เวลา 13.00 น. วานนี้ ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เป็นประธาน ในการประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบการใช้บริการขนส่งสาธารณะรับจ้าง รถจักรยานยนต์ รถตู้ รถอท็กซี่ โดยมีกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) กองพลที่ 1รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) มณฑลทหารบกที่11 (มทบ.11) ในฐานะหน่วยรับผิดชอบ
หลังจากนั้น พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารทั้งสามประเภท เป็นปัญหาที่เกิดมากว่าสิบปีแล้ว และได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในเรื่องการใช้บริการ ความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งในที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ยานพาหนะทั้งสามประเภทที่ถูกกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการต่อไป ส่วนที่ไม่ถูกกฎหมายหรือรถเถื่อน ทั่งสามประเภทนั้น ทางพล.ท.ธีรชัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะอนุญาตให้ดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายให้เข้าไปอยู่ในระบบ คือ รถป้ายดำ ป้ายฟ้า ต้องไปทำเป็นป้ายเหลือง ส่วนคนขับจะต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกรมการขนส่ง คือต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามประเภทที่สอง ซึ่งไม่ใช่ใบขับขี่ส่วนบุคคล โดยทางพล.ท.ธีรชัย ได้ให้เวลาไปดำเนินการให้เรียบร้อย แต่ถ้ารถประเภทใดยังทำไม่ถูกต้องตามที่กำหนด ก็จะให้หยุดวิ่งทันที
ส่วนการจัดระเบียบรถแท็กซี่ ที่มีปัญหาปล่อยผู้โดยสารกลางทาง รวมถึงการปฏิเสธรับผู้โดยสาร ซึ่งในที่ประชุมได้มีการพูดคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการที่จะพิจารณาหาทางออก นอกจากนี้ จะต้องไปสรุปยอดให้ได้ว่า แท็กซี่ป้ายเหลืองและ แท็กซี่ป้ายดำ ที่ต้องนำเข้าระบบ ในกทม. มีจำนวนเท่าไร
สำหรับการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์ มีปัญหาในเรื่องความไม่ปลอดภัย รวมถึงการเรียกเก็บค่าโดยสารแพง และเสื้อวินที่มีราคาแพง ทางพล.ท.ธีรชัย ให้ได้เวลา15 วัน ในการแก้ไขปัญหาเสื้อวินที่มีราคาสูงเกือบแสนบาท จะต้องหมดไป
"พล.ท.ธีรชัย สั่งการว่าใน 15 วัน ให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบไปสำรวจทุก ตรอก ซอก ซอย ว่าจยย.รับจ้างมีอยู่เท่าไร และต้องเสียเงินค่าเสื้อวินคนละเท่าไร รวมถึงไปดูว่าเป็นวิน จยย.ของใคร ใครเป็นผู้เรียกเก็บเงิน พร้อมทั้งให้จยย.ไปลงทะเบียนกับกรมการขนส่ง เพื่อให้เป็นรถรับจ้างสาธารณะ และไม่จำเป็นต้องไปซื้อเสื้อวินที่มีราคาแพง และเมื่อจยย.ไม่ต้องซื้อเสื้อวิน ก็จะทำให้ค่าโดยสารปรับลดตาม " พล.ต.วราห์ กล่าว
ทั้งนี้ จะให้กรมการขนส่งทางบกไปพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกทม. พร้อมทั้งแจงให้สมาคมรถจักรยานยนต์ทราบต่อไป ส่วนจะถึงขั้นต้องโละเสื้อวินทั้งหมด และทำใหม่หรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการศึกษาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพราะเป้าหมายคือ ต้องการลดราคาเสื้อวิน ที่มีราคาสูง
พล.ต.วราห์ กล่าวว่าการจัดระเบียบรถตู้นั้น มีปัญหาหมักหมมมานาน และพบว่า รถตู้สี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งนี้อยากจะให้ไปทำถูกต้อง ถูกประเภท รวมถึงจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ผู้โดยสารไม่เกินสิบหน้าคน โดยรถยนต์จะมีอายุการใช้งานไม่เกินสิบปีทั้งนี้ในที่ประชุมยังได้มีแนวคิดว่าในพื้นที่ กทม.ไม่ควรให้รถตู้ที่วิ่งต่างจังหวัดเข้าไม่ในพื้นที่ด้านในตัวเมือง ซึ่งตามพรบ.ระบุไว้ว่าจะต้องอยู่บริเวณชานเมือง คือ หมอชิต สายใต้ และเอกมัย แต่ที่ผ่านมามีการผ่อนปรน ซึ่งต่อไปจะต้องดำเนินการในแนวทางดังกล่าว
**ลงพื้นที่จัดระเบียบรถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯ
ด้าน พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหาร จ.สระบุรี ในฐานะผู้รับผิดชอบในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารรอบพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และผู้ประกอบการรถตู้โดยสารอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อดูแลความเรียบร้อย การจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งเริ่มจัดระเบียบเป็นวันแรก พบว่ารถตู้โดยสารทุกวินให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยนำรถไปจอดบริเวณแอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสัน แล้ว วนมารับผู้โดยสารที่จุดจอดเดิม โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มีด้วยกัน 4 จุด ประกอบด้วย เกาะพญาไท เกาะดินแดง เกาะราชวิถี และ เกาะ พหลโยธิน ซึ่งในส่วนของการจัดระเบียบผู้โดยสารนั้น จะมีการย้ายจุดที่ผู้โดยสารรอรถตู้ มาอยู่ในจุดที่ไม่กีดขวางทางเดินของผู้ที่สัญจรไปมา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้โดยสารรถตู้เป็นอย่างดี เช่นกัน
พล.ต.ต.นิพนธ์ กล่าวว่า ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้จัดระเบียบวินรถตู้โดยสารรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และกำหนดเริ่มการจัดระเบียบ ในวันที่ 1 ก.ค. นั้น ทางตำรวจ และทหารได้ประชุมครั้งสุดท้ายกับผู้ประกอบการรถตู้หมดแล้ว โดยทุกวินยินดีให้ความร่วมมืออย่างดี
หลังจากนั้น พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารทั้งสามประเภท เป็นปัญหาที่เกิดมากว่าสิบปีแล้ว และได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในเรื่องการใช้บริการ ความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งในที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันว่า ยานพาหนะทั้งสามประเภทที่ถูกกฎหมาย ก็ให้ดำเนินการต่อไป ส่วนที่ไม่ถูกกฎหมายหรือรถเถื่อน ทั่งสามประเภทนั้น ทางพล.ท.ธีรชัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะอนุญาตให้ดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายให้เข้าไปอยู่ในระบบ คือ รถป้ายดำ ป้ายฟ้า ต้องไปทำเป็นป้ายเหลือง ส่วนคนขับจะต้องปฎิบัติตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบกรมการขนส่ง คือต้องมีใบขับขี่ที่ถูกต้องตามประเภทที่สอง ซึ่งไม่ใช่ใบขับขี่ส่วนบุคคล โดยทางพล.ท.ธีรชัย ได้ให้เวลาไปดำเนินการให้เรียบร้อย แต่ถ้ารถประเภทใดยังทำไม่ถูกต้องตามที่กำหนด ก็จะให้หยุดวิ่งทันที
ส่วนการจัดระเบียบรถแท็กซี่ ที่มีปัญหาปล่อยผู้โดยสารกลางทาง รวมถึงการปฏิเสธรับผู้โดยสาร ซึ่งในที่ประชุมได้มีการพูดคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการที่จะพิจารณาหาทางออก นอกจากนี้ จะต้องไปสรุปยอดให้ได้ว่า แท็กซี่ป้ายเหลืองและ แท็กซี่ป้ายดำ ที่ต้องนำเข้าระบบ ในกทม. มีจำนวนเท่าไร
สำหรับการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์ มีปัญหาในเรื่องความไม่ปลอดภัย รวมถึงการเรียกเก็บค่าโดยสารแพง และเสื้อวินที่มีราคาแพง ทางพล.ท.ธีรชัย ให้ได้เวลา15 วัน ในการแก้ไขปัญหาเสื้อวินที่มีราคาสูงเกือบแสนบาท จะต้องหมดไป
"พล.ท.ธีรชัย สั่งการว่าใน 15 วัน ให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบไปสำรวจทุก ตรอก ซอก ซอย ว่าจยย.รับจ้างมีอยู่เท่าไร และต้องเสียเงินค่าเสื้อวินคนละเท่าไร รวมถึงไปดูว่าเป็นวิน จยย.ของใคร ใครเป็นผู้เรียกเก็บเงิน พร้อมทั้งให้จยย.ไปลงทะเบียนกับกรมการขนส่ง เพื่อให้เป็นรถรับจ้างสาธารณะ และไม่จำเป็นต้องไปซื้อเสื้อวินที่มีราคาแพง และเมื่อจยย.ไม่ต้องซื้อเสื้อวิน ก็จะทำให้ค่าโดยสารปรับลดตาม " พล.ต.วราห์ กล่าว
ทั้งนี้ จะให้กรมการขนส่งทางบกไปพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกทม. พร้อมทั้งแจงให้สมาคมรถจักรยานยนต์ทราบต่อไป ส่วนจะถึงขั้นต้องโละเสื้อวินทั้งหมด และทำใหม่หรือไม่นั้น อยู่ในระหว่างการศึกษาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพราะเป้าหมายคือ ต้องการลดราคาเสื้อวิน ที่มีราคาสูง
พล.ต.วราห์ กล่าวว่าการจัดระเบียบรถตู้นั้น มีปัญหาหมักหมมมานาน และพบว่า รถตู้สี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใบขับขี่ที่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งนี้อยากจะให้ไปทำถูกต้อง ถูกประเภท รวมถึงจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ผู้โดยสารไม่เกินสิบหน้าคน โดยรถยนต์จะมีอายุการใช้งานไม่เกินสิบปีทั้งนี้ในที่ประชุมยังได้มีแนวคิดว่าในพื้นที่ กทม.ไม่ควรให้รถตู้ที่วิ่งต่างจังหวัดเข้าไม่ในพื้นที่ด้านในตัวเมือง ซึ่งตามพรบ.ระบุไว้ว่าจะต้องอยู่บริเวณชานเมือง คือ หมอชิต สายใต้ และเอกมัย แต่ที่ผ่านมามีการผ่อนปรน ซึ่งต่อไปจะต้องดำเนินการในแนวทางดังกล่าว
**ลงพื้นที่จัดระเบียบรถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯ
ด้าน พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหาร จ.สระบุรี ในฐานะผู้รับผิดชอบในการจัดระเบียบรถตู้โดยสารรอบพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และผู้ประกอบการรถตู้โดยสารอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ลงพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อดูแลความเรียบร้อย การจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งเริ่มจัดระเบียบเป็นวันแรก พบว่ารถตู้โดยสารทุกวินให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยนำรถไปจอดบริเวณแอร์พอร์ตลิงก์ มักกะสัน แล้ว วนมารับผู้โดยสารที่จุดจอดเดิม โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มีด้วยกัน 4 จุด ประกอบด้วย เกาะพญาไท เกาะดินแดง เกาะราชวิถี และ เกาะ พหลโยธิน ซึ่งในส่วนของการจัดระเบียบผู้โดยสารนั้น จะมีการย้ายจุดที่ผู้โดยสารรอรถตู้ มาอยู่ในจุดที่ไม่กีดขวางทางเดินของผู้ที่สัญจรไปมา ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากผู้โดยสารรถตู้เป็นอย่างดี เช่นกัน
พล.ต.ต.นิพนธ์ กล่าวว่า ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้จัดระเบียบวินรถตู้โดยสารรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และกำหนดเริ่มการจัดระเบียบ ในวันที่ 1 ก.ค. นั้น ทางตำรวจ และทหารได้ประชุมครั้งสุดท้ายกับผู้ประกอบการรถตู้หมดแล้ว โดยทุกวินยินดีให้ความร่วมมืออย่างดี
