ASTVผู้จัดการรายวัน-หัวหน้า คสช. ส่งผู้แทนกราบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ เนื่องในวันเข้าพรรษา ด้านสมเด็จฯหนุน "ประยุทธ์" นั่งนายกรัฐมนตรี เชื่อเข้มแข็ง แก้ปัญหาประเทศได้ ฝาก "อุดมเดช" นำโครงการหมู่บ้านศีล 5 เชื่อหากประชาชนถือศีล 5 ได้ 50% ประเทศจะมีแต่ความสงบสุข
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (16ก.ค.) ที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการ คสช. ถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันเข้าพรรษา
หลังจากนั้น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้คนไทยมีความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ คนไทยต้องมีศีล 5
สำหรับโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 มีการดำเนินการกันทั่วประเทศ โดยในหมู่บ้านหนึ่งๆ มีประชาชนรักษาศีล 5 ประมาณ 50% ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จะขึ้นป้ายว่าหมู่บ้านนั้นอยู่ในโครงการ ถ้าหากว่าหมู่บ้านนั้น มีประชาชนรักษาศีล 5 ได้ 80% ก็จะมีการมอบโล่ให้ บางจังหวัดก็จะมีการลงลึกไปถึงระดับบ้าน ถ้าสมาชิกในบ้านรักษาศีล 5 ประมาณ 50% ก็จะมอบป้ายบ้านรักษาศีล 5 ให้ ทั้งนี้ ต้องอนุโมทนาไปยังส่วนราชการของจังหวัดที่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัด กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า ได้ฝากให้กำลังใจกับคสช. อย่างไรบ้าง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวว่า ได้ให้กำลังใจหัวหน้า คสช. ไปว่าให้ท่านเข้มแข็ง ทำงานให้ได้สำเร็จประโยชน์สุขสวัสดิผล ให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ซึ่งมองว่าในสิ่งที่ทาง คสช. ได้ดำเนินการอยู่ ถือว่าได้เดินทางมาถูกทางแล้ว เพราะว่า หัวหน้า คสช. ต้องการให้มีความปรองดองและสมานฉันท์ สามัคคี และโครงการหมู่บ้านศีล 5 ก็รับลูกความคิดของท่านพอดี
"โครงการหมู่บ้านศีล 5 เกิดก่อนที่จะมี คสช. ซึ่งในวันที่ 22 พ.ค.2557 อาตมาได้มอบป้ายหมู่บ้านรักษาศีล 5 จ.สระบุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดแรก และโครงการดังกล่าวได้เข้าถึงโรงเรียนด้วย ส่วนวันเดียวกันนี้ อาตมายังได้มอบป้ายให้หมู่บ้านรักษาศีล 5 ให้กับหมู่บ้านต่างๆ จำนวน 82 ป้าย โดยมองว่าการความปรองดอง สามัคคี ของคนในชาติจะเกิดขึ้นได้ จะต้องอาศัยศีล 5 เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ สิ่งที่จะต้องทำควบคู่กันไป คือ มีความขยันขันแข็งในการทำมาหากิน มีความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คิดร้ายต่อกัน มีเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งถ้าประชาชนทุกคนปฏิบัติศีล 5 ก็จะทำให้ความขัดแย้งหมดไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด อาตมาขอให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีศีล 5 ประมาณ 50% ถือว่าดีแล้ว บ้านเมืองก็จะมีความสงบสุขร่มเย็น"
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวว่า ถ้าท่านจะเป็นก็เป็นได้ ส่วนจะเป็นหรือไม่ อาตมาไม่รู้ ทั้งนี้ หากดูจากการกระทำและความเข้มแข็งของ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ด้านพล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ท่านฝากขอบคุณหัวหน้าคสช. ที่ได้ให้ส่งคณะผู้แทนมากราบท่าน เนื่องในวันเข้าพรรษา ซึ่งตนจะนำไปเรียนให้หัวหน้า คสช.ได้รับทราบ และได้ทราบว่ามาว่า หัวหน้า คสช. ได้สั่งการให้ทหารและประชาชนรักษาศีล 5 และหัวหน้า คสช. ก็ยึดมั่นในศีล 5 เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ท่านฝากให้หัวหน้า คสช. ทำงานให้บรรลุความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ท่านดีใจที่เห็นประชาชนและบ้านเมืองมีความสงบสุข งานด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะตามโครงการพระพุทธศาสนา จะมีโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 คงต้องนำไปขยายผล เพราะเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์อยู่แล้ว
เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (16ก.ค.) ที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการ คสช. ถวายเครื่องสักการะแด่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันเข้าพรรษา
หลังจากนั้น สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้คนไทยมีความปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี และสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ คนไทยต้องมีศีล 5
สำหรับโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 มีการดำเนินการกันทั่วประเทศ โดยในหมู่บ้านหนึ่งๆ มีประชาชนรักษาศีล 5 ประมาณ 50% ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ก็จะขึ้นป้ายว่าหมู่บ้านนั้นอยู่ในโครงการ ถ้าหากว่าหมู่บ้านนั้น มีประชาชนรักษาศีล 5 ได้ 80% ก็จะมีการมอบโล่ให้ บางจังหวัดก็จะมีการลงลึกไปถึงระดับบ้าน ถ้าสมาชิกในบ้านรักษาศีล 5 ประมาณ 50% ก็จะมอบป้ายบ้านรักษาศีล 5 ให้ ทั้งนี้ ต้องอนุโมทนาไปยังส่วนราชการของจังหวัดที่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัด กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ที่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า ได้ฝากให้กำลังใจกับคสช. อย่างไรบ้าง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวว่า ได้ให้กำลังใจหัวหน้า คสช. ไปว่าให้ท่านเข้มแข็ง ทำงานให้ได้สำเร็จประโยชน์สุขสวัสดิผล ให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง ซึ่งมองว่าในสิ่งที่ทาง คสช. ได้ดำเนินการอยู่ ถือว่าได้เดินทางมาถูกทางแล้ว เพราะว่า หัวหน้า คสช. ต้องการให้มีความปรองดองและสมานฉันท์ สามัคคี และโครงการหมู่บ้านศีล 5 ก็รับลูกความคิดของท่านพอดี
"โครงการหมู่บ้านศีล 5 เกิดก่อนที่จะมี คสช. ซึ่งในวันที่ 22 พ.ค.2557 อาตมาได้มอบป้ายหมู่บ้านรักษาศีล 5 จ.สระบุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดแรก และโครงการดังกล่าวได้เข้าถึงโรงเรียนด้วย ส่วนวันเดียวกันนี้ อาตมายังได้มอบป้ายให้หมู่บ้านรักษาศีล 5 ให้กับหมู่บ้านต่างๆ จำนวน 82 ป้าย โดยมองว่าการความปรองดอง สามัคคี ของคนในชาติจะเกิดขึ้นได้ จะต้องอาศัยศีล 5 เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ สิ่งที่จะต้องทำควบคู่กันไป คือ มีความขยันขันแข็งในการทำมาหากิน มีความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คิดร้ายต่อกัน มีเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งถ้าประชาชนทุกคนปฏิบัติศีล 5 ก็จะทำให้ความขัดแย้งหมดไป ถือว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด อาตมาขอให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีศีล 5 ประมาณ 50% ถือว่าดีแล้ว บ้านเมืองก็จะมีความสงบสุขร่มเย็น"
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กล่าวว่า ถ้าท่านจะเป็นก็เป็นได้ ส่วนจะเป็นหรือไม่ อาตมาไม่รู้ ทั้งนี้ หากดูจากการกระทำและความเข้มแข็งของ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้
ด้านพล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ท่านฝากขอบคุณหัวหน้าคสช. ที่ได้ให้ส่งคณะผู้แทนมากราบท่าน เนื่องในวันเข้าพรรษา ซึ่งตนจะนำไปเรียนให้หัวหน้า คสช.ได้รับทราบ และได้ทราบว่ามาว่า หัวหน้า คสช. ได้สั่งการให้ทหารและประชาชนรักษาศีล 5 และหัวหน้า คสช. ก็ยึดมั่นในศีล 5 เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ท่านฝากให้หัวหน้า คสช. ทำงานให้บรรลุความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ท่านดีใจที่เห็นประชาชนและบ้านเมืองมีความสงบสุข งานด้านการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะตามโครงการพระพุทธศาสนา จะมีโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 คงต้องนำไปขยายผล เพราะเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์อยู่แล้ว