พังงา - คลื่นลมแรงสูงกว่า 3-5 เมตร กัดเซาะชายหาดเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เสียหายกว่า 17 กิโลเมตร ล่าสุด พบว่าห้องพัก เขื่อนกันคลื่นที่อยู่ริมชายหาดทรุดลงทะเล
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (10 ก.ค.) สภาพอากาศแปรปรวนและคลื่นลมแรง ทำให้พื้นที่ชายหาดเกาะคอเขา หมู่ที่ 3-4 บ้านปากเกาะ และบ้านทุ่งตึก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ในช่วงนี้พบว่า ทะเลมีคลื่นลมแรง ความสูงของคลื่นอยู่ที่ 3-5 เมตร ได้พัดเข้าหาชายฝั่งโดยเฉพาะชายหาด ส่งผลให้ที่พัก รีสอร์ต ต้นไม้ ต้นมะพร้าวที่มีขนาดใหญ่ได้ถูกคลื่นกัดเซาะ จนรากของต้นไม้ลอย
ส่งผลให้ต้นไม้ที่ขึ้นตลอดแนวชายหาดระยะทางกว่า 17 กิโลเมตร โค่นล้มลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอยู่ติดริมทะเลได้ถูกคลื่นกัดเซาะ จนทำให้โครงสร้างรากฐานของตัวอาคารมีรอยแตกร้าว บางส่วนได้ทรุดตัวเอียงลงไปในทะเล จนทำให้สะพานที่เชื่อมต่อกับบังกะโลพังเสียหาย ไม่สามารถใช้การได้ และไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวที่มาพัก ซึ่งทางผู้ประกอบการโรงแรมจึงได้ปิดปรับปรุงโรงแรมชั่วคราว
นอกจากนี้ ยังมีผนังกันคลื่นที่สร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความหนากว่า 30 เซนติเมตร ยังไม่สามารถต้านทานความแรงของกระแสคลื่นที่ซัดเข้าใส่แนวผนังกันคลื่น โดยกระแสคลื่นได้กัดเซาะจากข้างใต้แนวผนังกันคลื่นทำให้เป็นโพรง และพื้นปูนแตกร้าวทรุดตัวลงทะเล ในเบื้องต้นทางผู้ประกอบการโรงแรมได้นำตาข่ายมาขึงเป็นแนวยาวตลอดชายหาดเพื่อลดความแรงของคลื่นที่ซัดเข้ามา
นายจักษุ ลิ่มพานิช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะคอเขา กล่าวว่า ในช่วงนี้เข้าสู่ฤดูมรสุม จนทำให้มีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาชายหาดจนสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประกอบการเรือข้ามฟาก และชาวบ้านสัญจรทางเรือไปมาลำบากเนื่องกระแสคลื่นมีความแรง และเชี่ยวจนแพข้ามฟากไม่สามารถจอดได้ โดยพบว่าในปีนี้หนักกว่าทุกปี และพบว่ามีน้ำทะเลกัดเซาะเสาไฟฟ้าที่ข้ามจากบ้านน้ำเค็มไปเกาะคอเขาที่อยู่ติดริมชายหาดถูกน้ำกันเซาะ นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมที่ถูกคลื่นซัดได้รับความเสียหายหนัก โดยทาง อบต.ได้นำเสนอไปทางจังหวัดพังงา ให้มีการสร้างเขื่อนจากปากร่องบ้านน้ำเค็มเพื่อไม่ให้น้ำทะเลซัดเข้ามาฝั่งได้เลย