นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยการจัดสรรเงินที่ได้รับในปีงบประมาณ 2558 จำนวน 8.2 หมื่นล้านบาท จากที่เสนอขอไป 1.8 แสนล้านบาท ว่า ส่วนหนึ่ง 2 กว่าหมื่นล้านบาท จะนำมาใช้จ่ายหนี้คืนในส่วนของดอกเบี้ยและเงินต้นบางส่วน อีกส่วนหนึ่งจะเข้ามาเป็นเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินงานปกติ
นอกจากนั้นในวันที่ 1 ก.ค.นี้ คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นประธาน จะหารือมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูการผลิตข้าวนาปี2557/2558 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาตการลดต้นทุนและดูแลสถียรภาพราคา โดยในส่วนของการลดต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับ ธ.ก.ส.นั้น จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติให้ชาวนากว่า 3 ล้านราย
แบ่งเป็นลูกค้าของธนาคารและสมาชิกของสหกรณ์ประมาณ 2 ล้านราย อีก 1 ล้านราย เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินอื่นๆ คาดส่วนนี้จะมีการขอใช้สินเชื่อปกติประมาณ 1.5 แสนล้านบาท โดยจะลดดอกเบี้ยให้ 3% ส่วนนี้จะใช้เงินงบประมาณอุดหนุนให้ระหว่าง 2- 4 พันกว่าล้านบาท ขึ้นอยูกับวงเงินที่เกษตรกรกู้ยืมระหว่าง 5 หมื่นบาท หรือ 1 แสนบาทต่อราย ระยะเวลา 6 เดือน ทำให้ต้นทุนเกษตรกรลดลงประมาณ 750 บาทต่อราย
ส่วนของมาตรการดูเสถียรภาพราคานั้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ธ.ก.ส.จะมีสินเชื่อเพือชะลอการขายผลผลิตที่คาดว่าจะมีข้าวออกมามากช่วงต้นฤดูกาลประมาณ 80%ของผลลิตรวม 2 ล้านตัน โดยจะให้เกษตรกรที่มียุ้งฉางแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกู้เสริมสภาพคล่อง เตรียมวงเงินไว้ 17,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเช่นเดียวกัน คาดชะลอการขายข้าวได้ 1.5 ล้านตัน และสินเชือที่จะให้กับสหกรณ์ชุมชนเพื่อรวบรวมผลผลิตอีก 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเก็บกักข้าวไว้ได้อีก 3 ล้านตัน ซึ่งส่วนนี้จะมีทั้งเก็บไว้รอการขายและสีเป็นข้าวสารขายเอง
“มาตรการดังกล่าว น่าจะเพียงพอในการดูแลราคาข้าวให้ปรับตัวสูงขึ้นและเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีมาตการด้านการตลาดช่วยเสริมอีกทางหนึ่งเพื่อดูแลให้ข้าวขาวอยูที่ตันละ 8.5-9 พันบาท และข้าวหอมมะลิอยู่ทีั่ตันละ 1.2-1.4 หมื่นบาท ระดับความชื้น 25% ขณะที่ต้นทุนการผลิตของชาวนาอยู่ที่ตันละ 6 พันบาท ทำให้มีกำไร ประมาณ 30-35% ซึ่งจากการสอบถามพบว่าชาวนาส่วนใหญ่ยอมรับได้ โดยถือเป็นมาตรการในระยะ 1 ปีนี้เพื่อให้เกษตรกรได้มีเวลาปรับตัวในช่วงที่ไม่มีโครงการจำนำข้าว” นายลักษณ์กล่าว
ก่อนหน้านี้ คสช.ได้อนุมัติให้ ธ.ก.ส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี 2557 โดยให้เริ่มขายประกันตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ตั้งเป้าพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ ค่าเบี้ยประกันรวม 470 ล้านบาท ตามความเสี่ยงแต่เกษตรกรจ่ายเพียง 50-90 บาทต่อไร่ โดยภาครัฐอุดหนุนส่วนหนึ่ง และ ธ.ก.ส.จ่ายแทน 10 บาทต่อไร่.
นอกจากนั้นในวันที่ 1 ก.ค.นี้ คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นประธาน จะหารือมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในฤดูการผลิตข้าวนาปี2557/2558 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาตการลดต้นทุนและดูแลสถียรภาพราคา โดยในส่วนของการลดต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับ ธ.ก.ส.นั้น จะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปกติให้ชาวนากว่า 3 ล้านราย
แบ่งเป็นลูกค้าของธนาคารและสมาชิกของสหกรณ์ประมาณ 2 ล้านราย อีก 1 ล้านราย เป็นลูกค้าของสถาบันการเงินอื่นๆ คาดส่วนนี้จะมีการขอใช้สินเชื่อปกติประมาณ 1.5 แสนล้านบาท โดยจะลดดอกเบี้ยให้ 3% ส่วนนี้จะใช้เงินงบประมาณอุดหนุนให้ระหว่าง 2- 4 พันกว่าล้านบาท ขึ้นอยูกับวงเงินที่เกษตรกรกู้ยืมระหว่าง 5 หมื่นบาท หรือ 1 แสนบาทต่อราย ระยะเวลา 6 เดือน ทำให้ต้นทุนเกษตรกรลดลงประมาณ 750 บาทต่อราย
ส่วนของมาตรการดูเสถียรภาพราคานั้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ธ.ก.ส.จะมีสินเชื่อเพือชะลอการขายผลผลิตที่คาดว่าจะมีข้าวออกมามากช่วงต้นฤดูกาลประมาณ 80%ของผลลิตรวม 2 ล้านตัน โดยจะให้เกษตรกรที่มียุ้งฉางแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือกู้เสริมสภาพคล่อง เตรียมวงเงินไว้ 17,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเช่นเดียวกัน คาดชะลอการขายข้าวได้ 1.5 ล้านตัน และสินเชือที่จะให้กับสหกรณ์ชุมชนเพื่อรวบรวมผลผลิตอีก 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเก็บกักข้าวไว้ได้อีก 3 ล้านตัน ซึ่งส่วนนี้จะมีทั้งเก็บไว้รอการขายและสีเป็นข้าวสารขายเอง
“มาตรการดังกล่าว น่าจะเพียงพอในการดูแลราคาข้าวให้ปรับตัวสูงขึ้นและเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างแท้จริง โดยกระทรวงพาณิชย์จะมีมาตการด้านการตลาดช่วยเสริมอีกทางหนึ่งเพื่อดูแลให้ข้าวขาวอยูที่ตันละ 8.5-9 พันบาท และข้าวหอมมะลิอยู่ทีั่ตันละ 1.2-1.4 หมื่นบาท ระดับความชื้น 25% ขณะที่ต้นทุนการผลิตของชาวนาอยู่ที่ตันละ 6 พันบาท ทำให้มีกำไร ประมาณ 30-35% ซึ่งจากการสอบถามพบว่าชาวนาส่วนใหญ่ยอมรับได้ โดยถือเป็นมาตรการในระยะ 1 ปีนี้เพื่อให้เกษตรกรได้มีเวลาปรับตัวในช่วงที่ไม่มีโครงการจำนำข้าว” นายลักษณ์กล่าว
ก่อนหน้านี้ คสช.ได้อนุมัติให้ ธ.ก.ส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี 2557 โดยให้เริ่มขายประกันตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ตั้งเป้าพื้นที่ 1.5 ล้านไร่ ค่าเบี้ยประกันรวม 470 ล้านบาท ตามความเสี่ยงแต่เกษตรกรจ่ายเพียง 50-90 บาทต่อไร่ โดยภาครัฐอุดหนุนส่วนหนึ่ง และ ธ.ก.ส.จ่ายแทน 10 บาทต่อไร่.
