หลังจากที่ คสช. ได้เข้ามาบริหารประเทศ โดยมีนโยบายเร่งด่วนออกมา เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า สถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี “ความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ ของคสช.” สวนดุสิตโพล ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,410 คน ระหว่างวันที่ 8–12ก.ค. 57 สรุปผลได้ ดังนี้
1. เรื่องที่ประชาชน “มั่นใจ”ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช. คือ อันดับ 1 การปฏิรูปประเทศ คืนความสุขให้ประชาชน 85.63% เพราะ มีแผนการทำงานที่ชัดเจน เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ และหลายฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ฯลฯ อันดับ 2 การจัดระเบียบสังคม เช่น อบายมุข ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล เป็นต้น 74.90% เพราะ มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แก้ปัญหาได้เด็ดขาด ไม่เกรงกลัวอิทธิพล ฯลฯ อันดับ 3 แก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 72.22% เพราะ คสช. ใช้อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและแก้ปัญหาการทุจริตในหลายโครงการได้อย่างเต็มที่ ฯลฯ
2.“จุดเด่น”ในการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช.ที่ประชาชนชื่นชอบ คือ อันดับ 1 การทำงานที่รวดเร็ว เด็ดขาด จริงจัง เช่น แก้ปัญหาจำนำข้าว วินรถตู้ คอรัปชั่น ฯลฯ 86.04% เพราะ สามารถแก้ไขปัญหาที่มีมานานได้อย่างรวดเร็ว ใช้อำนาจที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสม ตรงจุด ฯลฯ อันดับ 2 สามารถยุติความขัดแย้งและสลายม๊อบกลุ่มต่างๆได้ 83.95% เพราะ บ้านเมืองสงบมากขึ้น ไม่มีการชุมนุม ประท้วง หรือมีเหตุการณ์รุนแรง ฯลฯ อันดับ 3 การพูดคุย ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ 80.62% เพราะ มีการจัดรายการ ทำให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารอย่างทั่วถึง ชัดเจน และมีความเข้าใจตรงกัน ฯลฯ
3. “ความต้องการ”ที่ประชาชนอยากให้ คสช.ดำเนินการ ณ วันนี้ อย่างเร่งด่วน คือ อันดับ 1การบริหารประเทศให้มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและต่างชาติ 90.96% เพราะ อยากให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ กลับมามีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฯลฯ อันดับ 2เศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ 88.46% เพราะ ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ และกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง ฯลฯ อันดับ 3 แก้ปัญหาอาชญากรรม ภัยสังคมต่างๆ87.50% เพราะ สังคมทุกวันนี้ยังมีคดีต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ฯลฯ
4. “ความในใจ” วันนี้ที่ประชาชนอยากบอก คสช. คือ อันดับ 1 เป็นกำลังใจ ขอให้ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม เป็นกลาง 43.30% อันดับ 2ขอให้แก้ปัญหาทุกอย่างโดยเร็ว เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง 31.39% อันดับ 3เร่งแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นให้หมดไปจากสังคมไทย 19.74% อันดับ 4 อยากให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว5.57%
** ปชช.หนุนปฏิรูปเลือกตั้งของกกต.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น"นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ข้อเสนอของกกต. ต่อการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง และที่มาของส.ส. และ ส.ว." โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9 –10 ก.ค.57 จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,247 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการที่ กกต. ได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปการเลือกตั้ง ไปยัง คสช. เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตการเลือกตั้ง และการสืบทอดอำนาจของนักการเมือง
โดยจากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของกกต. ที่เสนอให้เปลี่ยนระบบการเลือกตั้งส.ส. แบบแบ่งเขต จากระบบเขตเดียวเบอร์เดียว เป็นระบบเขตใหญ่ หลายเบอร์ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.79 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวรองลงมาร้อยละ 26.70 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 12.51 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของ กกต. ที่เสนอให้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ควรมาจากกลุ่มสาขาอาชีพที่หลากหลาย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.60 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 12.11 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย ขณะที่ ร้อยละ 3.21 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ส่วนที่้้เหลือ ร้อยละ 0.08 ระบุว่า ควรยกเลิก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของกกต. ที่เสนอให้ ส.ส. มีวาระในการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ หรือ 8 ปี พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.69 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 24.14 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 3.77 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ขณะที่ ร้อยละ 0.40 ระบุว่า ควรกำหนดให้น้อยกว่านี้ หรือไม่เกิน 1 วาระ
ความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของ กกต. ที่เสนอให้ หากเมื่อมีการยุบสภา ควรให้ปลัดกระทรวง ทบวง กรม รักษาการแทนคณะรัฐมนตรี พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 66.00 ระบุ ว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 25.10 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 8.90 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ
ท้ายสุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของกกต. ที่เสนอห้ามมิให้ บุพการี บุตร บุญธรรม คู่สมรสตามกฎหมาย หรือ อดีตคู่สมรส ลงรับสมัครเลือกตั้ง เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ในคราวหรือวาระเดียวกัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.71 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 34.48 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 4.65 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ขณะที่ ร้อยละ 0.16 ระบุว่า ควรเน้นการพิจารณาประวัติของผู้สมัครเบื้องต้น และควรกำหนดให้ครอบครัวละไม่เกิน 2 คน
1. เรื่องที่ประชาชน “มั่นใจ”ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช. คือ อันดับ 1 การปฏิรูปประเทศ คืนความสุขให้ประชาชน 85.63% เพราะ มีแผนการทำงานที่ชัดเจน เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ และหลายฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ฯลฯ อันดับ 2 การจัดระเบียบสังคม เช่น อบายมุข ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล เป็นต้น 74.90% เพราะ มีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แก้ปัญหาได้เด็ดขาด ไม่เกรงกลัวอิทธิพล ฯลฯ อันดับ 3 แก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 72.22% เพราะ คสช. ใช้อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบและแก้ปัญหาการทุจริตในหลายโครงการได้อย่างเต็มที่ ฯลฯ
2.“จุดเด่น”ในการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช.ที่ประชาชนชื่นชอบ คือ อันดับ 1 การทำงานที่รวดเร็ว เด็ดขาด จริงจัง เช่น แก้ปัญหาจำนำข้าว วินรถตู้ คอรัปชั่น ฯลฯ 86.04% เพราะ สามารถแก้ไขปัญหาที่มีมานานได้อย่างรวดเร็ว ใช้อำนาจที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสม ตรงจุด ฯลฯ อันดับ 2 สามารถยุติความขัดแย้งและสลายม๊อบกลุ่มต่างๆได้ 83.95% เพราะ บ้านเมืองสงบมากขึ้น ไม่มีการชุมนุม ประท้วง หรือมีเหตุการณ์รุนแรง ฯลฯ อันดับ 3 การพูดคุย ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ 80.62% เพราะ มีการจัดรายการ ทำให้ประชาชนได้รับรู้ข่าวสารอย่างทั่วถึง ชัดเจน และมีความเข้าใจตรงกัน ฯลฯ
3. “ความต้องการ”ที่ประชาชนอยากให้ คสช.ดำเนินการ ณ วันนี้ อย่างเร่งด่วน คือ อันดับ 1การบริหารประเทศให้มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและต่างชาติ 90.96% เพราะ อยากให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ กลับมามีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฯลฯ อันดับ 2เศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ 88.46% เพราะ ส่งผลต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ และกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง ฯลฯ อันดับ 3 แก้ปัญหาอาชญากรรม ภัยสังคมต่างๆ87.50% เพราะ สังคมทุกวันนี้ยังมีคดีต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ฯลฯ
4. “ความในใจ” วันนี้ที่ประชาชนอยากบอก คสช. คือ อันดับ 1 เป็นกำลังใจ ขอให้ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม เป็นกลาง 43.30% อันดับ 2ขอให้แก้ปัญหาทุกอย่างโดยเร็ว เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง 31.39% อันดับ 3เร่งแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นให้หมดไปจากสังคมไทย 19.74% อันดับ 4 อยากให้มีการจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว5.57%
** ปชช.หนุนปฏิรูปเลือกตั้งของกกต.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น"นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "ข้อเสนอของกกต. ต่อการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง และที่มาของส.ส. และ ส.ว." โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9 –10 ก.ค.57 จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,247 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการที่ กกต. ได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปการเลือกตั้ง ไปยัง คสช. เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตการเลือกตั้ง และการสืบทอดอำนาจของนักการเมือง
โดยจากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของกกต. ที่เสนอให้เปลี่ยนระบบการเลือกตั้งส.ส. แบบแบ่งเขต จากระบบเขตเดียวเบอร์เดียว เป็นระบบเขตใหญ่ หลายเบอร์ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.79 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวรองลงมาร้อยละ 26.70 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 12.51 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของ กกต. ที่เสนอให้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ควรมาจากกลุ่มสาขาอาชีพที่หลากหลาย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 84.60 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 12.11 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย ขณะที่ ร้อยละ 3.21 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ส่วนที่้้เหลือ ร้อยละ 0.08 ระบุว่า ควรยกเลิก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของกกต. ที่เสนอให้ ส.ส. มีวาระในการดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ หรือ 8 ปี พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 71.69 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 24.14 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 3.77 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ขณะที่ ร้อยละ 0.40 ระบุว่า ควรกำหนดให้น้อยกว่านี้ หรือไม่เกิน 1 วาระ
ความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของ กกต. ที่เสนอให้ หากเมื่อมีการยุบสภา ควรให้ปลัดกระทรวง ทบวง กรม รักษาการแทนคณะรัฐมนตรี พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 66.00 ระบุ ว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 25.10 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 8.90 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ
ท้ายสุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอของกกต. ที่เสนอห้ามมิให้ บุพการี บุตร บุญธรรม คู่สมรสตามกฎหมาย หรือ อดีตคู่สมรส ลงรับสมัครเลือกตั้ง เป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ในคราวหรือวาระเดียวกัน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.71 ระบุว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รองลงมา ร้อยละ 34.48 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย และ ร้อยละ 4.65 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ขณะที่ ร้อยละ 0.16 ระบุว่า ควรเน้นการพิจารณาประวัติของผู้สมัครเบื้องต้น และควรกำหนดให้ครอบครัวละไม่เกิน 2 คน
