00 ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงมึนๆหรือเปล่าสำหรับ กกต. หลังจากที่โดนพวกนักการเมือง นักเลือกตั้งออกมารุมสวดตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อบังอาจเสนอให้จำกัดวาระ ส.ส. เพราะเกรงว่าตัดทางหากิน ล่าสุดมามุกใหม่คิดเสนอ คสช.ให้ยุบวุฒิสภา และให้ผู้สมัคร ส.ส.ต้องจบปริญญาตรีขึ้นไป และ ให้มีภูมิลำเนาในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 5 ปี และอื่นๆ อีก เช่น ใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง หรือยกเลิกเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ซึ่งเรื่องหลังๆ นี่พอฟังได้ เพราะดูแล้วไม่ค่อยเกิดประโยชน์คุ้มค่า แต่ที่ต้องขัดคอกันหน่อยก็คือ เรื่องกำหนดให้ ผู้สมัคร ส.ส.ต้องจบไม่น้อยกว่าปริญญาตรีนั้น มันไม่เข้าท่า และไร้ประโยชน์แถมยังเสียความรู้สึกอีก เพราะในความเป็นจริงคนที่มาสมัคร ส.ส.แทบทั้งหมด มีปริญญาทั้งนั้น อย่าว่างั้นงี้เลย แค่ผู้สมัครสมาชิก อบต. ยังไม่ต่างกันเลย ไม่อยากจะพูดว่า ปริญญาตรีมันเกร่อ แต่เอาเป็นว่ามีการขยายการศึกษาอย่างทั่วถึงแล้วว่า อาจฟังแล้วดูดีกว่า และเรื่องวุฒิการศึกษานั้นไม่ต้องไปกำหนดหรอก เพราะในความเป็นจริงแล้วคนโกง คนดี มีคุณธรรมจริยธรรม มีความสามารถไม่ได้ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษา เพราะความรู้ ความคิดดี ต่อให้จบปริญญาเอก บางทีมันก็ไม่มีความหมาย ไม่เชื่อก็ลองชำเลืองมอง "ด็อกแถวบางบอน" คนนั้นก็ได้ !!
00 สำหรับการยกเลิกวุฒิสภา นาทีนี้ก็ถือว่ายังไม่เข้าท่า เพราะจำเป็นต้องมีสภาตรวจสอบ เป็นสภาที่มีวุฒิภาวะ คอยกลั่นกรองถ่วงดุล แต่ที่ผ่านมา มันกลายเป็นสภาทาสไม่ต่างจากสภาผู้แทนฯ เพราะระบบกลไกการเลือกตั้ง มันพิการ การออกแบบเปิดช่องให้โจรสามานย์เข้ามาแทรกแซงได้ ดังนั้นเมื่อมีบทเรียนให้เห็นแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขป้องกัน ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยการยุบทิ้ง อย่าลืมว่าการปฏิรูปบ้านเมืองให้ก้าวหน้าหัวใจสำคัญที่สุดก็คือ "ระบบการตรวจสอบ" ที่เข้มข้น ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะหากเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งเมื่อไหร่ หากกลไกดังกล่าวทำไม่ได้จริง และมีที่มาไม่อิสระจริง ไม่มีมาตรฐานการบังคับใช้กม.ไม่มีความยุติธรรม มันก็อีหรอบเดิม ล้มเหลววุ่นวายไม่จบเหมือนเดิม
00 ได้เห็นโครงสร้างของตำรวจแล้ว มองอีกมุมหนึ่งก็ต้องบอกว่า หดหู่ใจเหมือนกัน เพราะนาทีนี้ยังไม่อาจเดาเจตนาได้เต็มร้อยว่า คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังต้องการปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่ และคำสั่งดังกล่าวอาจเป็นคำสั่งแบบชั่วคราว"เฉพาะกิจ" ตามสถานการณ์หรือเปล่า ในโอกาสหน้าหากมีสภาปฏิรูปประเทศแล้วจะมีการแก้ไข กม. เกี่ยวกับตำรวจหรือเปล่า แต่เมื่อพิจารณาจากคำสั่งในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตำรวจ
คราวนี้มันไม่ต่างจากการเพิ่มอำนาจให้ นายกฯ ทั้งในอนาคตอันใกล้ รวมไปถึงนายกฯที่มาจากนักการเมืองอีกด้วย และที่สำคัญยังให้อำนาจกับ ผบ.ตร.ในการเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่สืบทอด ให้อำนาจกับข้าราชการประจำ มากเกินไปโดยเฉพาะการเปิดทางให้ฝ่ายทหารเข้ามาแทรกแซงได้ โดยอ้างความมั่นคงที่ครอบจักรวาล ก็หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในวันหน้า เพราะถ้าเป็นแบบนี้มันไม่ใช่ปฏิรูปตำรวจตามที่ชาวบ้านต้องการ แต่ปฏิรูปตำรวจเพื่อตำรวจ และ คสช.เท่านั้น !!
00 จะเรียกว่าฝันสลายและเริ่มนับถอยหลังกันแล้วก็ได้สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และลูกสมุน ไม่ว่าจะเป็น บุญทรง เตริยาภิรมย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ภูมิ สาระผล หรือแม้แต่ ยรรยง พวงราช ที่เป็นตัวละครเด่นที่กำลังถูก ป.ป.ช. สอบสวนในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว จากคำแถลงล่าสุดของ เลขาฯป.ป.ช. สรรเสริญ พลเจียก ย้ำว่า ป.ป.ช.ไม่ทบทวนการไต่สวนพยานที่เสนอมาเพิ่มเติมอีก 8 คน เนื่องจากเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของคดีที่กำลังไต่สวนอยู่ พร้อมทั้งเตือนว่าอย่าพยายามยื้อเวลาอีก แม้จะยังไม่ถึงเวลาสรุปชี้ขาด ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในราวเดือน ก.ย. แต่ดูจากแนว โน้มแล้วรับรอง "กินไม่ได้นอนไม่หลับ" แน่ ถ้าไม่ผิด หรือไม่มีคนผิด นี่สิแปลกกว่า ไช่มั๊ย ลุงตู่ !!
00 สำหรับการยกเลิกวุฒิสภา นาทีนี้ก็ถือว่ายังไม่เข้าท่า เพราะจำเป็นต้องมีสภาตรวจสอบ เป็นสภาที่มีวุฒิภาวะ คอยกลั่นกรองถ่วงดุล แต่ที่ผ่านมา มันกลายเป็นสภาทาสไม่ต่างจากสภาผู้แทนฯ เพราะระบบกลไกการเลือกตั้ง มันพิการ การออกแบบเปิดช่องให้โจรสามานย์เข้ามาแทรกแซงได้ ดังนั้นเมื่อมีบทเรียนให้เห็นแล้วก็ต้องหาทางแก้ไขป้องกัน ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยการยุบทิ้ง อย่าลืมว่าการปฏิรูปบ้านเมืองให้ก้าวหน้าหัวใจสำคัญที่สุดก็คือ "ระบบการตรวจสอบ" ที่เข้มข้น ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะหากเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งเมื่อไหร่ หากกลไกดังกล่าวทำไม่ได้จริง และมีที่มาไม่อิสระจริง ไม่มีมาตรฐานการบังคับใช้กม.ไม่มีความยุติธรรม มันก็อีหรอบเดิม ล้มเหลววุ่นวายไม่จบเหมือนเดิม
00 ได้เห็นโครงสร้างของตำรวจแล้ว มองอีกมุมหนึ่งก็ต้องบอกว่า หดหู่ใจเหมือนกัน เพราะนาทีนี้ยังไม่อาจเดาเจตนาได้เต็มร้อยว่า คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังต้องการปฏิรูปตำรวจอีกหรือไม่ และคำสั่งดังกล่าวอาจเป็นคำสั่งแบบชั่วคราว"เฉพาะกิจ" ตามสถานการณ์หรือเปล่า ในโอกาสหน้าหากมีสภาปฏิรูปประเทศแล้วจะมีการแก้ไข กม. เกี่ยวกับตำรวจหรือเปล่า แต่เมื่อพิจารณาจากคำสั่งในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างตำรวจ
คราวนี้มันไม่ต่างจากการเพิ่มอำนาจให้ นายกฯ ทั้งในอนาคตอันใกล้ รวมไปถึงนายกฯที่มาจากนักการเมืองอีกด้วย และที่สำคัญยังให้อำนาจกับ ผบ.ตร.ในการเสนอชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่สืบทอด ให้อำนาจกับข้าราชการประจำ มากเกินไปโดยเฉพาะการเปิดทางให้ฝ่ายทหารเข้ามาแทรกแซงได้ โดยอ้างความมั่นคงที่ครอบจักรวาล ก็หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในวันหน้า เพราะถ้าเป็นแบบนี้มันไม่ใช่ปฏิรูปตำรวจตามที่ชาวบ้านต้องการ แต่ปฏิรูปตำรวจเพื่อตำรวจ และ คสช.เท่านั้น !!
00 จะเรียกว่าฝันสลายและเริ่มนับถอยหลังกันแล้วก็ได้สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และลูกสมุน ไม่ว่าจะเป็น บุญทรง เตริยาภิรมย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ภูมิ สาระผล หรือแม้แต่ ยรรยง พวงราช ที่เป็นตัวละครเด่นที่กำลังถูก ป.ป.ช. สอบสวนในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว จากคำแถลงล่าสุดของ เลขาฯป.ป.ช. สรรเสริญ พลเจียก ย้ำว่า ป.ป.ช.ไม่ทบทวนการไต่สวนพยานที่เสนอมาเพิ่มเติมอีก 8 คน เนื่องจากเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของคดีที่กำลังไต่สวนอยู่ พร้อมทั้งเตือนว่าอย่าพยายามยื้อเวลาอีก แม้จะยังไม่ถึงเวลาสรุปชี้ขาด ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในราวเดือน ก.ย. แต่ดูจากแนว โน้มแล้วรับรอง "กินไม่ได้นอนไม่หลับ" แน่ ถ้าไม่ผิด หรือไม่มีคนผิด นี่สิแปลกกว่า ไช่มั๊ย ลุงตู่ !!