xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อนไอ้หื่นกลับคำให้การ อ้างโดนตำรวจซ้อม รถไฟฟื้น"เลดี้ โบกี้"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจส่งสำนวนคดีข่มขืนฆ่า "น้องแก้ม" ให้อัยการจังหวัดหัวหินพิจารณาฟ้อง "ไอ้เกม-ไอ้หนึ่ง" ผบก.ประจวบฯ ลั่นไอ้หนึ่งกลับคำให้การไม่ส่งผลต่อรูปคดี ผบ.เรือนจำ จับขังแยกแดนพิเศษ หวั่นถูกจับอัดถั่วดำ รุมกระทืบตายคาคุก ด้านร.ฟ.ท. เตรียมฟื้นเลดี้ โบกี้ เริ่มให้บริการ 1 ส.ค.นี้

เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (16 ก.ค.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพนักงานสอบสวนสภ.ปราณบุรี นำสำนวนการสอบสวนคดีอาญา ที่ 326/2557 ของสภ.ปราณบุรี ในคดีข่มขืนแล้วฆ่าน้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี และโยนร่างออกจากรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา มาส่งมอบให้แก่นายสมชาย ศักดิ์สุนทร อัยการจังหวัดหัวหิน มีน.ส.เนื้อทิพย์ โกมลมาลย์ อธิบดีอัยการภาค 7 และคณะทำงานอัยการ ร่วมรับสำนวนคดี

โดยในสำนวนมีถึง 432 หน้า ผู้กล่าวหา คือ นางลักขณา ทองพัฒน์ มารดาน้องแก้ม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อนายวันชัย แสงขาว หรือเกม อายุ 22 ปี และนายณัฐกรณ์ ชำนาญ หรือหนึ่ง อายุ 19 ปี ฐานความผิด ผู้ต้องหาที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราเด็กดหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาตน , ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย , ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในยานพาหนะที่ประชาชนโดยสารหรือรับของโจร และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย , ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 สนับสนุนให้ผู้ต้องหาที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี

น.ส.เนื้อทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ อยู่ในความสนใจของประชาชน ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รอบคอบ รวดเร็ว และโปร่งใส อัยการจังหวัดหัวหิน ได้ตั้งคณะทำงานร่วมพิจารณา โดยมีนายสมชาย ศักดิ์สุนทร อัยการจังหวัดหัวหิน เป็นหัวหน้าคณะทำงานควบคุมการดำเนินคดี และจะพิจารณาสำนวนโดยเร็วที่สุด เพราะหลังเกิดเหตุ สำนักงานอัยการจังหวัดหัวหินได้ทำงานร่วมกับพล.ต.ต.ธเนษฐ และพนักงานสอบสวนสภ.ปราณบุรี ทำให้อัยการไม่ต้องใช้เวลานานเหมือนคดีอื่น ส่วนจะดำเนินคดีในข้อหาใดบ้าง คาดว่าวันนี้จะสรุปก่อนที่จะส่งฟ้องศาลจังหวัดหัวหิน

ด้านพล.ต.ต.ธเนษฐ กล่าวว่า กรณีข่าวนายณัฐกรณ์กลับคำให้การ ถือว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รายงาน แต่ถึงจะกลับคำให้การก็ส่งฟ้องได้ ไม่มีผลต่อคดี เพราะมีพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว สามารถส่งฟ้องได้แน่นอน

พ.ต.อ.วิเศษ เกตุพันธ์ รองผบก.รฟ. กล่าวว่า นายณัฐกรณ์โกหกพนักงานสอบสวนมาตั้งแต่แรก ไม่ยอมเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด จนพนักงานสอบสวนต้องนำตัวมาสอบสวนอีกครั้ง และพยายามเกลี้ยกล่อมให้พูดความจริงทั้งหมด แล้วจะกันไว้เป็นพยาน จนนายณัฐกรณ์รับสารภาพว่าดูต้นทางให้นายวันชัย โดยไม่มีส่วนร่วมก่อเหตุสลด พนักงานสอบสวนสน.นพวงค์ จึงส่งตัวให้สภ.ปราณบุรี สอบปากคำเพิ่มเติม จนมีการแจ้งข้อกล่าวหา คงทำให้นายณัฐกรณ์ผิดหวังที่ครั้งแรกจะถูกกันไว้เป็นพยาน แต่กลับถูกดำเนินคดีไปด้วย จึงกลับคำให้การ ซึ่งขอยืนยันว่าตำรวจสน.นพวงค์ ไม่มีการข่มขู่หรือทำร้ายร่างกาย

"แม้จะกลับคำให้การ แต่เราก็มีพยานหลักฐานแน่นหนา ไม่ว่าจะเป็นผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ นิติเวช วัตถุ พยานบุคคล ซึ่งยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน คำให้การของผู้ต้องหา รวมทั้งพยานแวดล้อม"

ต่อมา น.ส.เนื้อทิพย์ ร่วมประชุมพิจารณาสำนวนกับนายสมชาย พร้อมคณะอัยการและพนักงานสอบสวนสภ.ปราณบุรี กว่า 5 ชั่วโมง ระหว่างนั้นญาติพี่น้องของน้องแก้มได้มาพบกับน.ส.เนื้อทิพย์และนายสมชาย โดยพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง

หลังพิจารณาสำนวนเสร็จ น.ส.เนื้อทิพย์ นายสมชาย และคณะจัดทำเอกสารคำฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 รายทันที และไปยังศาลจังหวัดหัวหิน พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรี เพื่อยื่นส่งคำฟ้อง เจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดหัวหิน พร้อมตำรวจศาล ได้เบิกตัว 2 ผู้ต้องหาไปที่ห้องพิจารณาคดี ผู้พิพากษาอ่านคำฟ้องให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนทราบต่อหน้าทนายอาสา ซึ่งนายวันชัยยอมรับสารภาพ ส่วนนายณัฐกรณ์ให้การปฎิเสธ จากนั้นเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ควบคุมผู้ต้องหากลับไปคุมขังที่เรือนจำทันที

ทั้งนี้ น.ส.เนื้อทิพย์ลงนามสั่งฟ้องด้วยตนเอง โดยมีคำสั่งฟ้องนายวันชัย ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภริยาตน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ รวมทั้งลักทรัพย์ของผู้อื่นในยวดยานพาหนะในเวลากลางคืน ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่1โดยผิดกฏหมาย

และสั่งฟ้องนายณัฐกรข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นให้กระทำความผิดฐานข่มขืน กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภริยาตน สำหรับความผิดที่ฟ้องจำเลยที่ 1 มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

นายสุทิน ชิตชอบ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทางเรือนจำได้แยกนายวันชัยและนายณัฐกรณ์อยู่แดนพิเศษ ซึ่งเป็นห้องขังขนาดเล็ก ชั้น 2 ของอาคารนักโทษชาย ที่มีนักโทษสูงอายุและคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่อยู่รวมกันในห้องเพียง 6 คน โดยนายวันชัยและนายณัฐกรณ์นอนอยู่ติดห้องน้ำ เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายจากนักโทษที่ไม่พอใจการกระทำของนายวันชัย เพราะมีนักโทษหลายคนแสดงออกชัดเจนว่าเกลียดการกระทำของนายวันชัย และที่ผ่านมา นักโทษคดีข่มขืนมักถูกรับน้องใหม่ ทั้งการซ้อมหรือล่วงละเมิดทางเพศ นอกจากนี้ ยังติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันไม่ให้ทำร้ายตัวเองด้วย

"ขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด แม้จะขังรวมอยู่กับผู้ต้องขังคดียาเสพติด ก็ยังคงวางใจไม่ได้ เพราะผู้ต้องหาทุกคนมีครอบครัว บางคนก็มีลูกสาว จึงถูกเกลียดชังได้เช่นเดียวกัน จึงละสายตาไม่ได้จนกว่าจะตัดสินคดี เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน สำหรับคดีนี้ โทษการข่มขืนเด็กอายุ 13 ปี มีความผิดจริง ย่อมจะถูกตัดสินจำคุกมากกว่า 15 ปี ซึ่งต้องย้ายนายวันชัยไปเรือนจำความมั่นคงสูงต่อไป"นายสุทิน

สำหรับความเคลื่อนไหวของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ประธานบอร์ด ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดได้หารือเรื่องพิเศษเร่งด่วน คือ ให้พนักงานรถไฟและตำรวจรถไฟเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการทั้งในสถานีและบนขบวนรถไฟ ต่อไปนี้ต้องไม่มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นอีก และหากมี จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ซึ่งในส่วนพนักงานได้จะมีการสุ่มตรวจปัสสาวะ ทั้งที่ต้นทาง กลางทาง และตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2557 จะมีบริการตู้โดยสารสำหรับผู้หญิงและเด็ก (Lady Bogie) บนขบวนรถนอนปรับอากาศ สายเหนือ สายใต้และสายอีสาน โดยมีพนักงานหญิงประจำตู้โดยสารนี้ ส่วนความสะอาด ให้กวดขันสัญญาจ้างบริษัททำความสะอาดและต้องประเมินผลงานด้วย

ส่วนกรณีสาวปริญญาโทที่ถูกพนักงานรถไฟข่มขืนเมื่อ13 ปีก่อน แต่ร.ฟ.ท.ยังไม่ชดใช้ค่าเสียหายตามที่ศาลตัดสินนั้น จะขอตรวจสอบเอกสารก่อน เพราะเป็นคดีที่ฟ้องร้องกันมานาน ส่วนตัวเห็นว่า ร.ฟ.ท. ไม่ควรฎีกา และต้องเร่งชดเชยให้ผู้เสียหายเพื่อไม่ให้ยืดเยื้อต่อไป โดยบอร์ดจะต้องหารือกันอีกครั้งก่อนตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมบอร์ดร.ฟ.ท. ได้มีมติแต่งตั้งนายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าฯ หัวหน้าหน่วยธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท. ทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. จนกว่าจะสรรหาผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.คนใหม่แล้วเสร็จ พร้อมกันนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. มีพลโทชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาค2 เป็นประธาน ซึ่งคาดว่าจะได้ผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท.คนใหม่ภายใน 5 เดือน พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ร.ฟ.ท. ตรวจสอบระเบียบร.ฟ.ท.กรณีที่มีคำสั่งคสช.ให้นายประภัสร์ จงสงวน พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯร.ฟ.ท. ว่าจะต้องมีการชดเชยหรือไม่ เนื่องจากนายประภัสร์เข้ามาโดยผ่านกระบวนการสรรหาและมีสัญญาจ้าง

วันเดียวกันนี้ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายให้บอร์ด ร.ฟ.ท. ชุดใหม่ว่า นโยบายของคสช. ต้องการให้ฟื้นฟู ร.ฟ.ท.ในทุกมิติ ทั้งเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน องค์กร การเงิน ซึ่งจะต้องเร่งทำแผนฟื้นฟูใหม่เพื่อให้พร้อมนำเสนอต่อ คสช. ซึ่งจะมีเวลาอีก 15 วันหลัง คสช. มีการตั้งคณะอนุกรรมการฯ ฟื้นฟูกิจการของรัฐวิสาหกิจขึ้นมา และต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา หลังเกิดเหตุกับเด็กหญิงอายุ 13 ปี โดยต้องมีกระบวนการสอบสวนหาข้อบกพร่องเพื่อนำไปสู่การแก้ไข

ส่วนโครงการเร่งรัดที่มีแผนใช้วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท ดำเนินการตั้งแต่ปี 2553-57 นั้น ถึงวันนี้ทำได้เพียงรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง และซื้อหัวรถจักร 20 คันเท่านั้น โครงการอื่นๆ ไม่มีความคืบหน้า ทั้งรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และซื้อหัวรถจักร 50 คัน, ปรับปรุงหัวจักร 56 คัน ซึ่งล่าสุด คสช.ให้ปรับเป็นซื้อ เพราะคุ้มค่ากว่า, การจัดหาแคร่ 308 คัน, จัดหาโบกี้โดยสาร 115 คัน ซึ่งกรณีที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.) ตั้งข้อสังเกตในแต่ละโครงการนั้น ร.ฟ.ท.ต้องเร่งชี้แจงให้ข้อมูลเพื่อให้โครงการเดินหน้า เนื่องจากการจัดหารถจักรและรถไฟทางคู่ รวมถึงการจัดหาระบบอาณัติสัญญาณนั้นถือเป็นเครื่องมือสำคัญของ ร.ฟ.ท.ในการให้บริการที่มีคุณภาพ

นอกจากนี้ จะต้องแก้ปัญหารั่วไหล โดยเฉพาะรายได้จากทรัพย์สินที่ดินทั่วประเทศ จะต้องมีการติดตามสัญญาที่ค้างชำระ หรือสัญญาที่ไม่เคยมีการปรับค่าเช่าให้เหมาะสมหรือที่ดินที่ ไม่เคยมีการจัดเก็บค่าเช่า เพื่อหารายได้มาพัฒนาบริการ และใช้ทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์ที่สุด โดยไม่ต้องสร้างโครงการใหม่ๆ ขณะที่ปัญหาด้านบุคลากร ต้องสำรวจความต้องการพนักงานในแต่ละส่วนงานและเสนอไว้ในแผนฟื้นฟู รวมถึงสร้างตัวชี้วัดการทำงาน เพื่อให้การบริหารในแต่ละหน่วยธุรกิจ (Business Unit) มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งต้องเร่งแก้ปัญหาภาพลักษณ์องค์กร ในเรื่องความปลอดภัย ความสะอาด ทั้งบนขบวนรถ สถานี ตู้สเบียง ห้องน้ำ และแก้ปัญหากระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อไม่ให้โครงการสะดุด ล่าช้าเหมือนที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น