ฝนตกหนักทั่ว จ.เชียงราย น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ส่วน จ.ท่าขี้เหล็ก ฝั่งพม่า ดินถล่มทับบ้านตายยกครัว 7 ศพ จ.ระนอง เกิดเหตุดินภูเขาสไลด์ลงถนนหาดส้มแป้น-ละอุ่น เสาไฟฟ้าหักโค่น 3 ต้น ที่จ.พังงา คลื่นยังซัดถล่มชายหาดบ้านปากวีป ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ร้านค้าปิดร้านโดยปริยาย ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาเตือน 13-14 และ 17-18 ก.ค. ภาคเหนือตอนบน อีสาน ตะวันออก ใต้ตอนบนระวังฝนตกหนัก อ่าวไทย-อันดามันคลื่นลมแรง
วานนี้ (13 ก.ค.) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ตั้งแต่คืนวันที่ 13 กรกฎาคม จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม โดยที่จ.เชียงราย บ้านถ้ำผาตอง หมู่ 6 ต.ท่าสุด อ.เมือง น้ำจากเทือกเขานางแล ไหลลงสู่ลำธารจนเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนริมฝั่งประมาณ 50 หลัง และถนนภายในหมู่บ้าน สูงประมาณ 30 เซนติเมตร(ซม.) ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวกันโกลาหล นอกจากยังเข้าท่วมบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย หลายหมู่บ้านในต.นางแล เนื่องจากน้ำถูกถนนพหลโยธิน ช่วงเชียงราย-แม่จัน ขวางทางน้ำไว้ ส่วนที่ต.ท่าสุด ลำห้วยในหมู่บ้านห้วยพลู หน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประมาณ 30 หลัง ระดับน้ำ 30-60 ซม. นอกจากนี้ยังท่วมผิวถนนพหลโยธิน หน้ามหาวิทยาลัยฝั่งตะวันตก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตำรวจต้องปิดช่องทางขาขึ้นสองช่อง และให้รถแล่นสวนทางกันอีกฝั่งใน 2 ช่องทาง
ขณะเดียวกัน ที่จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้น เมื่อดินถล่มลงมาทับเรือนแถว ริมถนนทางไปโรงแรมเรจิน่า แอนด์ กอล์ฟ คลับ ห่างจากพรมแดนแม่สาย-เมียนมาร์ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อดินถล่มลงมาทับเรือนแถวทั้ง 5 ห้อง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน เป็นคู่สามี-ภรรยากัน 2 คู่ เด็กชาย 2 คน และหญิง 1 คน ซึ่งผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็กจัดรถแบ็คโฮเข้าไปขุดตัก และจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยค้นตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้าสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ โดยแต่ละรายขาดอากาศหายใจเพราะดินทับ บางรายมีบาดแผลฉกรรจ์เพราะถูกห้องพังถล่มทับ
จ.เชียงใหม่ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 107 มิลลิเมตร ทำให้น้ำในลำน้ำฝางเพิ่มขึ้นจนล้นตลิ่งเข้าท่วม 3 ตำบลในอ.ไชยปราการ คือ ต.ศรีดงเย็น ต.ปงตำ ต.ไชยปราการ และลดลงหลังจากอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)นำรถขุดมาขุดทางระบายน้ำ โดยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จะงหวัด สาขาอ.ฝาง แจ้งเตือนอ.ฝาง และอ.แม่อาย ให้รับยมือแล้ว เนื่องจากลำน้ำฝางจะไหลผ่านก่อนลงลำน้ำกกต่อไป
จ.ระนอง น้ำในคลองทุกสายที่ไหลผ่านตัวเมืองระนอง เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนโรงกลวง ซึ่งมีประชาชหลายร้อยครัวเรือน เบื้องต้นประชาชนช่วยเหลือตัวเองด้วยการนำกระสอบทรายมาวางหน้าบ้านชั่วคราวก่อน นอกจากนี้น้ำยังท่วมถนนหลายสาย บางสายรถเล็กไม่สามารถผ่านได้
ที่ถนนสายรองหาดส้มแป้น-อำเภอละอุ่น หมู่ 1 ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง เกิดดินภูเขาสไลด์ลงมา ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่น 3 ต้น ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 ครัว รถสัญจรได้ 1 ช่องทาง ยกเว้นรถบรรทุกขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)เร่งทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)หาดส้มแป้น และทางหลวงชนบทจังหวัดระนอง นำรถมาตักดินและดันต้นไม้ที่กีดขวางออกจากผิวจราจร เพื่อเปิดทางให้รถจากต.หาดส้มแป้น สัญจรเข้าสู่อ.เมือง และจากอ.เมือง เข้าสู่อ.ละอุ่น
นายไพบูลย์ เอี่ยมสุวรรณ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาระนอง แจ้งเตือนบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ทางน้ำและเชิงเขา ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากและดินเลื่อนไหล ส่วนรถที่สัญจรลัดเลาะไหล่เขา ให้ระวังอันตรายจากดินเลื่อนไหลลงบนผิวการจราจรเช่นกัน
จ.พังงา ชายหาดบ้านปากวีป หมู่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ถูกน้ำทะเลซัดชายหาดจนร้านอาหารกว่า 30 ร้านต้องขนของหนีและต้องปิดร้าน เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่กล้าที่มานั่งรับประทานอาหาร ขณะที่ผู้ประกอบกาช่วยกันตักทรายใส่กระสอบทำแนวกันคลื่นบริเวณที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ
นอกจากนี้น้ำทะเลที่หนุนสูง ส่งผลกระทบต่อเรือข้ามฟากบ้านน้ำเค็ม-เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ต้องนำเรือเข้าไปจอดในคลองบางม่วงเพื่อหลบคลื่นลมและน้ำที่ไหลเชี่ยว เช่นเดียวดับเรือประมงที่ไม่กล้าเข้าเทียบท่า เพราะเกรงว่าคลื่นจะซัดตัวเรือกระแทกกับท่าเรือจนเสียหาย ต้องนำเรือไปจอดในคลอ โดยล่าสุดกระแสคลื่นที่รุนแรง กัดเซาะชายด้านทิศตะวันตกของจ.พังงา เสียหายเป็นแนวยาวกว่า 35 กิโลเมตร ต้นสน ต้นมะพร้าวถูกคลื่นกัดเซาะล้มลงจำนวนมาก
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชนในจ.ระนอง โดยประชาชนขอความช่วยเหลือที่ โทร. 075-383-405
ทั้งนี้ มีประกาศเตือนภัย 3 หมู่บ้านต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เนื่องจากมีปริมาณฝน 127.5 มิลลิเมตร(มม.) ได้แก่ บ้านบางขุนแพ่ง บ้านบางใหญ่ และบ้านคอกช้าง ขณะที่จ.เชียงราย ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง ปริมาณน้ำฝน 111 มม. เตือนภัยน้ำหลากดินถล่มระดับเฝ้าระวัง 6 หมู่บ้าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น อ.วังสะพุง จ.เลย และอ.เมือง จ.ระนอง
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 13-19 กรกฎาคม คาดหมายช่วงวันที่ 13-14 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนาม และอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ยังคงมีฝนตก และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ช่วงวันที่ 15-16 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลงด้วย แต่บริเวณทะเลอันดามันยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 17-19 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้นอีก ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง และอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงขึ้นด้วย
ข้อควรระวังช่วงวันที่ 13-14 และ 17-18 กรกฎาคม ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย.
วานนี้ (13 ก.ค.) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ตั้งแต่คืนวันที่ 13 กรกฎาคม จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 13 กรกฎาคม ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม โดยที่จ.เชียงราย บ้านถ้ำผาตอง หมู่ 6 ต.ท่าสุด อ.เมือง น้ำจากเทือกเขานางแล ไหลลงสู่ลำธารจนเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนริมฝั่งประมาณ 50 หลัง และถนนภายในหมู่บ้าน สูงประมาณ 30 เซนติเมตร(ซม.) ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวกันโกลาหล นอกจากยังเข้าท่วมบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย หลายหมู่บ้านในต.นางแล เนื่องจากน้ำถูกถนนพหลโยธิน ช่วงเชียงราย-แม่จัน ขวางทางน้ำไว้ ส่วนที่ต.ท่าสุด ลำห้วยในหมู่บ้านห้วยพลู หน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประมาณ 30 หลัง ระดับน้ำ 30-60 ซม. นอกจากนี้ยังท่วมผิวถนนพหลโยธิน หน้ามหาวิทยาลัยฝั่งตะวันตก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตำรวจต้องปิดช่องทางขาขึ้นสองช่อง และให้รถแล่นสวนทางกันอีกฝั่งใน 2 ช่องทาง
ขณะเดียวกัน ที่จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้น เมื่อดินถล่มลงมาทับเรือนแถว ริมถนนทางไปโรงแรมเรจิน่า แอนด์ กอล์ฟ คลับ ห่างจากพรมแดนแม่สาย-เมียนมาร์ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อดินถล่มลงมาทับเรือนแถวทั้ง 5 ห้อง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน เป็นคู่สามี-ภรรยากัน 2 คู่ เด็กชาย 2 คน และหญิง 1 คน ซึ่งผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็กจัดรถแบ็คโฮเข้าไปขุดตัก และจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยค้นตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้าสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้ โดยแต่ละรายขาดอากาศหายใจเพราะดินทับ บางรายมีบาดแผลฉกรรจ์เพราะถูกห้องพังถล่มทับ
จ.เชียงใหม่ วัดปริมาณน้ำฝนได้ 107 มิลลิเมตร ทำให้น้ำในลำน้ำฝางเพิ่มขึ้นจนล้นตลิ่งเข้าท่วม 3 ตำบลในอ.ไชยปราการ คือ ต.ศรีดงเย็น ต.ปงตำ ต.ไชยปราการ และลดลงหลังจากอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)นำรถขุดมาขุดทางระบายน้ำ โดยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จะงหวัด สาขาอ.ฝาง แจ้งเตือนอ.ฝาง และอ.แม่อาย ให้รับยมือแล้ว เนื่องจากลำน้ำฝางจะไหลผ่านก่อนลงลำน้ำกกต่อไป
จ.ระนอง น้ำในคลองทุกสายที่ไหลผ่านตัวเมืองระนอง เอ่อล้นเข้าท่วมชุมชนโรงกลวง ซึ่งมีประชาชหลายร้อยครัวเรือน เบื้องต้นประชาชนช่วยเหลือตัวเองด้วยการนำกระสอบทรายมาวางหน้าบ้านชั่วคราวก่อน นอกจากนี้น้ำยังท่วมถนนหลายสาย บางสายรถเล็กไม่สามารถผ่านได้
ที่ถนนสายรองหาดส้มแป้น-อำเภอละอุ่น หมู่ 1 ต.หาดส้มแป้น อ.เมือง เกิดดินภูเขาสไลด์ลงมา ทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่น 3 ต้น ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 ครัว รถสัญจรได้ 1 ช่องทาง ยกเว้นรถบรรทุกขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)เร่งทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน พร้อมประสานองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)หาดส้มแป้น และทางหลวงชนบทจังหวัดระนอง นำรถมาตักดินและดันต้นไม้ที่กีดขวางออกจากผิวจราจร เพื่อเปิดทางให้รถจากต.หาดส้มแป้น สัญจรเข้าสู่อ.เมือง และจากอ.เมือง เข้าสู่อ.ละอุ่น
นายไพบูลย์ เอี่ยมสุวรรณ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาระนอง แจ้งเตือนบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ทางน้ำและเชิงเขา ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากและดินเลื่อนไหล ส่วนรถที่สัญจรลัดเลาะไหล่เขา ให้ระวังอันตรายจากดินเลื่อนไหลลงบนผิวการจราจรเช่นกัน
จ.พังงา ชายหาดบ้านปากวีป หมู่ 3 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ถูกน้ำทะเลซัดชายหาดจนร้านอาหารกว่า 30 ร้านต้องขนของหนีและต้องปิดร้าน เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่กล้าที่มานั่งรับประทานอาหาร ขณะที่ผู้ประกอบกาช่วยกันตักทรายใส่กระสอบทำแนวกันคลื่นบริเวณที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ
นอกจากนี้น้ำทะเลที่หนุนสูง ส่งผลกระทบต่อเรือข้ามฟากบ้านน้ำเค็ม-เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า ต้องนำเรือเข้าไปจอดในคลองบางม่วงเพื่อหลบคลื่นลมและน้ำที่ไหลเชี่ยว เช่นเดียวดับเรือประมงที่ไม่กล้าเข้าเทียบท่า เพราะเกรงว่าคลื่นจะซัดตัวเรือกระแทกกับท่าเรือจนเสียหาย ต้องนำเรือไปจอดในคลอ โดยล่าสุดกระแสคลื่นที่รุนแรง กัดเซาะชายด้านทิศตะวันตกของจ.พังงา เสียหายเป็นแนวยาวกว่า 35 กิโลเมตร ต้นสน ต้นมะพร้าวถูกคลื่นกัดเซาะล้มลงจำนวนมาก
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 จัดกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชนในจ.ระนอง โดยประชาชนขอความช่วยเหลือที่ โทร. 075-383-405
ทั้งนี้ มีประกาศเตือนภัย 3 หมู่บ้านต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เนื่องจากมีปริมาณฝน 127.5 มิลลิเมตร(มม.) ได้แก่ บ้านบางขุนแพ่ง บ้านบางใหญ่ และบ้านคอกช้าง ขณะที่จ.เชียงราย ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง ปริมาณน้ำฝน 111 มม. เตือนภัยน้ำหลากดินถล่มระดับเฝ้าระวัง 6 หมู่บ้าน อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น อ.วังสะพุง จ.เลย และอ.เมือง จ.ระนอง
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 13-19 กรกฎาคม คาดหมายช่วงวันที่ 13-14 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนาม และอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณตอนบนของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ยังคงมีฝนตก และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ช่วงวันที่ 15-16 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลงด้วย แต่บริเวณทะเลอันดามันยังคงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ในช่วงวันที่ 17-19 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีกำลังแรงขึ้นอีก ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง และอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงขึ้นด้วย
ข้อควรระวังช่วงวันที่ 13-14 และ 17-18 กรกฎาคม ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย.