โฆษก คสช. ปัด จนท. ใช้ความรุนแรงกับ "กริชสุดา" นักกิจกรรมเสื้อแดงที่ไปให้สัมภาษณ์บีบีซีถูกทำร้ายร่างกาย-โดนขู่เข็ญออกสื่อว่ายังสบายดี ซัดเป็นการบิดเบือน หวังทำลายความน่าเชื่อถือ คสช. คาดหูเบาหลังพบปะกลุ่มเดิมที่หลบอยู่ในต่างประเทศ เชื่อหวังกระพือว่าถูกละเมิดให้บางองค์กรเข้ามาจับตาเรื่องนี้
วานนี้ (3 ส.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณีที่ น.ส.กริชสุดา คุณะเสน หรือสหายสุดซอย หรือเปิ้ล นักกิจกรรมกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารคุมตัวก่อนถูกปล่อยตัวออกมา ได้ขอลี้ภัยไปยุโรป และให้สัมภาษณ์กับเฟซบุ๊กบีบีซีไทย โจมตี คสช. ระบุว่าระหว่างถูกคุมตัวถูกทหารทำร้ายร่างกาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายอย่าง และก่อนหน้าที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยู่สุขสบายเพราะถูกบังคับนั้น ระบุว่า การดำเนินการต่อ น.ส.กริชสุดา นั้น เริ่มมาจากต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวพันในคดีทางอาญาหลายคดี จึงเชื่อว่าเจ้าตัวคงมีความกังวลอยู่พอสมควรถึงผลพวงต่างๆ ที่อาจตามมาได้ ทั้งจากเรื่องคดีความ และจากผู้เสียประโยชน์จากการให้ข้อมูล ซึ่งไม่เหมือนกับอีกหลายๆ คนที่เคยถูกเชิญมารายงานตัวด้วยเหตุผลที่ต่างจากกรณีนี้
ที่ผ่านมาในการสอบสวน น.ส.กริชสุดา เจ้าหน้าที่มักได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และข้อมูลที่ได้เป็นประโยชน์อย่างมากกับทางเจ้าหน้าที่ ถึงขั้นเจ้าตัวรู้สึกและกังวลในเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก จึงอยากขออยู่เงียบๆ ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนให้มากที่สุด และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแล ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการให้ตามความเหมาะสม กระทั่งเคยมีข่าวลือว่า เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัว ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดให้มีการสัมภาษณ์แสดงตนต่อสาธารณะ ซึ่งสังเกตกริยาอาการรอยยิ้มที่แสดงออกมา ก็แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นไปโดยธรรมชาติปกติ แววตาใบหน้าก็ดูเปล่งปลั่ง ไม่เหมือนเป็นการเสแสร้งในลักษณะที่แสดงออกในลักษณะถูกบังคับได้อย่างที่กล่าวอ้าง
"ยืนยันได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ให้การดูแลเป็นอย่างดี ไม่เคยปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ที่กระทำความผิด หรืออย่างที่มีการกล่าวอ้างอย่างแน่นอน แต่ค่อนข้างแปลกใจกับการมาให้ข้อมูลของ น.ส.กริชสุดาในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังมีข้อสงสัยหลายประการ ส่วนหนึ่งเป็นไปได้ที่จะพยายามใช้เงื่อนไขเดิมๆ ให้มองว่าเป็นการละเมิด เพื่อดึงให้บางองค์กรฯ ที่มีความสนใจเรื่องนี้และเข้ามาสนับสนุน เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ โดยการให้ข้อมูลที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริง กล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐานข้อพิสูจน์" พ.อ.วินธัย กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า เป็นไปได้ว่าอาจไม่มั่นใจผลลัพธ์ในทางคดีต่างๆ ที่อาจตามมาที่ น.ส.กริชสุดา เข้าไปมีส่วนสนับสนุนพัวพันอยู่หลายคดี ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะได้ให้คำมั่นไว้แล้ว ด้วยเพราะขณะนี้คดีต่างๆ มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดย น.ส.กริชสุดา คงอาจประเมินดูแล้ว พบความเสี่ยงว่าอาจได้รับผลกระทบในทางคดีแน่นอน หรือไม่ก็ได้รับอันตรายจากผู้เสียผลประโยชน์จากคำให้การต่างๆ ของตนที่ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นไปได้เมื่อได้กลับไปปรึกษาพบปะกับคนรอบข้างกลุ่มเดิมที่หลบอยู่ในต่างประเทศ จึงอาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
"ขอยีนยันว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมาได้เคารพต่อสิทธิมนุษยชนมาตลอด การปฏิบัติใดๆ มีหลักการและเหตุผลรองรับทุกประการ การควบคุมดูแลบุคคลหนึ่งบุคคลใด เป็นไปด้วยความสุภาพเรียบร้อย และไม่มีเหตุผลที่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องไปดำเนินการอะไรที่ขัดต่อความรู้สึกของสังคมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน และสถานการณ์ที่สังคมให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้" พ.อ.วินธัย กล่าว
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ประชาไท (ภาคภาษาอังกฤษ) เผยแพร่รายงานว่า น.ส.กริชสุดา นักกิจกรรมกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ทหารคุมตัวที่บ้านพักของนางมนัญชยา เกตุแก้ว หรือเมย์ อียู แกนนำเสื้อแดงภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่หมู่บ้านบางแสนมหานคร จ.ชลบุรี และถูกควบคุมตัวกว่า 20 วัน ได้ออกจากประเทศไทย และขณะนี้กำลังมองหาสถานที่ลี้ภัยทางการเมืองในทวีปยุโรป ซึ่ง น.ส.กริชสุดายืนยันกับเว็บไซต์ประชาไทว่าขณะนี้กำลังพำนักอยู่ในทวีปยุโรป และวางแผนที่จะใช้สถานะผู้ลี้ภัยในทวีปยุโรป โดยได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ซึ่งมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นเลขาธิการ และกลุ่มต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ
ล่าสุดช่วงเช้าวานนี้ (3 ส.ค.) เฟซบุ๊กบีบีซีไทย - BBC Thai ได้แพร่ข่าวว่า "กริชสุดา" ขอลี้ภัยในยุโรป ให้ข้อมูลยูเอ็นและนิรโทษกรรมสากล โดยมีเนื้อหาระบุว่า น.ส.กริชสุดา เปิดเผยว่าก่อนหน้าที่ตนออกมากล่าวถึงเรื่องระหว่าง 20 กว่าวันที่ถูกควบคุมตัวนั้นตนเองอยู่สุขสบายนั้นไม่เป็นความจริง เพราะถูกทหารบังคับให้พูด นอกจากนี้ยังกล่าวอ้างกับ บีบีซี ไทยด้วยว่า ระหว่างถูกควบคุมตัวถูกทำร้ายร่างกาย ทรมาน และละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกด้วย
“บีบีซีไทยได้พูดคุยกับ น.ส.กริชสุดาเพิ่มเติม ได้รับการบอกเล่าว่า ระหว่างที่ถูกคุมตัว ทหารมัดมือ ใช้ผ้าปิดตาและใช้สก็อตเทปพันทับตลอดเวลาเจ็ดวันแรกของการควบคุม และถูกทำร้ายตั้งแต่วันแรก เจ้าหน้าที่ได้เข้าซักถามเรื่องการทำงานของน.ส.กริชสุดาที่เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟ้าสีทองและช่วยเหลือนักโทษที่เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ในระหว่างการซักถามถูกทำร้ายร่างกายเช่นแตะและต่อยไปด้วย รวมทั้งถูกทรมานด้วยการใช้ถุงคลุมศีรษะไม่ให้มีอากาศหายใจ แล้วถูกนำตัวใส่ถุงผ้าห่อในลักษณะเหมือนห่อศพ ซึ่งทำให้หมดสติ แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำสาดเพื่อให้ฟื้นขึ้นมาตอบคำถาม น.ส.กริชสุดา บอกว่าเนื่องจากถูกมัดมือตลอดเวลา ทุกครั้งที่จะอาบน้ำจะมีผู้เปลื้องผ้าอาบน้ำให้ ถอดกางเกงให้หากต้องการขับถ่าย” บีบีซีไทยรายงาน
น.ส.กริชสุดาเปิดเผยด้วยว่า ตนเองได้เดินทางออกจากประเทศไทยทันทีในวันรุ่งขึ้นหลังจากถูกปล่อยตัว โดยประสานกับองค์กรนิรโทษกรรมสากลและองค์การสหประชาชาติเพื่อขอลี้ภัยในประเทศในแถบยุโรป และตนไม่ขอกลับเมืองไทยอีกแล้ว โดยต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่
สำหรับรายละเอียดข่าวดังกล่าวของ บีบีซี ไทย มีดังนี้
วันที่ 2 กค.ที่ผ่านมาในโลกของผู้ใช้โซเชียลมีเดียได้มีการแชร์ข่าวสารชิ้นหนึ่ง นั่นคือความเคลื่อนไหวของ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือเปิ้ล โดยเฉพาะการที่ น.ส.กริชสุดาได้ออกมาให้สัมภาษณ์นายจอม เพชรประดับ นักจัดรายการโทรทัศน์ปรากฏในคลิปที่เผยแพร่ในยูทิวบ์ เนื้อหาการสัมภาษณ์กล่าวถึงเรื่องราวขณะที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหารก่อนหน้านี้ ประเด็นสำคัญระบุว่า สิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีปัญหาใดๆ และความเป็นอยู่ระหว่างถูกคุมตัวในช่วงเวลา 27 วันนั้นสุขสบายดีเป็นเรื่องที่ไม่จริงเพราะถูกบังคับให้พูด
บีบีซีไทยได้พูดคุยกับ น.ส.กริชสุดาเพิ่มเติม ได้รับการบอกเล่าว่า ระหว่างที่ถูกคุมตัว ทหารมัดมือ ใช้ผ้าปิดตาและใช้สก็อตเทปพันทับตลอดเวลาเจ็ดวันแรกของการควบคุม และถูกทำร้ายตั้งแต่วันแรก เจ้าหน้าที่ได้เข้าซักถามเรื่องการทำงานของน.ส.กริชสุดาที่เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟ้าสีทองและช่วยเหลือนักโทษที่เป็นกลุ่มคนเสื้อแดง ในระหว่างการซักถามถูกทำร้ายร่างกายเช่นแตะและต่อยไปด้วย รวมทั้งถูกทรมานด้วยการใช้ถุงคลุมศีรษะไม่ให้มีอากาศหายใจ แล้วถูกนำตัวใส่ถุงผ้าห่อในลักษณะเหมือนห่อศพ ซึ่งทำให้หมดสติ แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้น้ำสาดเพื่อให้ฟื้นขึ้นมาตอบคำถาม น.ส.กริชสุดา บอกว่าเนื่องจากถูกมัดมือตลอดเวลา ทุกครั้งที่จะอาบน้ำจะมีผู้เปลื้องผ้าอาบน้ำให้ ถอดกางเกงให้หากต้องการขับถ่าย
น.ส.กริชสุดา บอกว่าในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้นั้น ทหารชั้นผู้ใหญ่ได้สั่งให้ตอบคำถามที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ทหาร และเธอต้องพูดว่าชีวิตความเป็นอยู่ในระหว่างถูกควบคุมตัวนั้นไม่มีปัญหาอย่างใด และแม้จะคุมตัวเกินกำหนดเจ็ดวัน แต่เธอเป็นผู้ขออยู่ต่อเองเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ดีก็ได้พยายามสื่อเป็นนัยว่ามีปัญหาด้วยการใช้คำพูดที่ว่า "มีความสุขสบายจนเกินที่จะพูด" และ "สุขสบายดีไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร"เพื่อให้บุคคลภายนอกได้มองเห็นความผิดปกติ
“ที่ผู้ถูกคุมตัวคนอื่น ๆ บอกว่าได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากทหารนี่ก็เพราะคนเหล่านั้นอยู่ในเมืองไทย จะมีใครกล้าพูดความจริง แต่สำหรับหนูคิดว่าอยู่เมืองไทยไม่ได้อีกแล้วต้องออกมาบอกให้โลกรู้ว่ามันไม่จริง หนูไม่คิดกลับเมืองไทยอีกแล้ว อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีความเสรีดีกว่า”
ก่อนที่น.ส.กริชสุดาจออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันกับสื่อและสาธารณะว่าการอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ไม่มีปัญหานั้น เพื่อนและคนรู้จักน.ส.กริชสุดาหลายคนได้ตั้งคำถามผ่านทางสื่อประเภทโซเชียลมีเดียขอคำอธิบายจากเจ้าหน้าที่เนื่องจากน.ส.กริชสุดาไม่ได้รับการปล่อยตัวเช่นคนอื่นๆตลอดจนไม่มีข่าวใดๆออกมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกมายืนยันว่าน.ส.กริชสุดาปลอดภัยไม่มีปัญหาใดๆและว่าเจ้าตัวต้องการอยู่ต่อเอง แล้วก็ได้นำตัวออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อในเวลาต่อมา
น.ส.กริชสุดา บอกอีกว่า ได้เดินทางออกจากประเทศไทยในวันรุ่งขึ้นทันทีหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวและได้ประสานกับองค์กรต่าง ๆ อาทิองค์การนิรโทษกรรมสากลหรือ Amnesty International และองค์การสหประชาชาติ เพื่อตีแผ่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ให้ข้อมูลกับทั้งสององค์กรไประดับหนึ่งแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการขอลี้ภัยในประเทศแถบยุโรปและสแกนดิเนเวีย.