จากกรณี น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ออกมาระบุว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากข้าราชการครู ว่ามีการทุจริตซื้อขายตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคุรุสภาจังหวัด จำนวน 78 ตำแหน่ง กระบวนการการทุจริตเริ่มต้นจากการกำหนดคุณสมบัติผู้จะเข้าไปคัดเลือกใน ตำแหน่งดังกล่าว โดยให้มีอายุระหว่าง 45-70 ปี และกระบวนการคัดเลือก ไม่ได้มาจากการสอบคัดเลือก แต่เป็นการให้เขียนวิสัยทัศน์และสอบสัมภาษณ์ ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและไม่โปร่งใส มีเจตนาเล่นพวกพ้อง ทำให้จะไม่ได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และข้าราชการครูอายุระหว่าง 60-70 ปี ได้รับเงินบำนาญแล้ว ก็ยังได้รับเงินเดือนในฐานะ ผอ.คุรุสภาจังหวัด เดือนละ 25,000บาท และจะเพิ่มขึ้นไปถึง 45,000 บาทภายใน 4 ปี ถือว่าเป็นการรับผลประโยชน์แบบ 2 ต่ออีกด้วย และยังตรวจสอบพบว่า ผู้ที่สมัครในตำแหน่งนี้หลายราย วิ่งเต้นซื้อตำแหน่งโดย จ่ายเงินให้คณะกรรมการที่เป็นผู้คัดเลือก 100,000 บาท และประธานกรรมการ จำนวน 200,000 บาท
วานนี้ (21 ก.ค.) นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ประสานไปยัง ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา เพื่อขอให้ได้มีการตรวจสอบ และดำเนินการเพื่อความโปร่งใสเป็นธรรม เนื่องจากคุรุสภาเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลมาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพ ดังนั้นหากมีเรื่องร้องเรียนแบบนี้ จะต้องดำเนินการตรวจสอบ
นอกจากนี้จะให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานปลัดศธ. เพื่อไปตรวจสอบการสรรหาคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานคุรุสภาจังหวัด และได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง นายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ เพื่อให้คำตอบกับสังคม
“ขณะนี้รายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น ผอ.สำนักงานคุรุสภาจังหวัด ยังไม่ได้ส่งไปให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งประธานกรรมการคุรุสภา ได้หารือกับดิฉันว่า จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ว่าจะมีการดำเนินการได้อย่างไร หลังจากที่มีการร้องเรียนในความไม่โปร่งใส อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาที่ดิฉันเช่นเดียวกัน ซึ่งจะต้องให้เวลาที่จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ากระบวนการคัดเลือกเป็นไปด้วย ความยุติธรรมหรือไม่” นางสุทธศรี กล่าว
ด้านนายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า จากข้อมูลที่ออกมาทางสื่อ ที่กล่าวอ้างว่า มีการรับเงินเดือนสองทางนั้น คนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ จะต้องเป็นลูกจ้างซึ่ง ผอ.สำนักงานคุรุสภาฯ จะได้รับเงินเดือน 25,000 บาท ไม่มีรถอะไรให้ อีกทั้งในสัญญาจ้าง ไม่ได้ระบุว่าจะมีการเพิ่มเงินให้เป็น 40,000 กว่าบาทด้วย ฉะนั้นผู้ที่มาทำงานตรงนี้ ก็จะได้รับเงินเพียง 25,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น และอยากจะถามว่า ใครจะเอาเงิน 300,000 บาท มาจ่าย เพราะจะต้องทำงานกี่ปีถึงจะได้ เงินคืนครบ และที่สำคัญตนกล้าเอาหัวเป็นประกันว่า ไม่มีการเรียกรับเงิน ตนเคยเป็นครูประถมจากบ้านนอกมาก่อน ต้องรักษาชื่อเสียงและที่ผ่านมาไม่เคยทุจริตเรียกรับเงิน
“คนที่เป็นข้าราชการบำนาญ แล้วมาสมัครเป็นผู้อำนวยการสำนักงานคุรุสภาฯ อยากให้แยกว่า เป็นเรื่องของส่วนตัว เพราะบางคนก็อยากจะกลับมารับใช้สังคม การมาดูแลเพื่อนข้าราชการครูด้วยกัน ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อน และไม่มีใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ การเรียกรับเงินเป็นไปไม่ได้ เพราะประธานที่มาดูการแสดงวิสัยทัศน์ ก็เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ และได้ทำเรื่องนี้อย่างรัดกุม เช่น ให้มีการจับสลากในการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ ทุกอย่างทำกันอย่างโปร่งใส ”เลขาธิการ คุรุสภา กล่าว
ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมาได้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เป็นคณะกรรมการสรรหา ตั้งข้อสังเกตุว่า ตำแหน่ง ผอ.คุรุสภาจังหวัด ควรจะเทียบระดับ 9 และเสนอให้สอบถามความเห็นในเรื่องนี้ ไปยังสำนักงานปลัดศธ.ก่อน นำเสนอให้คสช.พิจารณา ซึ่งขณะนี้คุรุสภา ก็ได้ส่งรายชื่อไปให้ สป.พิจารณาแล้ว และอยู่ระหว่างรอคำตอบ
“ที่ผ่านมาได้มีบัตรสนเท่ห์ ร้องเรียนเข้ามาว่า มีการเรียกรับเงินในการคัดเลือก ผอ.คุรุสภา ซึ่งผมให้มีการหาข้อมูลในทางลับแล้ว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ตั้งคณะอนุกรรมการสรรหา เข้าไปช่วยดูแล และกำหนดกระบวนการคัดเลือกให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ ขบวนการคัดเลือก ผอ.คุรุสภาจังหวัด ยังไม่เสร็จสิ้น และเพื่อความเป็นธรรม ผมก็จะให้มีการตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียนมา เพราะไม่อยากให้เอาเปรียบกับครู ขณะนี้ก็ให้หาข้อมูลในทางลับไปพลางๆ ก่อน ส่วนจะตั้งกรรมการตรวจสอบอย่างไร ต้องรอมติในที่ประชุมบอร์ดคุรุสภา วันที่ 1 ส.ค.นี้ก่อน"ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าว
วานนี้ (21 ก.ค.) นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้ประสานไปยัง ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา เพื่อขอให้ได้มีการตรวจสอบ และดำเนินการเพื่อความโปร่งใสเป็นธรรม เนื่องจากคุรุสภาเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลมาตรฐานจรรยาบรรณวิชาชีพ ดังนั้นหากมีเรื่องร้องเรียนแบบนี้ จะต้องดำเนินการตรวจสอบ
นอกจากนี้จะให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยสำนักงานปลัดศธ. เพื่อไปตรวจสอบการสรรหาคัดเลือกผู้อำนวยการสำนักงานคุรุสภาจังหวัด และได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง นายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ เพื่อให้คำตอบกับสังคม
“ขณะนี้รายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น ผอ.สำนักงานคุรุสภาจังหวัด ยังไม่ได้ส่งไปให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาเห็นชอบ ซึ่งประธานกรรมการคุรุสภา ได้หารือกับดิฉันว่า จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ว่าจะมีการดำเนินการได้อย่างไร หลังจากที่มีการร้องเรียนในความไม่โปร่งใส อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาที่ดิฉันเช่นเดียวกัน ซึ่งจะต้องให้เวลาที่จะไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ากระบวนการคัดเลือกเป็นไปด้วย ความยุติธรรมหรือไม่” นางสุทธศรี กล่าว
ด้านนายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า จากข้อมูลที่ออกมาทางสื่อ ที่กล่าวอ้างว่า มีการรับเงินเดือนสองทางนั้น คนที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ จะต้องเป็นลูกจ้างซึ่ง ผอ.สำนักงานคุรุสภาฯ จะได้รับเงินเดือน 25,000 บาท ไม่มีรถอะไรให้ อีกทั้งในสัญญาจ้าง ไม่ได้ระบุว่าจะมีการเพิ่มเงินให้เป็น 40,000 กว่าบาทด้วย ฉะนั้นผู้ที่มาทำงานตรงนี้ ก็จะได้รับเงินเพียง 25,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น และอยากจะถามว่า ใครจะเอาเงิน 300,000 บาท มาจ่าย เพราะจะต้องทำงานกี่ปีถึงจะได้ เงินคืนครบ และที่สำคัญตนกล้าเอาหัวเป็นประกันว่า ไม่มีการเรียกรับเงิน ตนเคยเป็นครูประถมจากบ้านนอกมาก่อน ต้องรักษาชื่อเสียงและที่ผ่านมาไม่เคยทุจริตเรียกรับเงิน
“คนที่เป็นข้าราชการบำนาญ แล้วมาสมัครเป็นผู้อำนวยการสำนักงานคุรุสภาฯ อยากให้แยกว่า เป็นเรื่องของส่วนตัว เพราะบางคนก็อยากจะกลับมารับใช้สังคม การมาดูแลเพื่อนข้าราชการครูด้วยกัน ไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อน และไม่มีใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ การเรียกรับเงินเป็นไปไม่ได้ เพราะประธานที่มาดูการแสดงวิสัยทัศน์ ก็เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิ และได้ทำเรื่องนี้อย่างรัดกุม เช่น ให้มีการจับสลากในการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ ทุกอย่างทำกันอย่างโปร่งใส ”เลขาธิการ คุรุสภา กล่าว
ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมาได้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เป็นคณะกรรมการสรรหา ตั้งข้อสังเกตุว่า ตำแหน่ง ผอ.คุรุสภาจังหวัด ควรจะเทียบระดับ 9 และเสนอให้สอบถามความเห็นในเรื่องนี้ ไปยังสำนักงานปลัดศธ.ก่อน นำเสนอให้คสช.พิจารณา ซึ่งขณะนี้คุรุสภา ก็ได้ส่งรายชื่อไปให้ สป.พิจารณาแล้ว และอยู่ระหว่างรอคำตอบ
“ที่ผ่านมาได้มีบัตรสนเท่ห์ ร้องเรียนเข้ามาว่า มีการเรียกรับเงินในการคัดเลือก ผอ.คุรุสภา ซึ่งผมให้มีการหาข้อมูลในทางลับแล้ว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ตั้งคณะอนุกรรมการสรรหา เข้าไปช่วยดูแล และกำหนดกระบวนการคัดเลือกให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้ ขบวนการคัดเลือก ผอ.คุรุสภาจังหวัด ยังไม่เสร็จสิ้น และเพื่อความเป็นธรรม ผมก็จะให้มีการตรวจสอบตามที่มีการร้องเรียนมา เพราะไม่อยากให้เอาเปรียบกับครู ขณะนี้ก็ให้หาข้อมูลในทางลับไปพลางๆ ก่อน ส่วนจะตั้งกรรมการตรวจสอบอย่างไร ต้องรอมติในที่ประชุมบอร์ดคุรุสภา วันที่ 1 ส.ค.นี้ก่อน"ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าว