“จรัมพร” โดดคุมคดี “ต่าย ดาวเฮือง” สาวลาวพลัดตก ไนซ์ แมนชั่น 2 ตายปริศนา นำทีม พฐ.ตรวจสอบห้องพักเอง ไม่ตัดทิ้งประเด็นฆาตกรรม เก็บหลักฐานเพิ่มเติม รอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ คาด 1 สัปดาห์รู้ผล
จากกรณีที่ประชาคมออนไลน์ในนครเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว กำลังแชร์ภาพและข่าว น.ส.ต่าย ดาวเฮือง อายุ 18 ปี ตามชื่อหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นสาวลาวที่เสียชีวิตจากการตกจากระเบียงอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน กทม.อย่างมีเลศนัย จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้แยกเหม่งจ๋าย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานทูตลาว และสถานกงสุลลาว ประจำประเทศไทย อย่างกว้างขวาง พร้อมกับเสียงเรียกร้องให้ทางการไทยสืบหาข้อเท็จจริง
วานนี้ (31 ก.ค.) ที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร. (สบ.10) เดินทางมาเป็นประธาน จัดประชุมกรณี น.ส.ต่าย เสียชีวิตปริศนาจากการตกตึกที่พัก โดยมี พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.สุภัค วงษ์สวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ สว.สส.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าร่วม โดยใช้ประมาณ 30 นาที
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวภายหลังการประชุมว่า กรณีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของประชาชน วันนี้ตนจึงเดินทางมาตรวจสอบรายละเอียดทางคดี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางสถานทูต สปป.ลาว ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาขอข้อมูลคดีด้วย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีความโปร่งใส ชัดเจน โดยจะใช้แนวทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก เพื่อประกอบกับการสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง
ต่อมา เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.จรัมพร พร้อม พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ พ.ต.ท.สุภัค พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ และเจ้าหน้าที่ พฐ. ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหน้า ไนซ์ แมนชั่น 2 ซ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 24 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เพื่อเก็บข้อมูลทางกายภาพและหลักฐานเพิ่มเติม
พล.ต.ต.จรัมพร กล่าวว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยครั้งนี้ตนเองมาตรวจสอบเพื่อความชัดเจน และรอบคอบ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน ต้องดูในมุมของการตก ว่ามีลักษณะใด โดยท่าตกจากชั้น 8 ลงมาถึงบริเวณชั้น 2 จะใช้เวลาประมาณ 2 วินาที ทั้งนี้ จะเปรียบเทียบรอยนิ้วมือบริเวณราวระเบียง พบว่าการจับมีลักษณะมือคว่ำ ด้านล่างพบรอยเท้าตรงบริเวณปูนที่ยึดราวระเบียง โดยผู้เสียชีวิตตกลงมาในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นไปได้สูงกว่า แต่การกระทำในแนวราบ หรือมีผู้ผลักนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลจากการชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง เนื่องจากในครั้งแรกที่พบศพนั้นมีบาดแผลที่แขนขวา แผ่นหลัง และขาซ้าย ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะตกมากระแทกกับคอมเพลสเซอร์แอร์ ทั้งนี้ จากบาดแผลที่แขนขวาพบรอยครูดกับปูน ตรงที่หลังคามีรอยแตก บริเวณขาพบบาดแผลครูดเฉือนกับวัตถุที่ไม่มีคม ซึ่งจะต้องเอาไปตรวจสอบว่าครูดกับสิ่งใด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาความเชื่อมโยงในที่เกิดเหตุอีกครั้ง
จากกรณีที่ประชาคมออนไลน์ในนครเวียงจันทน์ ประเทศ สปป.ลาว กำลังแชร์ภาพและข่าว น.ส.ต่าย ดาวเฮือง อายุ 18 ปี ตามชื่อหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นสาวลาวที่เสียชีวิตจากการตกจากระเบียงอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน กทม.อย่างมีเลศนัย จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้แยกเหม่งจ๋าย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานทูตลาว และสถานกงสุลลาว ประจำประเทศไทย อย่างกว้างขวาง พร้อมกับเสียงเรียกร้องให้ทางการไทยสืบหาข้อเท็จจริง
วานนี้ (31 ก.ค.) ที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร. (สบ.10) เดินทางมาเป็นประธาน จัดประชุมกรณี น.ส.ต่าย เสียชีวิตปริศนาจากการตกตึกที่พัก โดยมี พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.สุภัค วงษ์สวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ สว.สส.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าร่วม โดยใช้ประมาณ 30 นาที
พล.ต.อ.จรัมพร กล่าวภายหลังการประชุมว่า กรณีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและเป็นที่สนใจของประชาชน วันนี้ตนจึงเดินทางมาตรวจสอบรายละเอียดทางคดี เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ทางสถานทูต สปป.ลาว ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาขอข้อมูลคดีด้วย อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะต้องมีความโปร่งใส ชัดเจน โดยจะใช้แนวทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก เพื่อประกอบกับการสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง
ต่อมา เมื่อเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.จรัมพร พร้อม พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ พ.ต.ท.สุภัค พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ และเจ้าหน้าที่ พฐ. ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหน้า ไนซ์ แมนชั่น 2 ซ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 24 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เพื่อเก็บข้อมูลทางกายภาพและหลักฐานเพิ่มเติม
พล.ต.ต.จรัมพร กล่าวว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยครั้งนี้ตนเองมาตรวจสอบเพื่อความชัดเจน และรอบคอบ ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวน ต้องดูในมุมของการตก ว่ามีลักษณะใด โดยท่าตกจากชั้น 8 ลงมาถึงบริเวณชั้น 2 จะใช้เวลาประมาณ 2 วินาที ทั้งนี้ จะเปรียบเทียบรอยนิ้วมือบริเวณราวระเบียง พบว่าการจับมีลักษณะมือคว่ำ ด้านล่างพบรอยเท้าตรงบริเวณปูนที่ยึดราวระเบียง โดยผู้เสียชีวิตตกลงมาในแนวดิ่ง ซึ่งเป็นไปได้สูงกว่า แต่การกระทำในแนวราบ หรือมีผู้ผลักนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอผลจากการชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง เนื่องจากในครั้งแรกที่พบศพนั้นมีบาดแผลที่แขนขวา แผ่นหลัง และขาซ้าย ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะตกมากระแทกกับคอมเพลสเซอร์แอร์ ทั้งนี้ จากบาดแผลที่แขนขวาพบรอยครูดกับปูน ตรงที่หลังคามีรอยแตก บริเวณขาพบบาดแผลครูดเฉือนกับวัตถุที่ไม่มีคม ซึ่งจะต้องเอาไปตรวจสอบว่าครูดกับสิ่งใด คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหาความเชื่อมโยงในที่เกิดเหตุอีกครั้ง
