วานนี้ (8 ก.ค.) นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมการจัดหางาน(กกจ.) กระทรวงแรงงาน ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับ 7- 8 ในตำแหน่งระดับหัวหน้าด่านตรวจสอบและพิจารณาอนุญาตการทำงานแรงงานต่างด้าว ของศูนย์พิสูจน์สัญชาติพม่า กัมพูชา และลาว 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ ตาก เชียงราย ระนอง จำนวน 5 ราย ได้แก่ 1. น.ส.มัณฑชา สุรินทร์ หัวหน้าด่านฯ จ.เชียงราย 2. นายชยชาติ ชูพันธ์ หัวหน้าด่านฯ จ.ตาก 3. จ่าสิบเอกโฆษิต โฆษิตกานต์ หัวหน้าด่านฯ จ.ระนอง 4. นางวรางคณา วโรตมะ หัวหน้าด่านฯ จ.สมุทรสาคร และ 5. นางยาณิน บุญมี หัวหน้าด่านฯ จ.สมุทรปราการ โดยให้มาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนักวิชาการแรงงานชำนาญการ ที่สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว กรมการจัดหางาน ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามายัง กกจ.ว่า มีการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาเรียกเก็บค่านายหน้าที่ศูนย์ฯ ทั้ง 5 แห่ง โดยบุคคลภายนอกอ้างว่าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ ของศูนย์ฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการต่อวีซ่าของแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทย โดยอัตราปกติกำหนดให้เก็บคนละ 500 บาท แต่ได้มีการเรียกเก็บเพิ่มเป็นคนละ 1,400 -1,600บาท นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนด้วยว่าข้าราชการทั้ง 5 ราย ได้รับผลประโยชน์จากการเรียกเก็บเงินดังกล่าวด้วย เพื่อให้สะดวกต่อการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ดังนั้น อธิบดี กกจ. จึงมีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการทั้ง5 ราย
ขณะเดียวกันอธิบดี กกจ. ยังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการให้บริการด่านตรวจสอบ และพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา 3 คน โดยมี น.ส.อัญชลี สินธุพันธ์ ผู้ตรวจราชการ กกจ. เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ น.ส.เพ็ญวดีรัตตกูล นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กรรมการและนายวิชิตอินทรเจริญ นิติกรชำนาญการ กรรมการและเลขานุการโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. หากพบหลักฐานมีการกระทำผิดจริงก็จะดำเนินตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเพื่อพิจารณาลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา ตามคำสั่งของ คสช. ฉบับที่ 69/2557 ที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐกำหนดมาตรการหรือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
ทั้งนี้ เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามายัง กกจ.ว่า มีการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาเรียกเก็บค่านายหน้าที่ศูนย์ฯ ทั้ง 5 แห่ง โดยบุคคลภายนอกอ้างว่าสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ ของศูนย์ฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการต่อวีซ่าของแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทย โดยอัตราปกติกำหนดให้เก็บคนละ 500 บาท แต่ได้มีการเรียกเก็บเพิ่มเป็นคนละ 1,400 -1,600บาท นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนด้วยว่าข้าราชการทั้ง 5 ราย ได้รับผลประโยชน์จากการเรียกเก็บเงินดังกล่าวด้วย เพื่อให้สะดวกต่อการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ดังนั้น อธิบดี กกจ. จึงมีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการทั้ง5 ราย
ขณะเดียวกันอธิบดี กกจ. ยังได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการให้บริการด่านตรวจสอบ และพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา 3 คน โดยมี น.ส.อัญชลี สินธุพันธ์ ผู้ตรวจราชการ กกจ. เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ น.ส.เพ็ญวดีรัตตกูล นักวิชาการแรงงานชำนาญการ กรรมการและนายวิชิตอินทรเจริญ นิติกรชำนาญการ กรรมการและเลขานุการโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. หากพบหลักฐานมีการกระทำผิดจริงก็จะดำเนินตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเพื่อพิจารณาลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา ตามคำสั่งของ คสช. ฉบับที่ 69/2557 ที่กำหนดให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐกำหนดมาตรการหรือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ
