เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (24 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผช.ผบ.ตร. รรท.ผบช.น. และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ศ ช่วยราชการ บช.น. เปิดเผยก่อนการประชุมความมั่นคงว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ศาลได้อนุมัติหมายจับ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทางคณะ คสช. ได้มีคำสั่งห้าม พ.อ.อภิวันท์ เดินทางออกนอกประเทศ ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือประสานมาจากพ.อ.อภิวันท์ เพื่อเข้ามอบตัวแต่อย่างใด
ส่วนกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายกมล ดวงผาสุข หรือ ไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีเสื้อแดง เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านครกไม้ไทยลาว พื้นที่ความรับผิดชอบของสน.โชคชัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับบุคคลในภาพสเกตช์จำนวน 2 คน คือมือปืน และคนขับมอเตอร์ไซค์ ซึ่งได้ข้อมูลจากพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า ไม้หนึ่ง ก.กุนที มีความเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม ที่นำมาก่อเหตุในพื้นที่นครบาลหลายคดี จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และสืบสวนต่อไป
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ส่วนในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ที่จะมีการชุมนุมเกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมการรักษาความสงบไว้เรียบร้อยแล้ว ทาง บช.น. ก็ได้กำหนดหลักการไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า จะต้องดำเนินการอย่างไร และการจัดงานคืนความสุขให้กับประชาชนครั้งนี้ หากมีผู้ที่มีความคิดเห็นต่างเข้าร่วมด้วย คาดว่าจะไม่ก่อเหตุความรุนแรง เพราะการจัดงานคืนความสุข ทางคณะคสช. จัดขึ้นเพื่อประชาชน เชื่อว่าประชาชนที่เห็นด้วยกับการทำงานของคณะคสช. จะต้องพิจารณาได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สมควรเข้าใจแบบไหน
ในวันเดียวกันนี้ ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญาเปิดบัลลังก์ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีมีการแพร่ภาพหมายจับพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภา ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของศาลอาญา เลขที่ 1241/2557 ลงวันที่ 23 ก.ค. 2557 ทางสื่อออนไลน์
โดยร.ต.อ.หญิง ชมพูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน ผู้ขอหมายจับ และพ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ชนะสงคราม มาให้ถ้อยคำแทน พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม โดยทั้งสองยืนยันว่า ภายหลังรับหมายจับพ.อ.อภิวันท์ จากศาลอาญาแล้ว ได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ โดยเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ ทั้งนี้พยานทั้งสองทราบดีว่า การเผยแพร่สำเนาหมายจับดังกล่าว ถือเป็นความลับ และไม่ก่อให้เกิดผลดีแก่ทุกฝ่าย รวมทั้งพนักงานสอบสวนทั้ง 2 คนด้วย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เหตุที่สำเนาหมายจับพ.อ.อภิวันท์ ไปปรากฏตามสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มีเหตุให้เข้าใจได้ว่า น่าจะมีการออกไปจากบช.น. แต่ไม่แน่ชัดว่า ออกไปจากสำนักงานของพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รักษาการรอง ผบช.น. หรือจากสำนักงานของ พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รอง ผบช.น.
ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเห็นควรให้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.), ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการศึกษา (รอง ผบช.ศ.) ช่วยราชการ บช.น. และพล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รอง ผบช.น. เพื่อขอให้กวดขัน กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งประเทศว่า จะต้องไม่นำหมายจับของศาลไปเผยแพร่ ทั้งการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพ, โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเครื่องสื่อสารใดๆ รวมทั้งการนำหมายจับไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต,ไลน์, เฟชบุ๊ก หรือสื่อออนไลน์ใดๆ อันเป็นการเผยแพร่ทางโซเชียลออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย หากมีการตรวจสอบพบว่า บุคคลใดก็ตามกระทำการฝ่าฝืน จะถือว่าเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีการนำหมายจับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ จากศาลอาญา ไปเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค. 56 ศาลอาญาได้ออกข้อกำหนดห้ามมิให้เจ้าพนักงานกระทำการใดๆ อันเป็นการเผยแพร่หมายจับต่อบุคคลผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจับกุมบุคคลตามหมายจับโดยตรง มิฉะนั้น ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล และแจ้งคำสั่งศาลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบต่อไป
ส่วนกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายกมล ดวงผาสุข หรือ ไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีเสื้อแดง เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านครกไม้ไทยลาว พื้นที่ความรับผิดชอบของสน.โชคชัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับบุคคลในภาพสเกตช์จำนวน 2 คน คือมือปืน และคนขับมอเตอร์ไซค์ ซึ่งได้ข้อมูลจากพยานที่รู้เห็นเหตุการณ์ จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่า ไม้หนึ่ง ก.กุนที มีความเกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม ที่นำมาก่อเหตุในพื้นที่นครบาลหลายคดี จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และสืบสวนต่อไป
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ส่วนในวันที่ 25 ก.ค.นี้ ที่จะมีการชุมนุมเกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมการรักษาความสงบไว้เรียบร้อยแล้ว ทาง บช.น. ก็ได้กำหนดหลักการไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่า จะต้องดำเนินการอย่างไร และการจัดงานคืนความสุขให้กับประชาชนครั้งนี้ หากมีผู้ที่มีความคิดเห็นต่างเข้าร่วมด้วย คาดว่าจะไม่ก่อเหตุความรุนแรง เพราะการจัดงานคืนความสุข ทางคณะคสช. จัดขึ้นเพื่อประชาชน เชื่อว่าประชาชนที่เห็นด้วยกับการทำงานของคณะคสช. จะต้องพิจารณาได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สมควรเข้าใจแบบไหน
ในวันเดียวกันนี้ ที่ห้องพิจารณา 805 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอาญาเปิดบัลลังก์ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีมีการแพร่ภาพหมายจับพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภา ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของศาลอาญา เลขที่ 1241/2557 ลงวันที่ 23 ก.ค. 2557 ทางสื่อออนไลน์
โดยร.ต.อ.หญิง ชมพูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน ผู้ขอหมายจับ และพ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ชนะสงคราม มาให้ถ้อยคำแทน พ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม โดยทั้งสองยืนยันว่า ภายหลังรับหมายจับพ.อ.อภิวันท์ จากศาลอาญาแล้ว ได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ โดยเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ ทั้งนี้พยานทั้งสองทราบดีว่า การเผยแพร่สำเนาหมายจับดังกล่าว ถือเป็นความลับ และไม่ก่อให้เกิดผลดีแก่ทุกฝ่าย รวมทั้งพนักงานสอบสวนทั้ง 2 คนด้วย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เหตุที่สำเนาหมายจับพ.อ.อภิวันท์ ไปปรากฏตามสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ มีเหตุให้เข้าใจได้ว่า น่าจะมีการออกไปจากบช.น. แต่ไม่แน่ชัดว่า ออกไปจากสำนักงานของพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รักษาการรอง ผบช.น. หรือจากสำนักงานของ พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รอง ผบช.น.
ด้วยเหตุดังกล่าว จึงเห็นควรให้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.), ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการศึกษา (รอง ผบช.ศ.) ช่วยราชการ บช.น. และพล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รอง ผบช.น. เพื่อขอให้กวดขัน กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งประเทศว่า จะต้องไม่นำหมายจับของศาลไปเผยแพร่ ทั้งการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพ, โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเครื่องสื่อสารใดๆ รวมทั้งการนำหมายจับไปเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต,ไลน์, เฟชบุ๊ก หรือสื่อออนไลน์ใดๆ อันเป็นการเผยแพร่ทางโซเชียลออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย หากมีการตรวจสอบพบว่า บุคคลใดก็ตามกระทำการฝ่าฝืน จะถือว่าเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ มีการนำหมายจับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ จากศาลอาญา ไปเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค. 56 ศาลอาญาได้ออกข้อกำหนดห้ามมิให้เจ้าพนักงานกระทำการใดๆ อันเป็นการเผยแพร่หมายจับต่อบุคคลผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจับกุมบุคคลตามหมายจับโดยตรง มิฉะนั้น ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล และแจ้งคำสั่งศาลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ทราบต่อไป
