1) “ฉันและเธอ...ทหารไทย”
เมื่อเธออาจหาญทำการใหญ่
ก้าวต่อไปล้วนทายท้าให้กล้าหาญ
ภาระหนักมากล้นต้องทนทาน
ก้าวให้ผ่านขวากหนามที่ทิ่มแทง
ทุกเส้นทางย่างก้าวมีกับดัก
มีโลภหลงมีตระหนักเป็นเส้นแบ่ง
เธอต้องเลือกต้องคัดต้องจัดแจง
ทุกสางสะต้องจะแจ้งและชัดเจน
อำนาจที่ได้มาคือภาระ
เป็นหน้าที่เป็นพันธะยากหลบเร้น
ความมั่นคงสงบสุขทุกประเด็น
คืนความสุขนั้นยากเย็นทุกเยียวยา
หนทางสู่อำนาจอาจไม่ยาก
ใช้อำนาจต่างหากยากยิ่งกว่า
ทุกทางเลือกมีสองแพร่งแบ่งมรรคา
ทางวิบัติ ทางศรัทธา ต้องเลือกเอง
ผลประโยชน์มากมายที่รายล้อม
เธอต้องพร้อมพิทักษ์อย่างครัดเคร่ง
ประโยชน์ชาติต้องสำคัญกว่ากันเอง
ให้เหมือนเพลงคืนความสุขทุกถ้อยคำ
เมื่อเธออาจหาญทำการใหญ่
เธออาจต้องทำใจทุกเช้าค่ำ
แวดล้อมเธอทั้งเทา ขาว และดำ
พร้อมที่จะก่อกรรม ทำลายเธอ
ในฐานะประชาชนคนรักชาติ
เทใจช่วยทุกอำนาจของเธอเสมอ
ฝันอยากเห็นผลสำเร็จอันเลิศเลอ
อย่าให้ฉันฝันเก้อ...เธอ ฉันกลัว!
2) “อำนาจ”
คนไทยให้โอกาส
ทุกอำนาจที่ผ่านมา
แต่หวังทุกครั้งครา
ก็ผิดหวังทุกครั้งไป
อำนาจคืออำนาจ
ต้องเด็ดขาดต้องเป็นไท
ลำไผ่เขียววิไล
อย่าให้กลายเป็นบ้องกัญชา
3) “นกหวีด..กับรองเท้าผ้าใบ”
เขานั่งมองรองเท้าผ้าใบ
สายนกหวีดแขวนไว้ข้างเสา
เขานั่งนิ่งเงียบขรึมซึมเซา
คิดถึงวันคืนเก่ากลางฝูงชน
แว่วเสียงนกหวีดกรีดร้อง
เพลงเราสู้กึกก้องท้องถนน
วันตากฝนวันทนแดดแผดร้อนรน
วันน้ำตาร่วงหล่นมีคนตาย
อิติปิโสภควาถูกฆ่าเข่น
โดยสัตว์ป่าเลือดเย็นและดุร้าย
อหิงสาถูกขย้ำถูกทำลาย
ยังเสี่ยงสู้อย่างท้าทายทุกรายทาง
ปกป้องชาติศาสน์กษัตริย์จากสัตว์ร้าย
ปัญหาชาติมากมายหมายสะสาง
ต่อต้านทุกมืดดำที่อำพราง
สู้ท่ามกลางถ่อยเถื่อนที่คุกคาม
สองร้อยกว่าวันการเคลื่อนไหว
ยุติอย่างจำใจเกินหักห้าม
อำนาจใหม่ทุบโต๊ะต้องยอมตาม
เก็บกลองศึกหยุดสงครามประชาชน
เขานิ่งมองรองเท้ากับนกหวีด
แว่วเสียงกรีดกึกก้องท้องถนน
หวั่นใดแปลกใดแปร่งใดปลอมปน
เขาคิดถึงมหาชน...ล้านส้นตีน!
ว.แหวนลงยา