xs
xsm
sm
md
lg

ส่งออกมิ.ย.พลิกล็อคขยายตัว3.9%ครึ่งหลังเข้าเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ส่งออกมิ.ย.พลิกล็อค เหลือโตแค่ 3.9% มูลค่า 1.98 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ “พาณิชย์”คาดครึ่งปีหลังแนวโน้มดีขึ้น ทำได้ตามเป้า 3.5% แน่ หลังออเดอร์เข้ายาวถึงสิ้นปี ห่วงราคาสินค้าเกษตร และบาทแข็ง

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยเดือนมิ.ย.2557 มีมูลค่า 1.98 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.2556 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบปีนี้ ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 1.80 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 14.03% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้ามูลค่า 1,792 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนการส่งออกสินค้าไทยช่วงครึ่งปี 2557 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 112,704 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.35% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนการนำเข้าครึ่งปีมีมูลค่า 112,467 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 14% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าครึ่งปีมูลค่า 236 ล้านเหรียญสหรัฐ

สาเหตุที่ทำให้การส่งออกเดือนมิ.ย.กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลจากการส่งออกในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 3.9% สินค้าสำคัญที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มยานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพิ่ม 3.2% เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่ม 3.4% เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่ม 3.4% ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มมีสัดส่วนต่อการส่งออกไทยในภาพรวม 38.2% อัญมณีและเครื่องประดับ เพิ่ม 9.2%
ส่วนสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 2.6% สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว เพิ่ม35.1% อาหาร เพิ่ม 7.6% ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่ม 42.3% ยกเว้นยางพาราส่งออกลดลง 20.9% และน้ำตาลลด 31.2% เนื่องจากราคาสินค้าในตลาดโลกปรับตัวลดลง

นางนันทวัลย์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์เชื่อว่าการส่งออกทั้งปี 2557 จะเป็นไปตามเป้าหมาย 3.5% โดยการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้จะต้องได้อย่างต่ำเดือนละ 2.06 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้สูงมาก และเชื่อว่าจะสามารถส่งออกได้เกินเดือนละ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป เพราะครึ่งปีหลังเป็นช่วงที่มีการส่งออกสินค้ามากอยู่แล้ว โดยเฉพาะในไตรมาส 3
และไตรมาส 4 น่าจะดีกว่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก และจากการหารือกับผู้ส่งออกก็ยืนยันตรงกันว่าการส่งออกในครึ่งปีหลังจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย ยังต้องติดตามเรื่องราคาสินค้าเกษตรปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และอัตราแลกเปลี่ยนจะมีการแข็งค่าขึ้นหรือไม่ แต่การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาทขณะนี้ ยังไม่ต้องหารือกับภาคเอกชน เพราะยังผันผวนไม่มาก และหากยังอยู่ในกรอบแข็งค่าไม่หลุด 31 บาท/เหรียญสหรัฐ เชื่อว่าภาคเอกชนยังสามารถรับมือได้

นางนันทวัลย์กล่าวว่า กรณีตัวเลขการส่งออกในเดือนมิ.ย. ที่ก่อนหน้านี้ มีการระบุว่าขยายตัว 7.2% ตนไม่ทราบว่าตัวเลขนี้มาจากไหน อาจจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะตัวเลขการค้าชายแดน มีการขยายตัว 7% เช่นกัน โดยกรมฯ ได้รับตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย. จากกรมศุลกากร เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.ค. โดยกรมฯ ไม่ได้เป็นผู้ส่งข้อมูลตัวเลขส่งออกที่ออกไปก่อนหน้านี้
และไม่ทราบว่าเป็นตัวเลขจากไหน

สำหรับรายละเอียดการส่งออกรายตลาดในเดือนมิ.ย. พบว่า ตลาดหลัก ขยายตัว 8.4% ได้แก่ ญี่ปุ่น ไม่ขยายตัว สหรัฐฯ เพิ่ม 11.2% สหภาพยุโรป 15.4% ตลาดศักยภาพสูง เพิ่ม 4.2% เช่น อาเซียน 2.3% จีน 3.2% อินเดีย 26.3% ตลาดศักยภาพรอง ลดลง 3.3% ตลาดที่ส่งออกลดลง เช่น ทวีปออสเตรเลีย ลด 11.1% ลาตินอเมริกา 12.2% ขณะที่การนำเข้าสินค้าในเดือนมิ.ย. พบว่า กลุ่มเชื้อเพลิง นำเข้าลดลง 29.9% ทุน ลด 4.1% วัตถุดิบ กึ่งสำเร็จรูป ลด 12.2% ยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ลด 23.1%

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2557 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวในรายงาน “คืนความสุขให้คนในชาติ” เรื่องการส่งออกว่า การส่งออกเดือนมิ.ย.2557 ได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ 7.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป และภูมิภาคอาเซียนส่วนมูลค่าการนำเข้าเดือนมิ.ย.2557 กลับมาขยายตัวที่ 55% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งนั้นจากปัจจัยฐานในปีก่อนหน้าเป็นสำคัญ ส่งผลให้ดุลการค้าในเดือนดังกล่าวเกินดุลมูลค่า 31.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น