“การพนันเป็นความหวังของคนจน แต่เป็นกีฬาของคนรวย” นี่คือวาทะของนักประพันธ์ท่านหนึ่ง ซึ่งใช้นามปากกาว่า “เทียนวรรณ”
จากนัยแห่งวาทะของนักประพันธ์ท่านนี้ ได้สะท้อนให้เห็นสัจธรรมซึ่งมีอยู่ในสังคมของปุถุชนคนหนาด้วยกิเลสว่า ในขณะที่คนรวยเล่นการพนันเป็นกีฬา คนจนเล่นหรือแม้กระทั่งดูกีฬาเป็นเครื่องมือในการพนัน
กีฬาทุกประเภทจะมีแพ้ชนะหรือเสมอ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้เล่นหรือดูคนอื่นเล่น จะนำไปเป็นเครื่องมือในการเล่นพนันขันต่อ โดยการถือคนละข้างและยึดผลของการแข่งขันเป็นตัวชี้ขาด
ทำไมคนรวยจึงเล่นการพนันเป็นกีฬา และคนจนเล่นหรือดูกีฬาเป็นการพนัน?
เกี่ยวกับเรื่องนี้ตอบได้ด้วยการดูพฤติกรรมของคนจนกับคนรวย ซึ่งต่างกันเมื่อได้และเสีย กล่าวคือ คนจนจะยินดีเมื่อได้ และยินร้ายเมื่อเสีย
แต่คนรวยไม่ยินดียินร้ายกับผลของการเล่นการพนัน จะมุ่งเพียงเพื่อให้เกิดความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจกับการเล่น
ดังนั้น การเล่นการพนันของคนรวย จึงเป็นการเล่นเพื่อการพักผ่อน ในยามที่เครียดกับงาน และที่สำคัญคนรวยจะเล่นการพนันเมื่อมีเวลาว่าง และจะเลิกเล่นเมื่อมีความจำเป็นต้องเลิก ไม่หมกมุ่นทำให้เสียงาน ทั้งเงินที่นำมาเล่นเป็นเงินส่วนเกินจากจำนวนที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการดำรงชีวิตตามปกติ ถึงจะแพ้ก็ไม่เดือดร้อน
แต่คนจนเล่นการพนันเพื่อหวังได้เงิน และเงินที่นำมาเล่นก็เป็นส่วนหนึ่งของรายได้ ซึ่งจะต้องใช้เพื่อการครองชีพของตนเอง และครอบครัว
ดังนั้น ถ้าเสียไปตนเองก็เดือดร้อน ครอบครัวก็เดือดร้อน นี่คือความต่างระหว่างคนจนและคนรวยที่เล่นการพนันอย่างเดียวกัน ซึ่งมีโอกาสแพ้และชนะพอๆ กัน แต่ผลทางจิตใจที่เกิดขึ้นต่างกัน
ด้วยเหตุนี้ การจัดให้มีการแข่งขันกีฬา แต่ป้องกันมิให้คนเล่นการพนันทำได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามมิให้คนจนเล่นการพนันเพราะเท่ากับป้องกันมิให้พวกเขามีความหวัง และในขณะเดียวกัน เท่ากับห้ามมิให้คนรวยมีความสนุกตื่นเต้นกับการดูกีฬานั่นเอง
ในขณะนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกได้จัดขึ้นในประเทศบราซิล และมีการถ่ายทอดสดมายังประเทศไทย และเชื่อว่าจะมีคนดูจำนวนมากด้วย
ดังนั้น อนุมานได้ว่าในจำนวนผู้ดูการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้มีจำนวนไม่น้อยที่เล่นการพนัน และในจำนวนนี้ก็มีคนจนอยู่ด้วย จึงคาดการณ์ได้ว่าจบการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ จะต้องมีการตามทวงหนี้และมีโอกาสจะเกิดความรุนแรงดังที่เคยเกิดมาแล้วเกือบทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ๆ
จริงอยู่ในขณะนี้ทาง คสช.กำลังเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการเล่นการพนัน จะเห็นได้จากการบุกจับกุมบ่อนการพนันและยึดอุปกรณ์เล่นการพนันได้เป็นจำนวนมาก แต่นั่นมิได้หมายความว่าจะหยุดยั้งการเล่นการพนันฟุตบอลให้หมดไปได้โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้อนุมานได้จากเหตุปัจจัยในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้
1. การเป็นเจ้ามือรับแทงผลฟุตบอล ไม่จำเป็นต้องใช้สถานที่ใหญ่โตเหมือนบ่อนไพ่ บ่อนไฮโลมีเพียงโต๊ะตัวเดียวกับคนคนเดียว พร้อมด้วยคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องก็เป็นเจ้ามือได้แล้ว
2. คนเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล ไม่จำเป็นต้องนั่งล้อมวงเหมือนเล่นไพ่ เล่นไฮโล เพียงเดินเข้าออกทีละคนสองคนก็เล่นการพนันฟุตบอลได้แล้ว
3. การจ่ายเงินแทงพนันฟุตบอล ทำได้สะดวก จะจ่ายก่อนหรือจ่ายหลังทำได้โดยการโอนผ่านธนาคาร ไม่ต้องนำเงินไปเหมือนเล่นไพ่
จากปัจจัย 3 ประการนี้ การป้องกันมิให้มีการเล่นการพนันทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลทำได้ยาก และที่สำคัญการปราบปรามให้หมดไปยิ่งทำให้ยากกว่า เนื่องจากการหาหลักฐานการพนันชนิดนี้ทำได้ยาก ขนาดบ่อนใหญ่ตั้งอยู่กลางชุมชนเมืองใหญ่ยังปราบได้ยาก นับประสาอะไรกับการเล่นการพนันที่ทำกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ในห้องหรู เช่น การเล่นพนันฟุตบอล
แต่ครั้นจะป้องกันโดยไม่ให้มีการแข่งขันกีฬาก็คงทำไม่ได้ เนื่องจากการเล่นกีฬามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย และผู้เล่นกีฬารวมไปถึงดูกีฬาก็มิได้เป็นนักการพนันทุกคน การป้องกันการเล่นการพนันด้วยการเลิกการแข่งขันกีฬา ย่อมทำไม่ได้แน่นอน
อีกประการหนึ่ง กีฬาคือการนำสัญชาตญาณในการต่อสู้ของมนุษย์มาพัฒนาให้เป็นกีฬา โดยการกำหนดให้มีกติกาในการต่อสู้ และมีผู้รักษากติกาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นการสอนให้ผู้เล่นกีฬารู้จักแพ้ รู้จักชนะ เป็นการสอนคนให้เคารพกติกา ส่วนที่มีผู้นำกีฬามาเป็นเครื่องมือในการเล่นการพนันนั้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องคอยแก้ไขกันต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม ในขั้นที่กีฬากับการพนันยังแยกกันไม่ออกในหมู่ประชาชนคนทั่วไป จึงเป็นภาระหน้าที่ของฝ่ายปกครองจะต้องป้องกัน และแก้ไขไปพร้อมๆ กันซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
1. ปลูกฝังเยาวชนให้เล่นกีฬา และดูกีฬาเป็นเกมการต่อสู้และยอมรับการแพ้ชนะว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และจังหวัดใดของผู้เข้าแข่งขันไม่ควรนำมาเป็นเครื่องมือในการพนันขันต่อ
2. ทำการปราบปรามอย่างจริงจัง และเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นการพนันอย่างจริงจัง อย่าทำเพียงการปราบปรามเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์เพิ่ม ในทำนองจับกุมเพียงเพื่อทำความรู้จัก และกำหนดราคาส่งส่วย
เพียง 2 ประการนี้เชื่อว่าถ้าทำได้ก็จะทำให้การเล่นการพนันทุกชนิดลดลงได้ แต่จะให้หมดไปคงจะยาก แต่เพียงแค่ลดมิให้คนจนเล่นการพนันเพื่อเป็นความหวังได้ก็คงจะทำให้สังคมดีขึ้นได้ในระดับหนึ่งแน่นอน ส่วนคนรวยจะเล่นเพื่อเป็นกีฬาก็คงต้องปล่อยไป
จากนัยแห่งวาทะของนักประพันธ์ท่านนี้ ได้สะท้อนให้เห็นสัจธรรมซึ่งมีอยู่ในสังคมของปุถุชนคนหนาด้วยกิเลสว่า ในขณะที่คนรวยเล่นการพนันเป็นกีฬา คนจนเล่นหรือแม้กระทั่งดูกีฬาเป็นเครื่องมือในการพนัน
กีฬาทุกประเภทจะมีแพ้ชนะหรือเสมอ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ผู้เล่นหรือดูคนอื่นเล่น จะนำไปเป็นเครื่องมือในการเล่นพนันขันต่อ โดยการถือคนละข้างและยึดผลของการแข่งขันเป็นตัวชี้ขาด
ทำไมคนรวยจึงเล่นการพนันเป็นกีฬา และคนจนเล่นหรือดูกีฬาเป็นการพนัน?
เกี่ยวกับเรื่องนี้ตอบได้ด้วยการดูพฤติกรรมของคนจนกับคนรวย ซึ่งต่างกันเมื่อได้และเสีย กล่าวคือ คนจนจะยินดีเมื่อได้ และยินร้ายเมื่อเสีย
แต่คนรวยไม่ยินดียินร้ายกับผลของการเล่นการพนัน จะมุ่งเพียงเพื่อให้เกิดความสนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจกับการเล่น
ดังนั้น การเล่นการพนันของคนรวย จึงเป็นการเล่นเพื่อการพักผ่อน ในยามที่เครียดกับงาน และที่สำคัญคนรวยจะเล่นการพนันเมื่อมีเวลาว่าง และจะเลิกเล่นเมื่อมีความจำเป็นต้องเลิก ไม่หมกมุ่นทำให้เสียงาน ทั้งเงินที่นำมาเล่นเป็นเงินส่วนเกินจากจำนวนที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการดำรงชีวิตตามปกติ ถึงจะแพ้ก็ไม่เดือดร้อน
แต่คนจนเล่นการพนันเพื่อหวังได้เงิน และเงินที่นำมาเล่นก็เป็นส่วนหนึ่งของรายได้ ซึ่งจะต้องใช้เพื่อการครองชีพของตนเอง และครอบครัว
ดังนั้น ถ้าเสียไปตนเองก็เดือดร้อน ครอบครัวก็เดือดร้อน นี่คือความต่างระหว่างคนจนและคนรวยที่เล่นการพนันอย่างเดียวกัน ซึ่งมีโอกาสแพ้และชนะพอๆ กัน แต่ผลทางจิตใจที่เกิดขึ้นต่างกัน
ด้วยเหตุนี้ การจัดให้มีการแข่งขันกีฬา แต่ป้องกันมิให้คนเล่นการพนันทำได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามมิให้คนจนเล่นการพนันเพราะเท่ากับป้องกันมิให้พวกเขามีความหวัง และในขณะเดียวกัน เท่ากับห้ามมิให้คนรวยมีความสนุกตื่นเต้นกับการดูกีฬานั่นเอง
ในขณะนี้การแข่งขันฟุตบอลโลกได้จัดขึ้นในประเทศบราซิล และมีการถ่ายทอดสดมายังประเทศไทย และเชื่อว่าจะมีคนดูจำนวนมากด้วย
ดังนั้น อนุมานได้ว่าในจำนวนผู้ดูการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้มีจำนวนไม่น้อยที่เล่นการพนัน และในจำนวนนี้ก็มีคนจนอยู่ด้วย จึงคาดการณ์ได้ว่าจบการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ จะต้องมีการตามทวงหนี้และมีโอกาสจะเกิดความรุนแรงดังที่เคยเกิดมาแล้วเกือบทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ๆ
จริงอยู่ในขณะนี้ทาง คสช.กำลังเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการเล่นการพนัน จะเห็นได้จากการบุกจับกุมบ่อนการพนันและยึดอุปกรณ์เล่นการพนันได้เป็นจำนวนมาก แต่นั่นมิได้หมายความว่าจะหยุดยั้งการเล่นการพนันฟุตบอลให้หมดไปได้โดยสิ้นเชิง ทั้งนี้อนุมานได้จากเหตุปัจจัยในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้
1. การเป็นเจ้ามือรับแทงผลฟุตบอล ไม่จำเป็นต้องใช้สถานที่ใหญ่โตเหมือนบ่อนไพ่ บ่อนไฮโลมีเพียงโต๊ะตัวเดียวกับคนคนเดียว พร้อมด้วยคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องก็เป็นเจ้ามือได้แล้ว
2. คนเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล ไม่จำเป็นต้องนั่งล้อมวงเหมือนเล่นไพ่ เล่นไฮโล เพียงเดินเข้าออกทีละคนสองคนก็เล่นการพนันฟุตบอลได้แล้ว
3. การจ่ายเงินแทงพนันฟุตบอล ทำได้สะดวก จะจ่ายก่อนหรือจ่ายหลังทำได้โดยการโอนผ่านธนาคาร ไม่ต้องนำเงินไปเหมือนเล่นไพ่
จากปัจจัย 3 ประการนี้ การป้องกันมิให้มีการเล่นการพนันทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลทำได้ยาก และที่สำคัญการปราบปรามให้หมดไปยิ่งทำให้ยากกว่า เนื่องจากการหาหลักฐานการพนันชนิดนี้ทำได้ยาก ขนาดบ่อนใหญ่ตั้งอยู่กลางชุมชนเมืองใหญ่ยังปราบได้ยาก นับประสาอะไรกับการเล่นการพนันที่ทำกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ในห้องหรู เช่น การเล่นพนันฟุตบอล
แต่ครั้นจะป้องกันโดยไม่ให้มีการแข่งขันกีฬาก็คงทำไม่ได้ เนื่องจากการเล่นกีฬามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย และผู้เล่นกีฬารวมไปถึงดูกีฬาก็มิได้เป็นนักการพนันทุกคน การป้องกันการเล่นการพนันด้วยการเลิกการแข่งขันกีฬา ย่อมทำไม่ได้แน่นอน
อีกประการหนึ่ง กีฬาคือการนำสัญชาตญาณในการต่อสู้ของมนุษย์มาพัฒนาให้เป็นกีฬา โดยการกำหนดให้มีกติกาในการต่อสู้ และมีผู้รักษากติกาเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นการสอนให้ผู้เล่นกีฬารู้จักแพ้ รู้จักชนะ เป็นการสอนคนให้เคารพกติกา ส่วนที่มีผู้นำกีฬามาเป็นเครื่องมือในการเล่นการพนันนั้น ก็เป็นเรื่องที่จะต้องคอยแก้ไขกันต่อไป
แต่อย่างไรก็ตาม ในขั้นที่กีฬากับการพนันยังแยกกันไม่ออกในหมู่ประชาชนคนทั่วไป จึงเป็นภาระหน้าที่ของฝ่ายปกครองจะต้องป้องกัน และแก้ไขไปพร้อมๆ กันซึ่งสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
1. ปลูกฝังเยาวชนให้เล่นกีฬา และดูกีฬาเป็นเกมการต่อสู้และยอมรับการแพ้ชนะว่าเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และจังหวัดใดของผู้เข้าแข่งขันไม่ควรนำมาเป็นเครื่องมือในการพนันขันต่อ
2. ทำการปราบปรามอย่างจริงจัง และเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นการพนันอย่างจริงจัง อย่าทำเพียงการปราบปรามเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์เพิ่ม ในทำนองจับกุมเพียงเพื่อทำความรู้จัก และกำหนดราคาส่งส่วย
เพียง 2 ประการนี้เชื่อว่าถ้าทำได้ก็จะทำให้การเล่นการพนันทุกชนิดลดลงได้ แต่จะให้หมดไปคงจะยาก แต่เพียงแค่ลดมิให้คนจนเล่นการพนันเพื่อเป็นความหวังได้ก็คงจะทำให้สังคมดีขึ้นได้ในระดับหนึ่งแน่นอน ส่วนคนรวยจะเล่นเพื่อเป็นกีฬาก็คงต้องปล่อยไป
