พศ.ยันไม่ได้บอกเลิกสัญญาเช่าแก่ผู้ค้าและชาวบ้านย่านประตูน้ำก่อนกำหนด ลั่นทำตามระเบียบ เตรียมส่งไม้ต่อให้ พศป.พิจารณาว่าควรยืดเวลาให้ผู้เช่าหรือไม่ ขณะที่ราคาประเมินที่ดินย่านประตูน้ำสูงถึง 7-8 แสนบาทต่อตารางวา ทำเลทองใจกลางเมือง
วานนี้ (8 ก.ค.) นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีมีการร้องเรียนถึงการที่สำนักงานศาสนสมบัติกลาง ไม่ต่อสัญญาเช่าให้แก่ผู้ค้าและชาวบ้านบริเวณประตูน้ำว่า ตนได้รับรายงานจากดร.อำนาจ บัวศิริ รองผอ.พศ. ว่าได้มีกลุ่มผู้ค้า และชาวบ้านย่านประตูน้ำ มาร้องทุกข์ต่อ พศ.กรณีการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ ทำไมถึงมีระยะเวลาสั้นไป เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางดร.อำนาจ ได้ชี้แจงไปว่า พศ.ก็ได้ทำตามระเบียบที่คณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) กำหนดว่าจะต้องแจ้งกับคู่สัญญาภายในกี่วัน ซึ่งกลุ่มผู้ร้องทุกข์ร้องขอให้ พศ.ช่วยพิจารณายืดระยะเวลาการบอกเลิกสัญญาได้หรือไม่ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ตนขอชี้แจงว่า พศ.ไม่มีอำนาจสามารถที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ได้ แต่ได้รับเรื่องไว้ เพื่อเสนอให้ พศป.ซึ่งมีอำนาจในการพิจารณา ดูว่า จะทำตามข้อเสนอที่ผู้ร้องทุกข์ร้องขอได้หรือไม่
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีการพูดพาดพิงว่า ทาง พศ. มีการให้ออกจากพื้นที่ก่อนหมดสัญญานั้น ทางพศ.ไม่เคยที่จะดำเนินการยกเลิกหรือให้ผู้เช่าต้องออกจากพื้นที่ก่อนหมดสัญญา โดยจะมีการแจ้งล่วงหน้าว่า สัญญาที่จะหมดอายุลงนี้ ทางพศ.จะไม่ต่อสัญญา ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของพศป. นอกจากกรณีที่ผู้เช่ากระทำผิดสัญญาที่จะทำให้บอกเลิกสัญญาได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า จะนำพื้นที่ไปทำห้างสรรพสินค้านั้น ก็ขึ้นอยู่กับสิทธิของผู้เช่ารายใหม่ว่า จะเช่าพื้นที่เพื่อทำอะไร
“ตนขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทาง พศ.ให้ผู้เช่าออกจากพื้นที่ก่อนหมดสัญญาเช่า นอกจากสัญญาเช่าหมดอายุ แล้วไม่มีการต่ออายุ จะแจ้งเตือนไปยังผู้เช่าได้รับทราบ ตนจะนำเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าว เสนอให้ พศป.พิจารณาว่า จะยืดเวลาให้แก่ผู้เช่าเดิมได้หรือไม่ การไปบอกเลิกสัญญาทั้งที่ไม่มีความผิด หรือไม่ครบสัญญาเป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้าเป็นเช่นนั้น พศ.ก็ทำผิดกฎหมาย ส่วนกรณีชุมชนที่อยู่กันมานานในพื้นที่ศาสนสมบัติกลาง ส่วนใหญ่ในขณะนี้มีปัญหาอยู่หลายแห่ง เนื่องจากเมื่อเช่ามาเป็นระยะเวลานานพอจะมีการพัฒนาหรือปรับปรุง ชาวบ้านมักจะไม่ยอมออกจากพื้นที่ อย่างเช่นที่ มีนบุรี ก็มีปัญหาหนัก เนื่องจากมีผู้เช่าแล้วนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นำไปทำร้านจำหน่ายสุรา แหล่งอบายมุข ทางพศ.ก็เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง”นายนพรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์ บริเวณสี่แยกประตูน้ำ ตรงข้ามกับประตูน้ำคอมเพล็กซ์ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งหากมีการปรับปรุงและพัฒนา โครงการจะมีมูลค่าสูง เนื่องจากอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งธุรกิจและการค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯ อีกทั้งราคาประเมินที่ดินใหม่ รอบบัญชีปี 2555-2558 ระบุว่าบริเวณประตูน้ำ ราคาประมาณ 7-8 แสนบาทต่อตารางวา และแนวโน้มจะปรับขึ้นต่อเนื่อง.
วานนี้ (8 ก.ค.) นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีมีการร้องเรียนถึงการที่สำนักงานศาสนสมบัติกลาง ไม่ต่อสัญญาเช่าให้แก่ผู้ค้าและชาวบ้านบริเวณประตูน้ำว่า ตนได้รับรายงานจากดร.อำนาจ บัวศิริ รองผอ.พศ. ว่าได้มีกลุ่มผู้ค้า และชาวบ้านย่านประตูน้ำ มาร้องทุกข์ต่อ พศ.กรณีการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ ทำไมถึงมีระยะเวลาสั้นไป เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางดร.อำนาจ ได้ชี้แจงไปว่า พศ.ก็ได้ทำตามระเบียบที่คณะกรรมการพิจารณางบประมาณศาสนสมบัติกลางประจำ (พศป.) กำหนดว่าจะต้องแจ้งกับคู่สัญญาภายในกี่วัน ซึ่งกลุ่มผู้ร้องทุกข์ร้องขอให้ พศ.ช่วยพิจารณายืดระยะเวลาการบอกเลิกสัญญาได้หรือไม่ ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ตนขอชี้แจงว่า พศ.ไม่มีอำนาจสามารถที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ได้ แต่ได้รับเรื่องไว้ เพื่อเสนอให้ พศป.ซึ่งมีอำนาจในการพิจารณา ดูว่า จะทำตามข้อเสนอที่ผู้ร้องทุกข์ร้องขอได้หรือไม่
นายนพรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีการพูดพาดพิงว่า ทาง พศ. มีการให้ออกจากพื้นที่ก่อนหมดสัญญานั้น ทางพศ.ไม่เคยที่จะดำเนินการยกเลิกหรือให้ผู้เช่าต้องออกจากพื้นที่ก่อนหมดสัญญา โดยจะมีการแจ้งล่วงหน้าว่า สัญญาที่จะหมดอายุลงนี้ ทางพศ.จะไม่ต่อสัญญา ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของพศป. นอกจากกรณีที่ผู้เช่ากระทำผิดสัญญาที่จะทำให้บอกเลิกสัญญาได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสว่า จะนำพื้นที่ไปทำห้างสรรพสินค้านั้น ก็ขึ้นอยู่กับสิทธิของผู้เช่ารายใหม่ว่า จะเช่าพื้นที่เพื่อทำอะไร
“ตนขอยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ทาง พศ.ให้ผู้เช่าออกจากพื้นที่ก่อนหมดสัญญาเช่า นอกจากสัญญาเช่าหมดอายุ แล้วไม่มีการต่ออายุ จะแจ้งเตือนไปยังผู้เช่าได้รับทราบ ตนจะนำเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าว เสนอให้ พศป.พิจารณาว่า จะยืดเวลาให้แก่ผู้เช่าเดิมได้หรือไม่ การไปบอกเลิกสัญญาทั้งที่ไม่มีความผิด หรือไม่ครบสัญญาเป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้าเป็นเช่นนั้น พศ.ก็ทำผิดกฎหมาย ส่วนกรณีชุมชนที่อยู่กันมานานในพื้นที่ศาสนสมบัติกลาง ส่วนใหญ่ในขณะนี้มีปัญหาอยู่หลายแห่ง เนื่องจากเมื่อเช่ามาเป็นระยะเวลานานพอจะมีการพัฒนาหรือปรับปรุง ชาวบ้านมักจะไม่ยอมออกจากพื้นที่ อย่างเช่นที่ มีนบุรี ก็มีปัญหาหนัก เนื่องจากมีผู้เช่าแล้วนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นำไปทำร้านจำหน่ายสุรา แหล่งอบายมุข ทางพศ.ก็เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง”นายนพรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ตั้งของอาคารพาณิชย์ บริเวณสี่แยกประตูน้ำ ตรงข้ามกับประตูน้ำคอมเพล็กซ์ โดยมีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ซึ่งหากมีการปรับปรุงและพัฒนา โครงการจะมีมูลค่าสูง เนื่องจากอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งธุรกิจและการค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯ อีกทั้งราคาประเมินที่ดินใหม่ รอบบัญชีปี 2555-2558 ระบุว่าบริเวณประตูน้ำ ราคาประมาณ 7-8 แสนบาทต่อตารางวา และแนวโน้มจะปรับขึ้นต่อเนื่อง.
