นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านร้องเรียนผู้รับเหมาทำถนนของเทศบาลตำบลหน้าสตน อ.หัวไทร ลักลอบขุดทรายชายหาดเพื่อตัดถนน หวั่นทำให้เกิดปัญหาคลื่นกัดเซาะชายหาดตามมา ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบการขุดทรายชายหาดด้วย เพราะเป็นพื้นสาธารณะที่มีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ
วันนี้ (28 มิ.ย.) ที่ ม.2 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านได้มารวมตัวกันบริเวณริมชายหาดซึ่งเป็นจุดที่รถแบ็กโฮของผู้รับเหมากำลังขุดทรายชายหาดเพื่อทำถนนเลียบชายหาดเป็นโครงการของเทศบาลตำบลหน้าสตน โดยชาวบ้านเรียกร้องให้ระงับโครงการไว้ก่อน เนื่องจากกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อชายหาดเนื่องจาก อ.หัวไทร มีกรณีคลื่นกัดเซาะชายหาดอย่างรุนแรง และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยเฉพาะบ้านบ้านหน้าศาล สาเหตุเนื่องจากไปสร้างโครงการบนชายหาด
ด้าน นายสมิง พิพัฒนานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านเมื่อวันที่ 27 มิ ย.ว่า มีผู้รับเหมานำรถแบ็กโฮเข้ามาขุดทรายชายหาดเพื่อทำถนนเลียบริมชายหาดในหมู่บ้าน และมีการขุดทรายชายหาดขึ้นมาถมรองพื้นเป็นฐานของถนน ขอให้ผู้ใหญ่บ้านไปตรวจสอบ เนื่องจากกังวลผลกระทบต่อชายหาด
นายสมิง กล่าวต่อว่า จึงได้เข้าไปตรวจสอบรายละเอียด และได้พูดคุยกับทางนายกเทศบาล และแจ้งให้ทราบถึงข้อกังวลที่จะเกิดคลื่นกัดเซาะชายหาดของลูกบ้าน เนื่องจากหน้ามรสุมของทุกปีกระแสคลื่นลมจะรุนแรงมาก และมีการกัดเซาะชายหาดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี พื้นที่ชายหาดในหมู่บ้านถูกกระแสคลื่นกัดเซาะหายไปในทะเลแล้วเป็นจำนวนมาก หลังจากได้พูดคุยกัน ทางนายกฯ ก็รับฟัง และนายกฯ ได้รับปากว่าจะหยุดโครงการไว้ก่อน และจะให้ผู้รับเหมาเกลี่ยทรายที่ขุดขึ้นมาถมถนนกลับไปไว้ที่เดิม
นายสมิง กล่าวเพิ่มเติมว่า ปรากฏว่า วันนี้ลูกบ้านได้มาร้องเรียนให้ทราบอีกว่าผู้รับเหมามีการขุดทรายชายหาดขึ้นมาถมถนนเหมือนเดิม ไม่ได้หยุดดำเนินการตามที่นายกฯ ได้รับปากไว้กับชาวบ้าน ชาวบ้านต้องการทราบเหตุผลว่าในเมื่อรับปากกับชาวบ้านว่าจะหยุดดำเนินการไว้ก่อนแล้วทำไมวันนี้ถึงกลับมาขุดทรายชายหาดเหมือนเดิม ทางเทศบาลฯ ต้องให้ความสำคัญต่อโครงการที่จะมีผลกระทบต่อชายหาดให้มากๆ หากเกิดคลื่นกัดเซาะแล้วจะแก้ไขไม่ได้
ด้านนายณรงค์ชัย พันธุ์รัตน์ ชาวบ้านตำบลหน้าสตน กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรณีคลื่นกัดเซาะชายหาดเป็นปัญหาที่รุนแรงมากของ อ.หัวไทร มีการใช้งบประมาณจากหลายหน่วยงานนับ 1,000 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาคลื่นกัดเซาะชายหาด แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ คลื่นยังคงกัดเซาะอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะหน้ามรสุมจะรุนแรงมาก มีผลกระทบต่อชุมชน และระบบนิเวศชายหาด
นายณรงค์ชัย กล่าวต่อว่า โครงการทำถนนเลียบชายหาดเป็นงบประมาณของเทศบาลตำบลหน้าสตน ใช้งบประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ความยาวของถนนประมาณ 900 กว่าเมตร ใช้วัสดุ 910 ลูกบาศก์คิว โดยผู้รับเหมาขุดทรายชายหาดขึ้นมาถมรองพื้นแล้วถมหินคลุก ชาวบ้านกังวลมากว่าจะไม่คุ้มประโยชน์ และจะมีผลกระทบต่อชายหาดอย่างรุนแรงในหน้ามรสุมที่กำลังมาถึง
เมื่อถึงหน้ามรสุมอีกไม่กี่วันข้างหน้ากระแสคลื่นจะกัดเซาะไม่เหลือซากถนนให้เห็นอย่างแน่นอน คนในชุมชนรู้ดีว่ากระแสคลื่นรุนแรงมาก และที่ผ่านมา หลายหน่วยงานใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อจะป้องกันกระแสคลื่นกัดเซาะชายหาด แต่ไม่สามรถที่จะหยุดกระแสคลื่นใว้ได้ และที่สำคัญหากมีการเปลี่ยนแปลงชายหาดการกัดเซาะชายหาดก็จะยิ่งรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบการขุดทรายชายหาดด้วย เพราะเป็นพื้นสาธารณะที่มีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ