xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก 2 ปี"ตู่-เต้น" คดีดักฟังฮัลโหล รวบ2คนโยงบึ้มกทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลพิพากษาจำคุก “ณัฐวุฒิ - จตุพร” คนละ 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท คดีดักฟังโทรศัพท์การสนทนา เปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลผู้อื่น จำเลยรับสารภาพ ประกอบหนึ่งในผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ศาลลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี ปรับ 4 หมื่นบาท และให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี รอง ผบ.ตร.แถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหาครอบครองอาวุธสงครามฯพร้อมของกลางระเบิดชนิดขว้างเอ็ม 19 เอ 2 จำนวน 1 ลูก และลูกระเบิดชนิดขว้าง อาร์จีดี 5 จำนวน 2 ลูก เผยผลสอบเค้นหนักยอมเปิดปากรับสารภาพเชื่อมโยงกับคดีระเบิดป่วนกรุงในหลายพื้นที่ ตร.เร่งเค้นสอบหาผู้อยู่เบื้องหลัง

วานนี้ (22 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลอาญา ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.177/2551 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (หลบหนี) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต รมช.พาณิชย์ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เป็นจำเลยที่ 1 - 3 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อดักรับไว้ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นใด ที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคม โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 74

กรณีเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2550 จำเลยกับพวกร่วมกันนำข้อความ ถ้อยคำสนทนาที่มีการติดต่อกันทางโทรศัพท์ อันเป็นการสื่อสารโทรคมนาคม ที่ พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ติดต่อสนทนากับ นายวิรัช ชินวินิจกุล อดีตเลขานุการศาลฎีกา และนายไพโรจน์ นวานุช ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ไปเปิดบนเวทีปราศรัยที่ท้องสนามหลวง ส่วน นายจักรภพ ศาลสั่งจำหน่ายคดี เพราะจำเลยมีพฤติการณ์หลบหนี โดยระหว่างการสืบพยานของจำเลยเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า จำเลยที่ 2 - 3 แถลงต่อศาลขอให้การรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายณัฐวุฒิ และ นายจตุพร จำเลยที่ 2 และ 3 กระทำผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 74 และประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ฉบับที่ 21 ข้อ 1 ลงวันที่ 24 ก.ย. 2549 เรื่องห้ามดักฟังเครื่องมือสื่อสาร ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการทำผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุดตามประกาศ คปค. ฉบับที่ 21 ข้อ 1

พิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 2 - 3 คนละ 3 ปี ปรับคนละ 6 หมื่นบาท แต่จำเลยทั้งสองรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี ปรับคนละ 4 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่าหนึ่งในผู้เสียหายทำหนังสือแถลงต่อศาลว่า ทราบวัตถุประสงค์ในการปราศรัยของจำเลยที่ 2 - 3 จึงไม่ติดใจเอาความ โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษคนละ 2 ปี

ภายหลัง นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ศาลได้เมตตาให้รอการลงโทษ เนื่องจากจำเลยทั้งสองรับสารภาพ ประกอบกับผู้เสียหาย 1 ใน 3 คนที่เป็นผู้พิพากษา ได้ทำหนังสือไม่ติดใจกับการกระทำของจำเลย เพราะทราบวัตถุประสงค์ของจำเลยทั้งสองแล้วว่า เป็นการปราศรัยเพื่อต่อสู้กับระบอบเผด็จการ ปกป้องศาสนา และสถาบันฯ โดยหนังสือดังกล่าวระบุเฉพาะพฤติกรรมของนายณัฐวุฒิ และ นายจตุพร เท่านั้น ไม่ได้มีการอ้างอิงครอบคลุมไปถึงนายจักรภพด้วย ดังนั้น ผลของคำพิพากษาของนายจักรภพ จะเป็นอย่างไรนั้น ตนคงไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งศาลได้ออกหมายจับนายจักรภพไว้แล้วและในส่วนของนายจักรภาพยังมีอีกหลายคดี ขณะที่นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร ทั้งสองคนไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด

*** รวบ 2 มือบึ้มป่วนกรุง

วานนี้ (22 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท. ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. และพ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผู้อำนวยการกฎหมาย กอ.รมน. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบคสช.ร่วมกันแถลงการจับกุม นายอภิชาติ พวงเพ็ชร หรืออัคคี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/60 ซอยโรงพักศาลาแดง ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทหารบกสระบุรี เลขที่ 25/ก.2557 ลงวันที่ 17 ก.ค. 2557 ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 50/2557 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2557 และ นายวรพนธ์ ผลไม้วงษ์ดี หรือจง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1642 หมู่4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 และฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่ง ฉบับ 62/2557 ลงวันที่ 11 มิ.ย. 2557 พร้อมด้วยของกลางระเบิดชนิดขว้างเอ็ม 19 เอ2 จำนวน 1 ลูก และลูกระเบิดชนิดขว้าง อาร์จีดี 5 จำนวน 2 ลูก

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับกรณีนายอภิชาตินั้นเป็นการขยายผลจากการจับกุมอาวุธสงคราม ที่สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นนายอภิชาติจึงเดินทางเข้ามอบตัว พร้อมให้การรับสารภาพว่า นายรับวัตถุระเบิดมาจากคนกลุ่มหนึ่ง ก่อนจะนำมาเเจกจ่ายให้กับเพื่อนที่ร่วมปฏิบัติการกว่า 20 ลูก เพื่อนำไปก่อเหตุในช่วงชุมนุม ในพื้นที่ บช.น. ส่วนระเบิดที่เหลืออีก 4 ลูกนั้น นายอภิชาตินำไปทิ้งในคลองเเสนเเสบ โดยเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายอภิชาติไปชี้จุดที่ทิ้งระเบิดดังกล่าว ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ดำน้ำลงค้นหาต่อไป

พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า ในกรณีของการจับกุมนายวรพนธ์ สืบเนื่องจากสายของทหารระบุว่านายวรพนธ์เป็นบุคคลเป้าหมายจึงเชิญตัวมาสอบปากคำ กระทั่งยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ครอบครองระเบิดทั้ง 3 ลูกจริง จากนั้นจึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นหาระเบิดดังกล่าวที่ท้องนา ต.เกาะจันทร์ กิ่งอำเภอเกาะจันทร์ จ.ชลบุรี

พล.ต.อ.สมยศกล่าวอีกว่า จากเเนวทางสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายซึ่งครอบครองระเบิดดังกล่าวนั้นได้นำระเบิดไปเเจกจ่ายให้กับหลายบุคคลเพื่อนำไปก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ชุมนุม อย่างไรก็ตาม ยังไม่ขอระบุชัดในรายละเอียดว่าเชื่อมโยงกับการก่อเหตุในพื้นที่ใดบ้าง รวมถึงใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือมีความเกี่ยวข้องบ้าง จนกว่าจะมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนจนสามารถออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้
กำลังโหลดความคิดเห็น