านมาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เคยวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของร่างหลักสูตรดังกล่าวไปบ้างแล้ว และขอให้ไปปรับแก้ไข และ กพฐ.ส่วนใหญ่เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนักวิชาการ และครูผู้สอน ที่เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับหลักสูตรทั้งระบบ แต่เห็นว่าควรจะมีการทบทวนและปรับในรายละเอียดเป็นรายวิชา อาทิ วิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง หรือแม้แต่หลักสูตรที่เกี่ยวกับการเมือง การปกครอง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เหล่านี้ที่ควรจะมีการปรับเนื้อหาเป็นระยะ ดังนั้นขณะนี้ในส่วนของ สพฐ.จึงทำเฉพาะการปรับย่อย แต่ถ้าจะปรับอีกทีก็ควรจะรอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เกิดก่อน เพื่อให้รู้แนวทางการปฏิรูปประเทศ ว่าต้องการสร้างคนที่มีคุณลักษณะเช่นไร ถึงเวลานั้น ก็คงต้องมาปฏิรูปหลักสูตรกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนร่าง หลักสูตรที่มีการจัดทำนั้น ก็เปรียบเสมือนงานวิจัยที่สพฐ. คงนำไว้เป็นข้อมูลต่อไป ในอนาคต” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
สำหรับกิจกรรมระหว่างอบรมจะพาครูแกนนำไปทัศนศึกษายังโบราณสถาน และแหล่งประวัติศาสตร์ด้วย เพื่อให้ครูแกนนำได้มีโอกาสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และฝึกทักษะการสอนวิชาประวัติศาสตร์ไปในตัว โดยการอบรมดังกล่าวจะเริ่มช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำร่างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่มี ศ.(พิเศษ) ภาวิช ทองโรจน์ เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตร และตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน นั้น ที่ผ่านมาสพฐ. ได้จ่ายเงินค่าจ้างดำเนินการจัดทำหลักสูตรไปแล้ว ประมาณ 85% ของจำนวนเงินทั้งหมด เหลืออีกประมาณ 15% ที่ สพฐ.จะต้องจ่ายหลังจากที่ ศ.(พิเศษ) ดร.ภาวิช ได้ยกร่างหลักสูตรเสร็จสิ้น และส่งมอบให้สพฐ. ซึ่งมีกำหนด ในเดือนธันวาคม 2557 นี้
“ที่ผ่านมาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เคยวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของร่างหลักสูตรดังกล่าวไปบ้างแล้ว และขอให้ไปปรับแก้ไข และ กพฐ.ส่วนใหญ่เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของนักวิชาการ และครูผู้สอน ที่เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องปรับหลักสูตรทั้งระบบ แต่เห็นว่าควรจะมีการทบทวนและปรับในรายละเอียดเป็นรายวิชา อาทิ วิชาประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง หรือแม้แต่หลักสูตรที่เกี่ยวกับการเมือง การปกครอง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เหล่านี้ที่ควรจะมีการปรับเนื้อหาเป็นระยะ ดังนั้นขณะนี้ในส่วนของ สพฐ.จึงทำเฉพาะการปรับย่อย แต่ถ้าจะปรับอีกทีก็ควรจะรอให้สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เกิดก่อน เพื่อให้รู้แนวทางการปฏิรูปประเทศ ว่าต้องการสร้างคนที่มีคุณลักษณะเช่นไร ถึงเวลานั้น ก็คงต้องมาปฏิรูปหลักสูตรกันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนร่าง หลักสูตรที่มีการจัดทำนั้น ก็เปรียบเสมือนงานวิจัยที่สพฐ. คงนำไว้เป็นข้อมูลต่อไป ในอนาคต” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว