00 ได้เห็นคณะของผู้นำกองทัพเขมร นำโดย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.เตีย บันห์ เข้ามาเยี่ยมเยียน คสช. ในช่วงนี้ด้วยบรรยากาศเกียรติยศ และมิตรไมตรียิ่ง ทำให้ต้องมาทบทวนถึงเรื่องราวเก่าก่อนได้มากมายว่า ทุกอย่างมันไม่เที่ยงแท้ วันนี้อย่าง พรุ่งนี้ก็อาจเปลี่ยนไปอีกอย่าง อย่างไรก็ดี บรรยากาศเป็นมิตรย่อมเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน การเมืองในประเทศ ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่มีรั้วติดกันยิ่งดีขึ้นไปอีก แต่ขณะเดียวกันมันก็อดไม่ได้ที่ต้องดูภาพเก่าๆ ประกอบ อย่างน้อยก็ในช่วงสองสามปีก่อน แทบจะเรียกว่า"หนังคนละม้วน" เคยมีสงครามชายแดนบาดเจ็บล้มตายกันก็มาก แม้ว่าจะมีรายละเอียดอยู่ภายในมากมาย แต่ภาพรวมๆ ภายนอกมองเห็นแบบนั้น
00 หากมองย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ที่เป็นตัวอย่างเห็นชัดจากศัตรูกลายเป็นมิตรดูดดื่ม กลายเป็น"ดอง" แต่ในอนาคตยังไม่แน่ นั่นคือ ความสัมพันธ์ระหว่าง ฮุนเซน กับ ทักษิณ ชินวัตร จากเดิมที่เคยเคียดแค้น ชิงชัง จำได้หรือเปล่า กรณี "นายพลสินสอง" ที่รับจ้างร่วมงานกับ "ทีมงานคนไทย" ปฏิวัติฮุนเซน แต่ล้มเหลว ต้องหนีหัวซุกหัวซุน หรือต่อเนื่องกรณีเผาสถานทูตไทยในพนมเปญ แล้วลามไปเผาธุรกิจเครือชินคอร์ป จนเกือบเอาเครื่องบินขับไล่ไปถล่มอยู่แล้วเชียว แต่เมื่อ"เคลียร์" กันลงตัว ก็หันมาแนบแน่น ชื่นมื่น
00 อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนตามอย่างที่เห็นตอนนี้ สำหรับ พล.อ.เตีย บันห์ ถือว่าเป็นคนสนิทเคียงคู่มากับ ฮุนเซน ได้รับส่วนแบ่งอำนาจในเขมรมาตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่เผ่นออกจากเขมรแดงไปร่วมมือกับเวียดนาม จนควบคุมอำนาจสูงสุดเรื่อยมา และที่ไม่ต้องอธิบายมากก็คือ ในทีมที่ร่วมคณะมาด้วยก็คือ พล.ท. ฮุน มาเน็ต ลูกชายคนโต ฮุนเซน ทายาทคนสำคัญของทั่นผู้นำ ทำให้คณะเดินทางมาไทยเที่ยวนี้ ไม่ต่างจากผู้นำเขมรมาเอง และก็ไม่ผิดหวังที่ฝ่าย คสช. ต้อนรับอย่างสมเกียรติ มีการตรวจแถวกองเกียรติยศ ได้พบผู้นำระดับสูงสุดครบถ้วน ไฮไลต์สำคัญคือ เข้าพบหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตบท้ายก่อนเดินทางกลับอย่างแฮปปี้ !!
00 จะว่าไปแล้ว ถ้าพิจารณาจากเส้นทางความสัมพันธ์เดิมๆในอดีต ก็คงจะมีพื้นฐานกันมาก่อน เมื่อครั้งที่ผู้นำกองทัพไทยทั้งในปัจจุบัน และย้อนกลับไปถึงยุค "พี่ใหญ่บูรพาพยัฆค์ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา และต่อเนื่องมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พวกเขาล้วนเคยประจำการด้านชายแดนตะวันออกมาก่อน ก็ย่อมรู้จักมักคุ้นกันมานาน โดยเฉพาะกับ "เตีย บันห์ " ที่ว่ากันว่าไม่ต่างจากคนไทยคนหนึ่งเลยทีเดียว เอาเป็นว่า อย่าคิดอะไรมาก เมื่อเป็นมิตรกันก็เป็นเรื่องดี และผลประโยชน์ของชาติย่อมมาก่อนเสมอ !!
00 เดินหน้าตามโรดแมป ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ย้ำว่า จะประกาศชื่อสมาชิก สนช.ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ นั่นก็หมายความว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว จากนั้นก็จะเลือกประธาน และรองประธานสภา รอโปรดเกล้าฯ ลงมา จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่การสรรหา นายกฯ และรัฐบาลเฉพาะกาล และเมื่อบอกว่าจะมีการแถลงนโยบาย และแถลงร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 58 ภายในวันที่ 15 ส.ค. นั่นก็หมายความว่า เราจะได้เห็นหน้าตานายกฯ คนใหม่ ก่อนกลางเดือนหน้า ส่วนจะเป็นใคร นาทีนี้เต็งจ๋าก็ต้อง "ลุงตู่" น่ะซี ส่วนจะใช่หรือเปล่า ต้องรอดู !!
00 หากมองย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ที่เป็นตัวอย่างเห็นชัดจากศัตรูกลายเป็นมิตรดูดดื่ม กลายเป็น"ดอง" แต่ในอนาคตยังไม่แน่ นั่นคือ ความสัมพันธ์ระหว่าง ฮุนเซน กับ ทักษิณ ชินวัตร จากเดิมที่เคยเคียดแค้น ชิงชัง จำได้หรือเปล่า กรณี "นายพลสินสอง" ที่รับจ้างร่วมงานกับ "ทีมงานคนไทย" ปฏิวัติฮุนเซน แต่ล้มเหลว ต้องหนีหัวซุกหัวซุน หรือต่อเนื่องกรณีเผาสถานทูตไทยในพนมเปญ แล้วลามไปเผาธุรกิจเครือชินคอร์ป จนเกือบเอาเครื่องบินขับไล่ไปถล่มอยู่แล้วเชียว แต่เมื่อ"เคลียร์" กันลงตัว ก็หันมาแนบแน่น ชื่นมื่น
00 อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนตามอย่างที่เห็นตอนนี้ สำหรับ พล.อ.เตีย บันห์ ถือว่าเป็นคนสนิทเคียงคู่มากับ ฮุนเซน ได้รับส่วนแบ่งอำนาจในเขมรมาตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่เผ่นออกจากเขมรแดงไปร่วมมือกับเวียดนาม จนควบคุมอำนาจสูงสุดเรื่อยมา และที่ไม่ต้องอธิบายมากก็คือ ในทีมที่ร่วมคณะมาด้วยก็คือ พล.ท. ฮุน มาเน็ต ลูกชายคนโต ฮุนเซน ทายาทคนสำคัญของทั่นผู้นำ ทำให้คณะเดินทางมาไทยเที่ยวนี้ ไม่ต่างจากผู้นำเขมรมาเอง และก็ไม่ผิดหวังที่ฝ่าย คสช. ต้อนรับอย่างสมเกียรติ มีการตรวจแถวกองเกียรติยศ ได้พบผู้นำระดับสูงสุดครบถ้วน ไฮไลต์สำคัญคือ เข้าพบหัวหน้าคสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตบท้ายก่อนเดินทางกลับอย่างแฮปปี้ !!
00 จะว่าไปแล้ว ถ้าพิจารณาจากเส้นทางความสัมพันธ์เดิมๆในอดีต ก็คงจะมีพื้นฐานกันมาก่อน เมื่อครั้งที่ผู้นำกองทัพไทยทั้งในปัจจุบัน และย้อนกลับไปถึงยุค "พี่ใหญ่บูรพาพยัฆค์ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา และต่อเนื่องมาถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พวกเขาล้วนเคยประจำการด้านชายแดนตะวันออกมาก่อน ก็ย่อมรู้จักมักคุ้นกันมานาน โดยเฉพาะกับ "เตีย บันห์ " ที่ว่ากันว่าไม่ต่างจากคนไทยคนหนึ่งเลยทีเดียว เอาเป็นว่า อย่าคิดอะไรมาก เมื่อเป็นมิตรกันก็เป็นเรื่องดี และผลประโยชน์ของชาติย่อมมาก่อนเสมอ !!
00 เดินหน้าตามโรดแมป ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ย้ำว่า จะประกาศชื่อสมาชิก สนช.ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ นั่นก็หมายความว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว จากนั้นก็จะเลือกประธาน และรองประธานสภา รอโปรดเกล้าฯ ลงมา จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่การสรรหา นายกฯ และรัฐบาลเฉพาะกาล และเมื่อบอกว่าจะมีการแถลงนโยบาย และแถลงร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 58 ภายในวันที่ 15 ส.ค. นั่นก็หมายความว่า เราจะได้เห็นหน้าตานายกฯ คนใหม่ ก่อนกลางเดือนหน้า ส่วนจะเป็นใคร นาทีนี้เต็งจ๋าก็ต้อง "ลุงตู่" น่ะซี ส่วนจะใช่หรือเปล่า ต้องรอดู !!