คณะทำงานตรวจปริมาณข้าวฯ ลุยตรวจโกดังข้าวพบทุจริตอีกเพียบ "พิจิตร" ข้าวหายกว่า 5 พันตันแถมเอาข้าวท่อน ข้าวปลาย สวมแทน โดยที่อุทัยฯพบข้าวผิดสี-ข้าวหัก "นครสวรรค์" ยังไม่ถึงครึ่งของจำนวนที่ตรวจ พบพิรุธส่อทุจริตแล้ว 2 โกดัง รื้อกระสอบข้าวหอมมะลิพบซุกข้าวปลายไว้ด้านล่าง อีกโกดังเจอข้าวเน่าจนยุ่ยกลายเป็นแป้ง กระสอบเปื่อยจนข้าวไหลมากองอยู่กับพื้น ข้าวที่มีอยู่ในโกดังไม่ตรงกับบัญชี
หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเริ่มทำการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. เป็นต้นมา โดยนำร่องที่ จ.กำแพงเพชร นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา และนครศรีธรรมราช จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบโกดังในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ปรากฏว่า พบการทุจริตสารพัดรูปแบบ
จนกระทั่ง ม.ล.ปนัดดา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ที่จำเป็นต้องตรวจสอบซ้ำ เพราะการตรวจสอบที่ผ่านมาขาดความรอบคอบ และเบื้องต้นพบข้าวหายจำนวนมาก
"ที่ตัองมาตรวจโกดังข้าวกันอีกรอบ เพราะครั้งก่อนตรวจกันไว้อย่างขาดความรอบคอบ และความรับผิดชอบอันควร เหมือนกับการตรวจที่ไม่ครบกระบวนวิธี ทำจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพราะเพียงเข้าวันที่สองรอบใหม่นี้ มีทั้งข้าวหายจำนวนมาก เลขรหัสข้างกระสอบไม่ตรงกับเอกสารที่แจ้งไว้ เหมือนเป็นการเวียนเทียนข้าวหรือ "เปาเกา" คือ การนำข้าวออกจากโกดังไปเร่ขายให้โรงสี แล้วโรงสีจะซื้อข้าวเก่าส่งเข้าโกดังแทน นอกจากนั้นก็ยังมีข้าวเน่า ข้าวปลอม ไม่มีการรมยาโดยบริษัทเอกชนรับผิดชอบ บางแห่งพบข้าวร่วน ป่นจนเป็นผง รวมถึงการจัดเรียงกระสอบข้าวไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยตามหมวดหมู่ เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ทำไมระบบของประเทศชาติจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ทั้งไม่ยึดธรรมาภิบาลทางการบริหารจัดการ และสร้างความทุกข์ยากแก่พี่น้องชาวไร่ชาวนา"
โกดังพิจิตรสวมข้าวท่อนแทนข้าวขาว
วานนี้ (6 ก.ค.) ที่จังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจโกดังเก็บข้าวในพื้นที่รวม 3 แห่ง คือ แห่งแรก นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธาธรณสุข หัวหน้าชุด พร้อมด้วย พ.ท.ณที ทิมเสน รองหัวหน้าชุด ได้ทำการตรวจโกดังข้าวของ บจก.ศิริชัยอินเตอร์เทรด ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นโกดังข้าวขององค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยในโกดังแห่งนี้มีข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 214,196 กระสอบ แต่ในขณะนี้เหลือเพียง 13,123 กระสอบ โดยข้าวในโกดังแห่งนี้ ได้ขายให้กับผู้ซื้อไปแล้ว และอยู่ระหว่างการขนส่ง แต่ก็ต้องปิดเพื่อรอการตรวจสอบไว้ก่อน หลังจากที่มีคำสั่งปิดโกดังทั่วประเทศ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างข้าวไปตรวจสอบอีกครั้ง
แห่งที่ 2 เจ้าหน้าที่อีกชุดได้ไปตรวจสอบที่ คลังเก็บข้าว บจก.เคทีบีอะโกร เลขที่ 25/3 ต.หอไกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ในไซโลหมายเลข 17 ซึ่งแสดงบัญชีว่า เป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/57 จำนวน 13,986 ตัน แต่ตรวจพบเพียง 8,928 ตัน หายไปประมาณ 5 พันตัน และยังพบอีกว่า ข้าวที่เหลือทั้งหมด เป็นข้าวท่อนและข้าวปลาย แทนที่จะเป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ตามบัญชี นอกจากนั้นคณะกรรมการตรวจข้าว ยังระบุว่า น่าจะเป็นข้าวที่เก่ากว่าปี 2556/57 คล้ายกับการสวมข้าว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับแห่งที่ 3 เจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งได้ไปตรวจสอบที่ คลังเก็บข้าว ย่งฮงเส็ง หลังที่ 2 อยู่เลขที่ 58 หมู่ 8 ต.ท่าบัว อ.โพทะเล จ. พิจิตร พบว่ากองข้าว กองที่ 6 ล้ม จำนวน 2,000 กระสอบ จึงได้ทำการหยุดตรวจสอบ และให้ทำการเรียงกระสอบใหม่ และให้เจ้าหน้าที่ทหารเฝ้าโกดังไว้ก่อน และจะมาตรวจสอบซ้ำในวันที่ 7 ก.ค. อีกครั้ง
โกดังโรงสีใหญ่อุทัยฯพบพิรุธ
ในวันเดียวกันนี้ นายวิสุทธิ์ นิรัตติวงศกรณ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะทำงานตรวจสอบปริมาณข้าวและคุณภาพข้าวชุดที่ 47 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร การค้าภายในจังหวัดเข้าตรวจสอบโกดังข้าวของโรงสีพืชสุวรรณธัญญากิจ ต.หลุมเข้า อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเข้าตรวจโกดังจำนำข้าวที่ 6 ซึ่งเป็นข้าวขาว 5% รวม 18 กอง จำนวน 290,000 กระสอบ พบว่าจำนวนเป็นไปตามสัญญา
พร้อมกับสุ่มตรวจคุณภาพของข้าวสารเพื่อป้องกันการสอดไส้ ปลอมปนข้าวด้อยคุณภาพไม่ตรงตามสัญญา และการทำการทุจริต ด้วยการเฉลี่ย 7 กอง สุ่มตรวจ 1 กอง และเจาะลึกลงไปกลางกองข้าวชั้นที่ 13-15 สุ่มตรวจคุณภาพของเมล็ดข้าวสาร-เก็บตัวอย่างส่งไปยังกองทัพภาคที่ 3 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าตรงตามสัญญาหรือไม่
นครสวรรค์พบข้าวท่อนยัดไส้เต็มโกดัง
ที่ จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหาร มทบ.31 ค่ายจิรประวัติ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวที่ หจก.วุฒิชัย ทรานสปอร์ต ตั้งอยู่เลขที่ 30 ม.8 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ ซึ่งโกดังดังกล่าวมีข้าวในสต๊อกทั้งสิ้นกว่า 175,000 กระสอบ โดยเมื่อคณะทำงานได้ตรวจแถวข้างบริเวณรอบๆ ด้านนอกโดยวิธีการฉ่ำข้าวออกมาตรวจก็พบว่า เป็นข้าวหอมมะลิตรงตามบัญชีแต่เมื่อทำการรื้อกระสอบด้านบนออก 2 แถว แล้วนำข้าวออกมาตรวจกลับพบว่ากลายเป็นข้าวท่อน หรือข้าวปลายทั้งหมด และยังพบข้าวที่ไม่ตรงตามบัญชีที่ระบุไว้เกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งอายัดข้าวทั้ง 175,000 กระสอบไว้ โดยทหารทำการใส่กุญแจล็อกโกดังดังกล่าวไว้เพื่อรอการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
นอกจากนี้ ยังเข้าตรวจสอบโกดังข้าวโรงสียางตาล หลังที่ 4 เลขที่ 57/1 หมู่ 7 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ เมื่อเปิดโกดังพบว่าเป็นโกดังเก็บข้าวหอมปทุม ที่รับจำนำไว้ตั้งแต่ปี 51 จำนวน 911 กระสอบ พบข้าวที่อยู่ในสภาพที่เน่าจนยุ่ยกลายเป็นแป้งไปหมด กระสอบเปื่อยจนข้าวไหลมากองอยู่กับพื้นเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งอายัดไว้ตรวจสอบอีกเช่นกัน โดยคณะผู้ทำงานทำการเก็บตัวอย่างข้าวทั้งหมดส่งเข้ายังส่วนกลาง เพื่อตรวจสอบคุณภาพของข้าวว่าตรงตามบัญชีหรือไม่ หากพบการทุจริตเกิดขึ้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิด หรือมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
อย่างไรก็ตาม วานนี้ เจ้าหน้าที่ทหารยังคงเดินหน้าออกตรวจโกดังเก็บข้าวต่อเนื่องอีก 6 โกดัง เน้นตรวจสอบคุณภาพข้าว และตรวจข้าวว่าตรงตามบัญชีหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ สำหรับการตรวจโกดังเก็บข้าวในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ที่มีอยู่จำนวน 244 โกดัง ล่าสุดตรวจไปแล้ว 45 โกดังพบพิรุธ 2 โกดังอคืออที่ อ.ลาดยาว กับ อ.โกรกพระ
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า การตรวจช่วง 3 วันที่ผ่านมาพบความผิดปกติในเรื่องสีของเมล็ด และเมล็ดข้าวที่หัก ซึ่งได้เก็บตัวอย่างส่งให้ผู้เชี่ยวตรวจอีกครั้งหนึ่งและทางเจ้าหน้าที่ อคส.ได้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลำพูน"เซอร์เวย์"ไม่มาไขกุญแจโกดัง
ที่จ.ลำพูน คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 63 นำโดย นายโอภาศ กลั่นบุศย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 63 ได้เดินทางมายังคลังสินค้ากลางเก็บรักษาข้าวสาร(เช่า) ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ซึ่งอยู่ภายในคลังสินค้าเมืองเจริญ หลังที่ 1 เลขที่ 115 หมู่ที่ 5 ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
เพื่อทำการตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพข้าวสารเหนียว ภายในคลังสินค้ากลางฯ ซึ่งเป็นการดำเนินการตรวจสอบต่อเนื่องจากวันที่ 4 ก.ค. 57 เนื่องจากทางคณะทำงานฯ ได้ตรวจสอบพบว่า มีข้าวสารไม่ตรงตามชนิดที่แจ้งไว้ตามบัญชี คณะทำงานฯ จึงได้มีมติให้ทำการผ่ากองข้าวสาร เพื่อคัดแยก และตรวจสอบการนับใหม่ให้ชัดเจน ซึ่งทางคณะทำงานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว ได้ทราบร่วมกันแล้ว
ดังนั้นทางคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 63 จึงได้ร่วมกับ พ.อ.บุญยืน อินกว่าง เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 7 ฐานะ ผบ.กกล.รส.พล.ร.7 สย.1 , ว่าที่ร้อยตรีสมชาย สิริชูทรัพย์ ผู้แทน ผวจ.ลำพูน , นางสุเกวรินทร์ เหล็กนาพญา การค้าภายใน จ.ลำพูน , นายประสิทธ์ ไชยมาตย์ หัวหน้าคลังสินค้า จ.ลำพูน , นายอาคม ตาลเงิน เจ้าของคลังสินค้า เพื่อร่วมกันผ่ากอง ผลปรากฏว่า คณะทำงานฯไม่สามารถเปิดประตูคลังสินค้ากลางได้ เนื่องจากผู้ถือกุญแจประตูอีก 1 ดอก คือ บ. อามานะฮ์ซุปเปอร์รินเทนเด๊นส์คอร์ปอเรชั่น จก. ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบชนิดคุณภาพข้าว และรับรองก่อนที่จะรับมอบเข้าเก็บยังคลังกลาง (เซอร์เวย์) ไม่มาทำการเปิดล็อคกุญแจประตู ทำให้คณะทำงานฯไม่สามารถเข้าดำเนินการตรวจสอบภายในคลังสินค้าดังกล่าวได้ จึงได้ไปดำเนินการแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้กับ พ.ต.ท.ดุษฎี ศรีสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.ป่าซางในเวลาต่อมา ซึ่งคลังสินค้าเมืองเจริญ หลังที่ 1 แห่งนี้ เป็นโกดังเก็บข้าวที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เปิดรับมอบข้าวเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.- 31 ต.ค.56 โดยมีปริมาณข้าวสารที่รับมอบ 3,854.6 ตัน
โกดังอุบลฯเจอปลายข้าว มอดกินเพียบ
ส่วนการตรวจนับปริมาณข้าวของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 44 ได้เปิดโกดังกลางหลังที่ 2 และที่ 4 ซึ่งใช้เก็บข้าวภายใต้การดูแลของ อคส.ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับโกดังเก็บข้าวหลังที่ 3 ของ อ.ต.ก.ในโรงสีห้างหุ้นส่วนจำกัดพรเจริญทวีโชค เลขที่ 365 หมู่ 8 ต.กุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยที่โกดังกลางทั้ง 2 หลังตามบัญชีมีการแจ้งเก็บรักษาข้าวนาปีและนาปรังประจำฤดูกาลผลิต 2555/56 ไว้จำนวน 194,625 กระสอบ โดยภาคเช้าเข้าตรวจสอบโกดังหลังที่ 4 เก็บรักษาข้าวเจ้าขาว 5% ซึ่งเป็นข้าวต้น (ข้าวเต็มเม็ด) 54,320 กระสอบ ปลายข้าว 67,241 กระสอบ
ส่วนภาคบ่ายเข้าตรวจสอบโกดังหลังที่ 2 เก็บรักษาข้าวท่อนหอมมะลิ (ข้าวหักครึ่ง) 64,860 กระสอบ ปลายข้าว 8,204 กระสอบ คณะทำงานยังใช้วิธีสุ่มเจาะลงตรงกลางกองข้าวเพื่อนับจำนวน และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอข้าวจากตรงกลางกองและรอบกอง เพื่อส่งให้ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวตรวจหาคุณภาพข้าวเป็นข้าวตรงตามกับที่ระบุไว้ในบัญชีหรือไม่
นายประสิทธิ์ สืบชนะ ประธานคณะกรรมการตรวจนับจำนวนข้าว กล่าวว่า จากการตรวจนับปริมาณข้าวที่เก็บไว้ตรงตามบัญชีไม่มีการสูญหายและข้าวบางชนิดมีน้ำหนักเกินกว่าปริมาณน้ำหนักที่แจ้งไว้ในบัญชี แต่ปัญหาคือ ปลายข้าวส่วนใหญ่ มีแมลงมอดเข้ากัดกินจำนวนมาก ซึ่งคณะทำงานจะได้แจ้งผลการตรวจสอบในวันนี้ให้ทาง คสช.รับทราบ และให้ อคส.ทำการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพิ่มเติมต่อไป
ส่วนการตรวจสอบพบข้าวที่หายไปเมื่อวันที่ 5 ก.ค.มีน้ำหนักคิดเป็น 68,749 กิโลกรัม หรือ 688 กระสอบไม่ใช่ 68,000 ตัน ตามที่มีสื่อบางสำนักเสนอข่าวแต่อย่างใด
เชื่อตรวจโกดังเจอกลโกงมหาศาล
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุพบการทุจรติข้าวหลายรูปแบบ ทั้งข้าวหายจำนวนมาก เลขรหัสข้างกระสอบไม่ตรงกับเอกสารที่แจ้งไว้ เหมือนเป็นการเวียนเทียนข้าว และมีข้าวเน่า ข้าวปลอม ไม่มีการรมยาข้าวตามสัญญา ว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะการตรวจสอบข้าวครั้งก่อนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการตรวจสอบโกดังข้าวทั่วประเทศ โดยมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ขณะนั้นเป็นที่ปรึกษา ซึ่งได้ใช้ตำรวจทั่วประเทศเข้าตรวจสอบข้าว โดยไม่มีความพร้อม ตำรวจไม่มีความรู้เฉพาะด้านเกี่ยวกับสายพันธุ์ และคุณภาพข้าว ที่สำคัญเมื่อตรวจสอบแล้วก็ไม่มีการรายงานผลการตรวจสอบต่อประชาชน
นพ.วรงค์ กล่าวว่าการตรวจสอบข้าวของรัฐฐาลยิ่งลักษณ์ ผิดกับครั้งนี้ที่คสช.ตรวจสอบโดยมีการเตรียมความพร้อม ทั้งการจัดประชุมให้ความรู้ทางเทคนิคกับคณะผู้ตรวจสอบ ที่ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงทุกกระทรวง เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้าว โดยแบ่งเป็น 100 ชุด ลงตรวจสอบทั้งในเชิงปริมาณ คือ นับจำนวนกระสอบข้าว และเชิงคุณภาพข้าว ที่มีการผ่าพิสูจน์กองข้าว เจาะกระสอบตรวจตัวอย่าง ที่ไม่ทำเฉพาะกระสอบด้านนอก อย่างที่รัฐบาลก่อนทำ ถือว่าเป็นการตรวจสอบที่คุ้มค่ากับงบประมาณ เป็นการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวระดับกลางน้ำที่สมบูรณ์ที่สุด ตั้งแต่มีการทำโครงการนี้มา
"นี่แค่เริ่มต้นตรวจสอบแค่ 2 วัน ยังพบการทุจริตมากมายขนาดนี้ หากตรวจครบทั้ง 1,800 โกดังทั่วประเทศ เชื่อว่าจะพบความผิดปกติของกลโกงในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก่อนมากมายมหาศาล ที่ต้องสูญเสียเงินงบประมาณจากภาษีประชาชนไปอย่างน่าเสียดาย" นพ.วรงค์ กล่าว
ตร.ฟันทุจริตจำนำข้าวแล้ว 2 จว.
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึง การร่วมปฏิบัติงานตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า เป็นการตรวจสอบปริมาณข้าวขาด คงเหลือ และคุณภาพข้าว ซึ่งจากการร่วมตรวจสอบที่ผ่านมา ได้ดำเนินคดีแล้ว 2 คดี คือ ที่ จ.ปทุมธานี ตรวจสอบร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 และผลการตรวจสอบพบว่า มีข้าวหายไปกว่า 90,000 กระสอบ และที่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร พบคุณภาพข้าวไม่ตรงกับที่กำหนดไว้ เนื่องจากเป็นปลายข้าว หลังการตรวจสอบได้ให้ผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
ทั้งนี้ รอง ผบ.ตร. (ปป) กล่าวถึงกรณีโครงการรับจำนำข้าวว่า สำหรับนโยบายสำคัญที่ทางคสช. ได้ดำเนินการ ในโครงการรับจำนำข้าว โดยแต่งตั้ง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ดูแลคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ซึ่งตนได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนของตำรวจ เข้าร่วมดูแล ด้านการจัดกำลังกับทุกภาคส่วน เพื่อลงไปดำเนินการตรวจสอบ โดยล่าสุด ทางคณะกรรมการได้ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจสอบข้าวในโกดัง พบข้าวหายกว่า 9 หมื่นกระสอบ จึงมีการกล่าวโทษ และสั่งการให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่ลงไปตรวจสอบเพื่อหาความชัดเจนอีกครั้ง ในวันที่ 7 ก.ค. นี้ .
หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และเริ่มทำการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. เป็นต้นมา โดยนำร่องที่ จ.กำแพงเพชร นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา และนครศรีธรรมราช จากนั้นก็เริ่มตรวจสอบโกดังในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ปรากฏว่า พบการทุจริตสารพัดรูปแบบ
จนกระทั่ง ม.ล.ปนัดดา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า ที่จำเป็นต้องตรวจสอบซ้ำ เพราะการตรวจสอบที่ผ่านมาขาดความรอบคอบ และเบื้องต้นพบข้าวหายจำนวนมาก
"ที่ตัองมาตรวจโกดังข้าวกันอีกรอบ เพราะครั้งก่อนตรวจกันไว้อย่างขาดความรอบคอบ และความรับผิดชอบอันควร เหมือนกับการตรวจที่ไม่ครบกระบวนวิธี ทำจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพราะเพียงเข้าวันที่สองรอบใหม่นี้ มีทั้งข้าวหายจำนวนมาก เลขรหัสข้างกระสอบไม่ตรงกับเอกสารที่แจ้งไว้ เหมือนเป็นการเวียนเทียนข้าวหรือ "เปาเกา" คือ การนำข้าวออกจากโกดังไปเร่ขายให้โรงสี แล้วโรงสีจะซื้อข้าวเก่าส่งเข้าโกดังแทน นอกจากนั้นก็ยังมีข้าวเน่า ข้าวปลอม ไม่มีการรมยาโดยบริษัทเอกชนรับผิดชอบ บางแห่งพบข้าวร่วน ป่นจนเป็นผง รวมถึงการจัดเรียงกระสอบข้าวไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยตามหมวดหมู่ เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ทำไมระบบของประเทศชาติจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ ทั้งไม่ยึดธรรมาภิบาลทางการบริหารจัดการ และสร้างความทุกข์ยากแก่พี่น้องชาวไร่ชาวนา"
โกดังพิจิตรสวมข้าวท่อนแทนข้าวขาว
วานนี้ (6 ก.ค.) ที่จังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจโกดังเก็บข้าวในพื้นที่รวม 3 แห่ง คือ แห่งแรก นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธาธรณสุข หัวหน้าชุด พร้อมด้วย พ.ท.ณที ทิมเสน รองหัวหน้าชุด ได้ทำการตรวจโกดังข้าวของ บจก.ศิริชัยอินเตอร์เทรด ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองพิจิตร ซึ่งเป็นโกดังข้าวขององค์การตลาดเพื่อการเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยในโกดังแห่งนี้มีข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวน 214,196 กระสอบ แต่ในขณะนี้เหลือเพียง 13,123 กระสอบ โดยข้าวในโกดังแห่งนี้ ได้ขายให้กับผู้ซื้อไปแล้ว และอยู่ระหว่างการขนส่ง แต่ก็ต้องปิดเพื่อรอการตรวจสอบไว้ก่อน หลังจากที่มีคำสั่งปิดโกดังทั่วประเทศ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างข้าวไปตรวจสอบอีกครั้ง
แห่งที่ 2 เจ้าหน้าที่อีกชุดได้ไปตรวจสอบที่ คลังเก็บข้าว บจก.เคทีบีอะโกร เลขที่ 25/3 ต.หอไกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ในไซโลหมายเลข 17 ซึ่งแสดงบัญชีว่า เป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ เป็นข้าวในโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/57 จำนวน 13,986 ตัน แต่ตรวจพบเพียง 8,928 ตัน หายไปประมาณ 5 พันตัน และยังพบอีกว่า ข้าวที่เหลือทั้งหมด เป็นข้าวท่อนและข้าวปลาย แทนที่จะเป็นข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ตามบัญชี นอกจากนั้นคณะกรรมการตรวจข้าว ยังระบุว่า น่าจะเป็นข้าวที่เก่ากว่าปี 2556/57 คล้ายกับการสวมข้าว ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับแห่งที่ 3 เจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งได้ไปตรวจสอบที่ คลังเก็บข้าว ย่งฮงเส็ง หลังที่ 2 อยู่เลขที่ 58 หมู่ 8 ต.ท่าบัว อ.โพทะเล จ. พิจิตร พบว่ากองข้าว กองที่ 6 ล้ม จำนวน 2,000 กระสอบ จึงได้ทำการหยุดตรวจสอบ และให้ทำการเรียงกระสอบใหม่ และให้เจ้าหน้าที่ทหารเฝ้าโกดังไว้ก่อน และจะมาตรวจสอบซ้ำในวันที่ 7 ก.ค. อีกครั้ง
โกดังโรงสีใหญ่อุทัยฯพบพิรุธ
ในวันเดียวกันนี้ นายวิสุทธิ์ นิรัตติวงศกรณ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะทำงานตรวจสอบปริมาณข้าวและคุณภาพข้าวชุดที่ 47 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร การค้าภายในจังหวัดเข้าตรวจสอบโกดังข้าวของโรงสีพืชสุวรรณธัญญากิจ ต.หลุมเข้า อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเข้าตรวจโกดังจำนำข้าวที่ 6 ซึ่งเป็นข้าวขาว 5% รวม 18 กอง จำนวน 290,000 กระสอบ พบว่าจำนวนเป็นไปตามสัญญา
พร้อมกับสุ่มตรวจคุณภาพของข้าวสารเพื่อป้องกันการสอดไส้ ปลอมปนข้าวด้อยคุณภาพไม่ตรงตามสัญญา และการทำการทุจริต ด้วยการเฉลี่ย 7 กอง สุ่มตรวจ 1 กอง และเจาะลึกลงไปกลางกองข้าวชั้นที่ 13-15 สุ่มตรวจคุณภาพของเมล็ดข้าวสาร-เก็บตัวอย่างส่งไปยังกองทัพภาคที่ 3 เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าตรงตามสัญญาหรือไม่
นครสวรรค์พบข้าวท่อนยัดไส้เต็มโกดัง
ที่ จ.นครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหาร มทบ.31 ค่ายจิรประวัติ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวที่ หจก.วุฒิชัย ทรานสปอร์ต ตั้งอยู่เลขที่ 30 ม.8 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ ซึ่งโกดังดังกล่าวมีข้าวในสต๊อกทั้งสิ้นกว่า 175,000 กระสอบ โดยเมื่อคณะทำงานได้ตรวจแถวข้างบริเวณรอบๆ ด้านนอกโดยวิธีการฉ่ำข้าวออกมาตรวจก็พบว่า เป็นข้าวหอมมะลิตรงตามบัญชีแต่เมื่อทำการรื้อกระสอบด้านบนออก 2 แถว แล้วนำข้าวออกมาตรวจกลับพบว่ากลายเป็นข้าวท่อน หรือข้าวปลายทั้งหมด และยังพบข้าวที่ไม่ตรงตามบัญชีที่ระบุไว้เกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งอายัดข้าวทั้ง 175,000 กระสอบไว้ โดยทหารทำการใส่กุญแจล็อกโกดังดังกล่าวไว้เพื่อรอการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
นอกจากนี้ ยังเข้าตรวจสอบโกดังข้าวโรงสียางตาล หลังที่ 4 เลขที่ 57/1 หมู่ 7 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ เมื่อเปิดโกดังพบว่าเป็นโกดังเก็บข้าวหอมปทุม ที่รับจำนำไว้ตั้งแต่ปี 51 จำนวน 911 กระสอบ พบข้าวที่อยู่ในสภาพที่เน่าจนยุ่ยกลายเป็นแป้งไปหมด กระสอบเปื่อยจนข้าวไหลมากองอยู่กับพื้นเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งอายัดไว้ตรวจสอบอีกเช่นกัน โดยคณะผู้ทำงานทำการเก็บตัวอย่างข้าวทั้งหมดส่งเข้ายังส่วนกลาง เพื่อตรวจสอบคุณภาพของข้าวว่าตรงตามบัญชีหรือไม่ หากพบการทุจริตเกิดขึ้นจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิด หรือมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
อย่างไรก็ตาม วานนี้ เจ้าหน้าที่ทหารยังคงเดินหน้าออกตรวจโกดังเก็บข้าวต่อเนื่องอีก 6 โกดัง เน้นตรวจสอบคุณภาพข้าว และตรวจข้าวว่าตรงตามบัญชีหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ สำหรับการตรวจโกดังเก็บข้าวในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ที่มีอยู่จำนวน 244 โกดัง ล่าสุดตรวจไปแล้ว 45 โกดังพบพิรุธ 2 โกดังอคืออที่ อ.ลาดยาว กับ อ.โกรกพระ
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า การตรวจช่วง 3 วันที่ผ่านมาพบความผิดปกติในเรื่องสีของเมล็ด และเมล็ดข้าวที่หัก ซึ่งได้เก็บตัวอย่างส่งให้ผู้เชี่ยวตรวจอีกครั้งหนึ่งและทางเจ้าหน้าที่ อคส.ได้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลำพูน"เซอร์เวย์"ไม่มาไขกุญแจโกดัง
ที่จ.ลำพูน คณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 63 นำโดย นายโอภาศ กลั่นบุศย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 63 ได้เดินทางมายังคลังสินค้ากลางเก็บรักษาข้าวสาร(เช่า) ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ซึ่งอยู่ภายในคลังสินค้าเมืองเจริญ หลังที่ 1 เลขที่ 115 หมู่ที่ 5 ต.ม่วงน้อย อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
เพื่อทำการตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพข้าวสารเหนียว ภายในคลังสินค้ากลางฯ ซึ่งเป็นการดำเนินการตรวจสอบต่อเนื่องจากวันที่ 4 ก.ค. 57 เนื่องจากทางคณะทำงานฯ ได้ตรวจสอบพบว่า มีข้าวสารไม่ตรงตามชนิดที่แจ้งไว้ตามบัญชี คณะทำงานฯ จึงได้มีมติให้ทำการผ่ากองข้าวสาร เพื่อคัดแยก และตรวจสอบการนับใหม่ให้ชัดเจน ซึ่งทางคณะทำงานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว ได้ทราบร่วมกันแล้ว
ดังนั้นทางคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 63 จึงได้ร่วมกับ พ.อ.บุญยืน อินกว่าง เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 7 ฐานะ ผบ.กกล.รส.พล.ร.7 สย.1 , ว่าที่ร้อยตรีสมชาย สิริชูทรัพย์ ผู้แทน ผวจ.ลำพูน , นางสุเกวรินทร์ เหล็กนาพญา การค้าภายใน จ.ลำพูน , นายประสิทธ์ ไชยมาตย์ หัวหน้าคลังสินค้า จ.ลำพูน , นายอาคม ตาลเงิน เจ้าของคลังสินค้า เพื่อร่วมกันผ่ากอง ผลปรากฏว่า คณะทำงานฯไม่สามารถเปิดประตูคลังสินค้ากลางได้ เนื่องจากผู้ถือกุญแจประตูอีก 1 ดอก คือ บ. อามานะฮ์ซุปเปอร์รินเทนเด๊นส์คอร์ปอเรชั่น จก. ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบชนิดคุณภาพข้าว และรับรองก่อนที่จะรับมอบเข้าเก็บยังคลังกลาง (เซอร์เวย์) ไม่มาทำการเปิดล็อคกุญแจประตู ทำให้คณะทำงานฯไม่สามารถเข้าดำเนินการตรวจสอบภายในคลังสินค้าดังกล่าวได้ จึงได้ไปดำเนินการแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้กับ พ.ต.ท.ดุษฎี ศรีสุวรรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.ป่าซางในเวลาต่อมา ซึ่งคลังสินค้าเมืองเจริญ หลังที่ 1 แห่งนี้ เป็นโกดังเก็บข้าวที่ได้เข้าร่วมโครงการฯ กับองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เปิดรับมอบข้าวเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.- 31 ต.ค.56 โดยมีปริมาณข้าวสารที่รับมอบ 3,854.6 ตัน
โกดังอุบลฯเจอปลายข้าว มอดกินเพียบ
ส่วนการตรวจนับปริมาณข้าวของคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 44 ได้เปิดโกดังกลางหลังที่ 2 และที่ 4 ซึ่งใช้เก็บข้าวภายใต้การดูแลของ อคส.ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับโกดังเก็บข้าวหลังที่ 3 ของ อ.ต.ก.ในโรงสีห้างหุ้นส่วนจำกัดพรเจริญทวีโชค เลขที่ 365 หมู่ 8 ต.กุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยที่โกดังกลางทั้ง 2 หลังตามบัญชีมีการแจ้งเก็บรักษาข้าวนาปีและนาปรังประจำฤดูกาลผลิต 2555/56 ไว้จำนวน 194,625 กระสอบ โดยภาคเช้าเข้าตรวจสอบโกดังหลังที่ 4 เก็บรักษาข้าวเจ้าขาว 5% ซึ่งเป็นข้าวต้น (ข้าวเต็มเม็ด) 54,320 กระสอบ ปลายข้าว 67,241 กระสอบ
ส่วนภาคบ่ายเข้าตรวจสอบโกดังหลังที่ 2 เก็บรักษาข้าวท่อนหอมมะลิ (ข้าวหักครึ่ง) 64,860 กระสอบ ปลายข้าว 8,204 กระสอบ คณะทำงานยังใช้วิธีสุ่มเจาะลงตรงกลางกองข้าวเพื่อนับจำนวน และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอข้าวจากตรงกลางกองและรอบกอง เพื่อส่งให้ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวตรวจหาคุณภาพข้าวเป็นข้าวตรงตามกับที่ระบุไว้ในบัญชีหรือไม่
นายประสิทธิ์ สืบชนะ ประธานคณะกรรมการตรวจนับจำนวนข้าว กล่าวว่า จากการตรวจนับปริมาณข้าวที่เก็บไว้ตรงตามบัญชีไม่มีการสูญหายและข้าวบางชนิดมีน้ำหนักเกินกว่าปริมาณน้ำหนักที่แจ้งไว้ในบัญชี แต่ปัญหาคือ ปลายข้าวส่วนใหญ่ มีแมลงมอดเข้ากัดกินจำนวนมาก ซึ่งคณะทำงานจะได้แจ้งผลการตรวจสอบในวันนี้ให้ทาง คสช.รับทราบ และให้ อคส.ทำการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงเพิ่มเติมต่อไป
ส่วนการตรวจสอบพบข้าวที่หายไปเมื่อวันที่ 5 ก.ค.มีน้ำหนักคิดเป็น 68,749 กิโลกรัม หรือ 688 กระสอบไม่ใช่ 68,000 ตัน ตามที่มีสื่อบางสำนักเสนอข่าวแต่อย่างใด
เชื่อตรวจโกดังเจอกลโกงมหาศาล
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุพบการทุจรติข้าวหลายรูปแบบ ทั้งข้าวหายจำนวนมาก เลขรหัสข้างกระสอบไม่ตรงกับเอกสารที่แจ้งไว้ เหมือนเป็นการเวียนเทียนข้าว และมีข้าวเน่า ข้าวปลอม ไม่มีการรมยาข้าวตามสัญญา ว่า ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะการตรวจสอบข้าวครั้งก่อนรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการตรวจสอบโกดังข้าวทั่วประเทศ โดยมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ขณะนั้นเป็นที่ปรึกษา ซึ่งได้ใช้ตำรวจทั่วประเทศเข้าตรวจสอบข้าว โดยไม่มีความพร้อม ตำรวจไม่มีความรู้เฉพาะด้านเกี่ยวกับสายพันธุ์ และคุณภาพข้าว ที่สำคัญเมื่อตรวจสอบแล้วก็ไม่มีการรายงานผลการตรวจสอบต่อประชาชน
นพ.วรงค์ กล่าวว่าการตรวจสอบข้าวของรัฐฐาลยิ่งลักษณ์ ผิดกับครั้งนี้ที่คสช.ตรวจสอบโดยมีการเตรียมความพร้อม ทั้งการจัดประชุมให้ความรู้ทางเทคนิคกับคณะผู้ตรวจสอบ ที่ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงทุกกระทรวง เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้าว โดยแบ่งเป็น 100 ชุด ลงตรวจสอบทั้งในเชิงปริมาณ คือ นับจำนวนกระสอบข้าว และเชิงคุณภาพข้าว ที่มีการผ่าพิสูจน์กองข้าว เจาะกระสอบตรวจตัวอย่าง ที่ไม่ทำเฉพาะกระสอบด้านนอก อย่างที่รัฐบาลก่อนทำ ถือว่าเป็นการตรวจสอบที่คุ้มค่ากับงบประมาณ เป็นการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวระดับกลางน้ำที่สมบูรณ์ที่สุด ตั้งแต่มีการทำโครงการนี้มา
"นี่แค่เริ่มต้นตรวจสอบแค่ 2 วัน ยังพบการทุจริตมากมายขนาดนี้ หากตรวจครบทั้ง 1,800 โกดังทั่วประเทศ เชื่อว่าจะพบความผิดปกติของกลโกงในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก่อนมากมายมหาศาล ที่ต้องสูญเสียเงินงบประมาณจากภาษีประชาชนไปอย่างน่าเสียดาย" นพ.วรงค์ กล่าว
ตร.ฟันทุจริตจำนำข้าวแล้ว 2 จว.
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึง การร่วมปฏิบัติงานตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า เป็นการตรวจสอบปริมาณข้าวขาด คงเหลือ และคุณภาพข้าว ซึ่งจากการร่วมตรวจสอบที่ผ่านมา ได้ดำเนินคดีแล้ว 2 คดี คือ ที่ จ.ปทุมธานี ตรวจสอบร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 และผลการตรวจสอบพบว่า มีข้าวหายไปกว่า 90,000 กระสอบ และที่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร พบคุณภาพข้าวไม่ตรงกับที่กำหนดไว้ เนื่องจากเป็นปลายข้าว หลังการตรวจสอบได้ให้ผู้ว่าราชการ จ.พิจิตร ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป
ทั้งนี้ รอง ผบ.ตร. (ปป) กล่าวถึงกรณีโครงการรับจำนำข้าวว่า สำหรับนโยบายสำคัญที่ทางคสช. ได้ดำเนินการ ในโครงการรับจำนำข้าว โดยแต่งตั้ง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ดูแลคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ซึ่งตนได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนของตำรวจ เข้าร่วมดูแล ด้านการจัดกำลังกับทุกภาคส่วน เพื่อลงไปดำเนินการตรวจสอบ โดยล่าสุด ทางคณะกรรมการได้ลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจสอบข้าวในโกดัง พบข้าวหายกว่า 9 หมื่นกระสอบ จึงมีการกล่าวโทษ และสั่งการให้พนักงานสอบสวนในพื้นที่ลงไปตรวจสอบเพื่อหาความชัดเจนอีกครั้ง ในวันที่ 7 ก.ค. นี้ .