คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายที่ประเทศบราซิล ดำเนินมาถึงช่วงปลายของการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ชัด นอกจากอาการอดหลับอดนอนของผู้คนรอบข้างแล้ว ยังมีเรื่องของการพนันขันต่อมาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก โดยปกติไม่ได้รู้สึกรังเกียจเรื่องราวเหล่านี้ เพราะทราบดีว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้คนรอบตัวที่จะมีการติดปลายนวมเพื่อความสนุกสนานในการชมฟุตบอลเพิ่มอรรถรสยิ่งขึ้น พูดง่ายๆ ต่อให้ไม่ได้อยากเชียร์ ชิลี กับ ออสเตรเลีย แต่เมื่อมีอัตราต่อรอง และเงินรางวัลล่อใจ ถึงไม่เคยรู้จักมักจี่นักเตะทั้งสองทีมก็อยากจะนั่งดูเพื่อลุ้นกันว่าสุดท้ายแล้วกระเป๋าจะฟูหรือจะแบน
นอกจากการพนันที่มาพร้อมกับฟุตบอลโลก สิ่งที่ตามมาคือการปราบปรามของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ล่าสุดมีข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานยอดการจับกุมการลักลอบเล่นการพนันฟุตบอล ตั้งแต่วันที่ 12-17 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหา 417 ราย แบ่งเป็นผู้ต้องหา 420 คน เจ้ามือ 5 คน ผู้เล่น 398 คน คนเดินโพย 10 คน ผู้ชักชวนและจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ 1 คน ได้เงินสด 111,270 บาท มูลค่าเงินในโพย 633,844 บาท เงินในสมุดบัญชีเงินฝาก 423,668 บาท ดูจากจำนวนเงินขนาดนี้ ไม่ต้องให้เป็นผู้เชี่ยวชาญก็บอกได้ว่ามันดูเหมือนพวกรายย่อยปลาซิว ปลาสร้อย ยังไม่เจอขาใหญ่ตัวจริง
อีกสิ่งที่ตามมาคือการปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ทั้งหลาย ด้วยความร่วมมือของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที โดยมีรายงานว่าปิดไปแล้วกว่าร้อยเว็บไซต์ ทว่าทั้งหมดที่เข้าข่ายเชิญชวนนั้นมีกว่า 300 เว็บไซต์ (เท่าที่เจ้าหน้าที่ทราบนะครับ ไม่ทราบอีกไม่รู้เท่าไหร่) เรื่องยากของการปิดเว็บนี้มันอยู่ที่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ , มาเลเซีย รวมถึง กัมพูชา ล่าสุดทราบว่าปิดทางเชื่อต่อหรือเกตเวย์ไปแล้ว และหากว่ายังมีการลักลอบอีกก็ต้องหาทางปิดเซิร์ฟเวอร์แม่ข่าย อันนี้เรื่องใหญ่เพราะเว็บที่ใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันอาจโดนหางเลขไปด้วย เช่นเดียวกันนี้ยังทราบว่ายังมีการเตือนไปยังผู้เปิดบัญชีธนาคารให้ลูกค้าโอนเงินเข้าผ่านบัญชีออนไลน์นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และพร้อมจัดการในทันที
เห็นทำงานกันแข็งขันแบบนี้อย่าคิดว่าไม่มีพลาดนะครับ ทราบว่าวันก่อนหน่วยงานบางหน่วยที่ดูแลการกระทำความผิดทางเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีความผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการไปปิดเว็บไซต์ของสหพันธ์นักเทนนิสอาชีพชาย หรือ เอทีพี เนื่องจากไม่ทราบ หรือเข้าใจผิดก็ไม่รู้ ดันนึกว่าเป็นเว็บการพนัน งานนี้แฟนเทนนิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สื่อข่าวกีฬาต่างร้องกันระงมว่าเกิดเหตใดกัน เนื่องจากต้องตามข่าวทุกวัน อีกทั้งยังใกล้การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมรายการที่ 3 ของปี อย่าง "วิมเบิลดัน" ที่จะประลองฝีมือกันในสัปดาห์หน้าแล้ว สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ปลดล็อกเว็บไซต์ดังกล่าวไป
เท่าที่ทราบมีเว็บกีฬาในบ้านเราหลายแห่งก็โดนปิดไปบ้างแล้วเหมือนกัน เพราะมีอัตราต่อรองชี้นำไปสู่การเล่นพนันฟุตบอลโจ่งครึ่ม ได้ยินคนทำเว็บบางรายออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้ต้องการให้สังคมแปดเปื้อนด้วยการพนัน หากแต่ว่าทุกวันนี้ต่อให้ไม่มีเว็บเหล่านี้การพนันก็ไม่ได้หมดไป แค่เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการกาโพยหรืออะไรก็สุดแล้วแต่
นี่แหละครับผลร้ายของการพนัน ต่อให้ไม่เล่นเอง ไม่ใส่ใจ แต่ดึงมาเป็นผู้สนับสนุนมาเป็นกระเป๋าเงินในการพยุงตัวเอง สุดท้ายแล้วความฉิบหายก็มาเยือนเหมือนกัน ...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบสุดท้ายที่ประเทศบราซิล ดำเนินมาถึงช่วงปลายของการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ชัด นอกจากอาการอดหลับอดนอนของผู้คนรอบข้างแล้ว ยังมีเรื่องของการพนันขันต่อมาเกี่ยวข้องค่อนข้างมาก โดยปกติไม่ได้รู้สึกรังเกียจเรื่องราวเหล่านี้ เพราะทราบดีว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้คนรอบตัวที่จะมีการติดปลายนวมเพื่อความสนุกสนานในการชมฟุตบอลเพิ่มอรรถรสยิ่งขึ้น พูดง่ายๆ ต่อให้ไม่ได้อยากเชียร์ ชิลี กับ ออสเตรเลีย แต่เมื่อมีอัตราต่อรอง และเงินรางวัลล่อใจ ถึงไม่เคยรู้จักมักจี่นักเตะทั้งสองทีมก็อยากจะนั่งดูเพื่อลุ้นกันว่าสุดท้ายแล้วกระเป๋าจะฟูหรือจะแบน
นอกจากการพนันที่มาพร้อมกับฟุตบอลโลก สิ่งที่ตามมาคือการปราบปรามของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ล่าสุดมีข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานยอดการจับกุมการลักลอบเล่นการพนันฟุตบอล ตั้งแต่วันที่ 12-17 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการจับกุมผู้ต้องหา 417 ราย แบ่งเป็นผู้ต้องหา 420 คน เจ้ามือ 5 คน ผู้เล่น 398 คน คนเดินโพย 10 คน ผู้ชักชวนและจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ 1 คน ได้เงินสด 111,270 บาท มูลค่าเงินในโพย 633,844 บาท เงินในสมุดบัญชีเงินฝาก 423,668 บาท ดูจากจำนวนเงินขนาดนี้ ไม่ต้องให้เป็นผู้เชี่ยวชาญก็บอกได้ว่ามันดูเหมือนพวกรายย่อยปลาซิว ปลาสร้อย ยังไม่เจอขาใหญ่ตัวจริง
อีกสิ่งที่ตามมาคือการปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ทั้งหลาย ด้วยความร่วมมือของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที โดยมีรายงานว่าปิดไปแล้วกว่าร้อยเว็บไซต์ ทว่าทั้งหมดที่เข้าข่ายเชิญชวนนั้นมีกว่า 300 เว็บไซต์ (เท่าที่เจ้าหน้าที่ทราบนะครับ ไม่ทราบอีกไม่รู้เท่าไหร่) เรื่องยากของการปิดเว็บนี้มันอยู่ที่เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ , มาเลเซีย รวมถึง กัมพูชา ล่าสุดทราบว่าปิดทางเชื่อต่อหรือเกตเวย์ไปแล้ว และหากว่ายังมีการลักลอบอีกก็ต้องหาทางปิดเซิร์ฟเวอร์แม่ข่าย อันนี้เรื่องใหญ่เพราะเว็บที่ใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันอาจโดนหางเลขไปด้วย เช่นเดียวกันนี้ยังทราบว่ายังมีการเตือนไปยังผู้เปิดบัญชีธนาคารให้ลูกค้าโอนเงินเข้าผ่านบัญชีออนไลน์นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และพร้อมจัดการในทันที
เห็นทำงานกันแข็งขันแบบนี้อย่าคิดว่าไม่มีพลาดนะครับ ทราบว่าวันก่อนหน่วยงานบางหน่วยที่ดูแลการกระทำความผิดทางเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีความผิดพลาดครั้งใหญ่ด้วยการไปปิดเว็บไซต์ของสหพันธ์นักเทนนิสอาชีพชาย หรือ เอทีพี เนื่องจากไม่ทราบ หรือเข้าใจผิดก็ไม่รู้ ดันนึกว่าเป็นเว็บการพนัน งานนี้แฟนเทนนิส โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สื่อข่าวกีฬาต่างร้องกันระงมว่าเกิดเหตใดกัน เนื่องจากต้องตามข่าวทุกวัน อีกทั้งยังใกล้การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมรายการที่ 3 ของปี อย่าง "วิมเบิลดัน" ที่จะประลองฝีมือกันในสัปดาห์หน้าแล้ว สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ปลดล็อกเว็บไซต์ดังกล่าวไป
เท่าที่ทราบมีเว็บกีฬาในบ้านเราหลายแห่งก็โดนปิดไปบ้างแล้วเหมือนกัน เพราะมีอัตราต่อรองชี้นำไปสู่การเล่นพนันฟุตบอลโจ่งครึ่ม ได้ยินคนทำเว็บบางรายออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้ต้องการให้สังคมแปดเปื้อนด้วยการพนัน หากแต่ว่าทุกวันนี้ต่อให้ไม่มีเว็บเหล่านี้การพนันก็ไม่ได้หมดไป แค่เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการกาโพยหรืออะไรก็สุดแล้วแต่
นี่แหละครับผลร้ายของการพนัน ต่อให้ไม่เล่นเอง ไม่ใส่ใจ แต่ดึงมาเป็นผู้สนับสนุนมาเป็นกระเป๋าเงินในการพยุงตัวเอง สุดท้ายแล้วความฉิบหายก็มาเยือนเหมือนกัน ...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *