เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (28ก.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คณะนายทหารระดับสูงของกัมพูชา นำโดยพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ของกัมพูชา ได้เดินทางถึงประเทศไทย โดยมีพล.อ.อ.ทรงธรรม โชคคณาพิทักษ์ รองปลัดกระทรวงกลาโหมของไทย ให้การต้อนรับ
พล.อ.อ.ทรงธรรม ได้สนทนากับพล.อ.เตียบันห์ ถึงสถานการณ์การเมืองไทยด้วย โดยพล.อ.เตีย บันห์ เปิดเผยว่ากัมพูชาได้ติดตาม และรับทราบสถานการณ์ข้อมูลในประเทศไทยทุกอย่าง ทั้งด้านการเมือง การทหาร และเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขปัญหาของไทยมีความชัดเจน และนำไปสู่แนวทางความสงบเรียบร้อย ซึ่งสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้บอกว่า เข้าใจสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ คณะของ พล.อ.เตีย บันห์ ได้แก่ พล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหม พล.อ.เมี๊ยะ โซะ เพี๊ยะ รอง ผบ.ทหารสูงสุด และผบ.ทบ. พล.ร.อ.เตีย วิญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.เซิง ซอมนาง ผบ.ทอ.
ที่น่าสนใจคือ มีอดีตผู้นำทางทหาร ที่บัญชาการรบในเหตุการณ์ชายแดนเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 เช่น พล.ท.ฮุน มาเน็ต รอง ผบ.ทบ. และ ผบ.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล กระทรวงกลาโหมกัมพูชา บุตรชายของสมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งถูกวางตัวเป็นทายาททางการเมืองคนต่อไป เดินทางมาด้วย รวมถึง พล.ท.เจีย มอญ ผบ. ภูมิภาคทหารที่ 4 พล.ท.เยือน โซะ คน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 3 พล.ท.บุน เซง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ก็เดินทางมาด้วย
โดย พล.อ.สุรศักดิ์ ได้นำ พล.อ.เตีย บันห์ ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ที่ห้องพินิตประชานารถ ภายในอาคารศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งย้ายจากบริเวณหน้าลานเอนกประสงค์ เนื่องจากฝนตกหนัก ทั้งนี้ พล.อ.เตียบันห์ ได้แนะนำให้ พล.อ.สุรศักดิ์ ได้รู้จัก ผู้นำทางทหารของกัมพูชาทุกคนด้วย
สำหรับการเยี่ยมคารวะและ หารือกับ ปลัดกระทรวงกลาโหม ครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ด้านการทหาร พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือด้านการทหารให้แน่นแฟ้นขึ้น ตลอดจนกลไกความร่วมมือในหลายระดับ เช่น คณะกรรมการทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (จีบีซี) คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (บีพีเคซี) คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) คณะกรรมาธิการปักปันเขตแดน (เจบีซี)
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยด้านความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยทางกัมพูชา เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการรักษาสันติภาพอาเซียน ส่วนประเทศไทยดูแลด้านการแพทย์อาเซียน ทั้งนี้ ไม่มีการพูดคุยในเรื่อง คสช. ที่เข้ามาบริหารประเทศ เพราะเป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ และไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ปะทะกัน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อย่างใด
ขณะที่พล.ท.ฮุนมาเน็ต มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และได้รับความสนใจจากสื่อเป็นพิเศษ แต่ไม่ให้ให้สัมภาษณ์สื่อ แต่อย่างใด โดยพล.ท.ฮุนมาเน็ต เดินทางมาประเทศไทยอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งหลังสุดเมื่อปีที่แล้ว เพื่อร่วมพิธีมงคลสมรส ของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
จากนั้นเวลา 15.00 น. พล.อ.เตีย บันห์ และคณะเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ธนะศักด์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ โดยในช่วงค่ำ กระทรวงกลาโหมของไทยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับที่โรงแรมดุสิตธานี และในวันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 14.00 น. คณะทหารของกัมพูชา มีกำหนดการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน เพื่อหารือราชการก่อนที่จะเดินทางกลับกัมพูชาในเวลา 15.00 น.
พล.อ.อ.ทรงธรรม ได้สนทนากับพล.อ.เตียบันห์ ถึงสถานการณ์การเมืองไทยด้วย โดยพล.อ.เตีย บันห์ เปิดเผยว่ากัมพูชาได้ติดตาม และรับทราบสถานการณ์ข้อมูลในประเทศไทยทุกอย่าง ทั้งด้านการเมือง การทหาร และเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง การแก้ไขปัญหาของไทยมีความชัดเจน และนำไปสู่แนวทางความสงบเรียบร้อย ซึ่งสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้บอกว่า เข้าใจสถานการณ์การเมืองไทยเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ คณะของ พล.อ.เตีย บันห์ ได้แก่ พล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหม พล.อ.เมี๊ยะ โซะ เพี๊ยะ รอง ผบ.ทหารสูงสุด และผบ.ทบ. พล.ร.อ.เตีย วิญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.เซิง ซอมนาง ผบ.ทอ.
ที่น่าสนใจคือ มีอดีตผู้นำทางทหาร ที่บัญชาการรบในเหตุการณ์ชายแดนเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 เช่น พล.ท.ฮุน มาเน็ต รอง ผบ.ทบ. และ ผบ.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล กระทรวงกลาโหมกัมพูชา บุตรชายของสมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งถูกวางตัวเป็นทายาททางการเมืองคนต่อไป เดินทางมาด้วย รวมถึง พล.ท.เจีย มอญ ผบ. ภูมิภาคทหารที่ 4 พล.ท.เยือน โซะ คน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 3 พล.ท.บุน เซง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ก็เดินทางมาด้วย
โดย พล.อ.สุรศักดิ์ ได้นำ พล.อ.เตีย บันห์ ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ ที่ห้องพินิตประชานารถ ภายในอาคารศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งย้ายจากบริเวณหน้าลานเอนกประสงค์ เนื่องจากฝนตกหนัก ทั้งนี้ พล.อ.เตียบันห์ ได้แนะนำให้ พล.อ.สุรศักดิ์ ได้รู้จัก ผู้นำทางทหารของกัมพูชาทุกคนด้วย
สำหรับการเยี่ยมคารวะและ หารือกับ ปลัดกระทรวงกลาโหม ครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างและกระชับความสัมพันธ์ด้านการทหาร พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือด้านการทหารให้แน่นแฟ้นขึ้น ตลอดจนกลไกความร่วมมือในหลายระดับ เช่น คณะกรรมการทั่วไปชายแดนไทย-กัมพูชา (จีบีซี) คณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (บีพีเคซี) คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) คณะกรรมาธิการปักปันเขตแดน (เจบีซี)
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยด้านความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยทางกัมพูชา เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการรักษาสันติภาพอาเซียน ส่วนประเทศไทยดูแลด้านการแพทย์อาเซียน ทั้งนี้ ไม่มีการพูดคุยในเรื่อง คสช. ที่เข้ามาบริหารประเทศ เพราะเป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ และไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ปะทะกัน บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อย่างใด
ขณะที่พล.ท.ฮุนมาเน็ต มีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และได้รับความสนใจจากสื่อเป็นพิเศษ แต่ไม่ให้ให้สัมภาษณ์สื่อ แต่อย่างใด โดยพล.ท.ฮุนมาเน็ต เดินทางมาประเทศไทยอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งหลังสุดเมื่อปีที่แล้ว เพื่อร่วมพิธีมงคลสมรส ของ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรสาวของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
จากนั้นเวลา 15.00 น. พล.อ.เตีย บันห์ และคณะเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ธนะศักด์ ปฏิมาประกร ผบ.ทหารสูงสุด ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ โดยในช่วงค่ำ กระทรวงกลาโหมของไทยจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับที่โรงแรมดุสิตธานี และในวันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 14.00 น. คณะทหารของกัมพูชา มีกำหนดการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน เพื่อหารือราชการก่อนที่จะเดินทางกลับกัมพูชาในเวลา 15.00 น.
