รรท.ผบ.ตร.ตั้งคกก.มอนิเตอร์ทุกสื่อ จับตาข้อมูลหมิ่นสถาบันฯ รวมทั้งกระทบความมั่นคง สั่งล่าผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูงซุกเขมร ด้านที่ปรึกษาไอซีที ยัน"โรส" ยังถือสัญชาติไทย ชงกต.ถอนพาสปอร์ต ประสานอังกฤษส่งตัวกลับดำเนินคดี สตช.ตั้ง “สมยศ” หัวหน้า พงส. คลี่คดีอาวุธปืนสงคราม-ระเบิด ด้าน"รองเอก" เข้มมาตรการปราบปราบพนันบอล สั่งปิดเว็บฯไปแล้ว 600 แห่ง งัดกม.ฟอกเงินเชือด หวังยึดบัญชีเจ้ามือ
วานนี้ (22 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. มีคำสั่ง ตร. ที่ 311 / 2554 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อสถาบันพระหากษัตริย์ ใจความว่า พบมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไม่เหมาะสม กระทบสถาบันฯและความมั่นคง จึงตั้งคณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อสถาบันพระหากษัตริย์ โดยมี ผบ.ตร.เป็นประธานกรรมการ รองผบ.ตร.หรือที่ปรึกษา(สบ10)งานความมั่นคง เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 รองผบ.ตร.หรือที่ปรึกษา(สบ1)งานกฎหมายและคดี เป็นรองประธาน คนที่ 2 มี ผบช.สันติบาล นครบาล สอบสวนกลาง สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานยุทธศาสตร์ตำวจ สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ ผบก.กองปราบปราม กองการต่างประเทศ สันติบาล กองกฎหมาย เป็นกรรมการ ฯลฯโดยมีอำนาจตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ที่เนื้อหาไม่เหมาะสม กระทบสถาบันฯ ในสื่อทุกแขนง ทั้งทางออนไลน์ สิ่งพิมพ์ สื่อมวลชน หรือการรับแจ้งผ่านช่องทางต่างๆ โดยให้มีอำนาจเสนอระงับการแพร่ตามกฎหมาย และกำหนดมาตรการป้องกัน ทั้งนี้ให้ดำเนินตามกฎหมายกับผู้ครอบครอง ให้บริการ แพร่ ส่งต่อ หรือเกี่ยวข้องใดๆอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ในกรณีที่มีหลักฐานชัด ว่ามีการกระทำผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้สั่งการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าผู้ต้องหาบางส่วนหนีไปกบดานที่เขมร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบในพื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่เกี่ยวข้องทางเขมร เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ที่ปรึกษากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีในฐานะที่ปรึกษาชุดทำงานเร่งรัดคดีสำคัญ กล่าวถึง ความคืบหน้าการติดตามดำเนินคดี นางสาวฉัตรวดี อมรภัทร หรือ "โรส" ที่ถูกออกหมายจับในคดีความผิดฐานหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า หลังศาลอนุมัติหมายจับแล้วขณะนี้อยู่ในขั้นตอนประสานให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าขณะนี้ น.ส.ฉัตรวดี ยังมีสถานะถือสัญชาติไทย และอยู่ระหว่างการขอเปลี่ยนไปถือสัญชาติอังกฤษ หากถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง ทางการอังกฤษจะต้องส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยแต่หากทางการอังกฤษอนุญาตให้เปลี่ยนสัญชาติก็จะเป็นขั้นตอนการประสานผ่านทางอัยการสูงสุดขอให้ทางประเทศอังกฤษส่งมอบตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้พล.ต.อ.วัชรพล ได้มีคำสั่งตร. ที่ 312/2557 เรื่องแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน กรณีจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม ระเบิด ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นมา ทั้งนี้หนังสือสั่งการระบุว่า นับแต่เดือนมีนาคม มีคดีเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว 10 คดีสำคัญ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงหลายพื้นที่ ยุ่งยากซับซ้อน เชื่อว่ามีการกระทำในรูปขบวนการ มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล ดำเนินการ หรือให้การสนับสนุน คดีอยู่ในความสนใจของประชาชนและหน่วยงานราชการ และยังกระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร เพื่อให้การสืบสวนสอบสวน ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ผบช.ภ.1 เป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนสอบสวน พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รองผบช.ก. เป็นรองฯ และ พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รองผบช.ภ.1 เป็นรองฯ
ด้านพล.ต.อ.สมยศ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ได้เชิญ ภ.1 มาหารือ วางแนวทางสืบสวนสอบสวนคดีแล้ว โดยจะเชิญตัวแทนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าร่วมทำคดีด้วย ที่ผ่านมาทุกคดีทำอยู่แล้ว ทั้งนี้สั่งการเดินหน้าทุกคดีอย่างรอบคอบรัดกุม เร่งรัด
ขณะที่พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. กล่าวถึงการเร่งรัดการปราบปรามจับกุมการพนันทายผลฟุตบอลว่า พล.ต.อ.วัชรพล ได้เน้นย้ำการทำงานที่จะป้องกันระงับยับยั้งไม่ให้มีการเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งในช่วง7วันที่ผ่านมา หลายหน่วยได้รายงานความคืบหน้า เช่น การเข้าไปประชาสัมพันธ์กับกลุ่มเสี่ยง คือเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาต่างๆ ตลอดจนการปิดเว็บไซด์ที่เป็นช่องทางในการสื่อสารของการเล่นการพนันทายผลฟุตบอล 600 กว่าเว็บไซด์
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เชิญ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ซึ่งได้รับข้อเสนอแนะในการดำเนินการ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าผู้ใดเปิดเว็บไซด์ต่างๆขึ้น ซึ่งจะนำรายชื่อมาขึ้นบัญชีวอทลิสเพื่อดำเนินการ เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนสำหรับการปราบปรามการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ถึงแม้ว่าจะเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้ว แต่ก็ยังมีการถ่ายถอดสดฟุตบอลตามประเทศต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการปราบปรามอย่าสม่ำเสมอ ไม่ใช่ในช่วงเทศกาลการแข่งขันฟุตบอลเท่านั้น หากปล่อยให้มีการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ก็จะมีการพัฒนารูปแบบ และแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะระดมกำลังปราบปรามในช่วงเทศกาลอย่างเดียวคงเป็นไปได้ยาก
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า สำหรับมาตราการในการป้องกัน ซึ่งได้รับคำแนะนำจากท่านเลขาธิการปปง. ถึงการตรวจสอบบัญชี(ม้า) คือบัญชีไว้ เพื่อให้ผู้เล่นการพนันสามารถชำระค่าเล่นการพนันทายผลฟุตบอลตามบัญชีต่างๆ ซึ่งจะมีการประสานไปยังสำนักงานปปง. หากมีการเคลื่อนไหวของยอดในบัญชีที่ผิดปกติ ก็จะมีการสืบสวนสอบสวนกับเจ้าของบัญชีเหล่านั้น ทางธนาคารจะต้องให้ความร่วมมือ หากไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นการกระทำความผิดในส่วนของการแจ้งรายละเอียดสำหรับลูกค้าหรือบัญชีธนาคารตามกฎหมายการฟอกเงิน สำหรับกรณีที่ตรวจพบและยืนยันได้ว่า มีบัญชีที่รับจ่าย เรื่องการพนัน ทางเจ้าหน้าที่สามารถที่จะตรวจยึดและอายัติได้
พล.ต.อ.เอก กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับการพนันข้ามประเทศได้ และพบว่าเจ้ามือระเทศเกลาหลีมาตั้งฐานรับแทงพนันฟุตบอล คือรับแทงเฉพาะในเกาหลี และรับผ่านส่งต่อไปยังเจ้ามือรายใหญ่ที่สิงคโปร์ ตรงนี้เป็นรายล่าสุดที่ตำรวจบก.น.4 ในท้องที่สน.หัวหมาก ได้ดำเนินการจับกุม
ทั้งนี้รายชื่อ หรือข้อมูลเจ้ามือพนันฟุตบอล จากกลุ่มเสี่ยงที่คาดว่าจะมารับทายปลพนันฟุตบอล คาดว่าได้แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตาม หากระงับการกระทำผิดได้ สมควรหยุด ไม่เช่นนั้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการปราบปรามทันที อาจจะมีอัตราโทษน้อย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กฎหมายฟอกเงิน เพื่ออายัติเงินในบัญชี และจะติดตามจับกุมบุคคลที่เป็นเจ้ามือรับทายผลพนันฟุตบอลอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตามการจับกุมผู้เล่นหรือเจ้ามือรับทายผลการพนันฟุตบอล จะต้องไปเสียค่าปรับที่ศาล และจะถูกขึ้นชื่อในบัญชีวอทลิสและจะอยู่ในศูนย์สืบสวนทุกจังหวัด จึงอยากจะร้องร้องพี่น้องประชาชนที่พบเห็นเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวข้องกับการพนันฟุตบอล สามารถโทมาแจ้งที่ 1599. ตลอด 24 ชั่วโมง
**ทิ้งกระสุนปืน147นัดหน้าวัดพิษณุโลก
วานนี้ (22 มิ.ย.) ร.ต.ต.ศิริพต ชุ่มเชย รอง สว.ป.สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พระวัดสะเดา หมู่ 1 ต.หนองพระ อ.วังทอง พบกระป๋องสังกะสีด้านในบรรจุกระสุนปืนไม่ทราบชนิดซุกซ่อนอยู่ในป่าหญ้าหน้าวัด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารช่างที่ 3 กองพลพัฒนา 3 ค่ายบรมไตรโลกนารถ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบนถนนเส้นวังทอง-สากเหล็ก ระหว่างหลักกิโลเมตร 12-13 บริเวณป่าหญ้าหน้าวัดสะเดา เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบกระสุนแบบปืนเล็กยาวแบบ 11 HK 33 ขนาด 5.56 มม. 147 นัด สภาพพร้อมใช้งาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ครอบครองเกรงกลัวความผิดและหวั่นถูกดำเนินคดีตามประกาศของ คสช. จึงนำมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด
เบื้องต้น จากการสอบถามนายเกสร อ่อนสะเดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.หนองพระ อ.วังทอง บอกว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านเห็นคนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างทางบริเวณหน้าวัด แล้วโยนสิ่งของบางอย่างทิ้งไว้ในป่าหญ้า แล้วรีบขี่รถหนีไปอย่างรวดเร็ว จนเมื่อช่วงเช้าพระลูกวัดกำลังออกมาตัดหญ้า จึงมาพบกระสุนดังกล่าว
**ทหารบุกตรวจยึดอาวุธปืนที่ศรีสะเกษ
ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรนารี ได้สนธิกำลังตำรวจ สภ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ศรีสำราญ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ยึดของกลางอาวุธปืนยาวและปืนสั้นได้ 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก หลังจากสืบทราบว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวสะสมอาวุธปืนหลายชนิดไว้ในครอบครอง จากการสอบสวนนายศิลปชัย คมขำ เจ้าของบ้านอ้างว่า ปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดเป็นของบุตรชาย ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการทหาร กรมทหารสื่อสาร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางไว้ตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางการเมืองก่อนหน้านี้หรือไม่ พร้อมแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
**พบหัวระเบิดเอ็ม120ฝังบนถนนลูกรัง
เวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบวัตถุคล้ายระเบิดฝั่งอยู่ถนนลูกรังทางเข้าบ้านหินดาด หมู่ 1 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ หน่วยเก็บกู้ระเบิด กก.ตชด.13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พบเป็นวัตถุระเบิดเอ็ม 120 ชนิดส่องสว่าง เจ้าหน้าที่อีโอดีจาก กก.ตชด.13 จึงเก็บกู้ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภายเพื่อรอการทำลายต่อไป
พ.ต.อ.บัณฑิต เชื่อว่า หัวระเบิดดังกล่าวไม่ใช่เป็นการนำมาทิ้ง เนื่องจากจุดที่พบเป็นถนนลูกรังและหัวระเบิดฝังอยู่อย่างแน่นหนา คาดว่าขณะทำการบรรทุกดินลูกรังที่นำมาจากที่อื่นมาทำถนนทางเข้าหมู่บ้านรถตักดินลูกรังอาจจะขุดขึ้นมาโดยที่คนขับรถไม่รู้ตัว จากนั้นได้นำดินลูกรังมาเทลงเพื่อทำถนน แต่เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวได้ทำมานานแล้วจึงทำให้หัวระเบิดโผล่ขึ้นมาเหนือผิวถนน จนชาวบ้านมาพบเข้าแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ.
วานนี้ (22 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. มีคำสั่ง ตร. ที่ 311 / 2554 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อสถาบันพระหากษัตริย์ ใจความว่า พบมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไม่เหมาะสม กระทบสถาบันฯและความมั่นคง จึงตั้งคณะกรรมการบริหารข้อมูลข่าวสารที่มีลักษณะไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อสถาบันพระหากษัตริย์ โดยมี ผบ.ตร.เป็นประธานกรรมการ รองผบ.ตร.หรือที่ปรึกษา(สบ10)งานความมั่นคง เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 รองผบ.ตร.หรือที่ปรึกษา(สบ1)งานกฎหมายและคดี เป็นรองประธาน คนที่ 2 มี ผบช.สันติบาล นครบาล สอบสวนกลาง สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานยุทธศาสตร์ตำวจ สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ ผบก.กองปราบปราม กองการต่างประเทศ สันติบาล กองกฎหมาย เป็นกรรมการ ฯลฯโดยมีอำนาจตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ที่เนื้อหาไม่เหมาะสม กระทบสถาบันฯ ในสื่อทุกแขนง ทั้งทางออนไลน์ สิ่งพิมพ์ สื่อมวลชน หรือการรับแจ้งผ่านช่องทางต่างๆ โดยให้มีอำนาจเสนอระงับการแพร่ตามกฎหมาย และกำหนดมาตรการป้องกัน ทั้งนี้ให้ดำเนินตามกฎหมายกับผู้ครอบครอง ให้บริการ แพร่ ส่งต่อ หรือเกี่ยวข้องใดๆอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ในกรณีที่มีหลักฐานชัด ว่ามีการกระทำผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้สั่งการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าผู้ต้องหาบางส่วนหนีไปกบดานที่เขมร จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องรับผิดชอบในพื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่เกี่ยวข้องทางเขมร เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ด้านพล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ที่ปรึกษากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีทีในฐานะที่ปรึกษาชุดทำงานเร่งรัดคดีสำคัญ กล่าวถึง ความคืบหน้าการติดตามดำเนินคดี นางสาวฉัตรวดี อมรภัทร หรือ "โรส" ที่ถูกออกหมายจับในคดีความผิดฐานหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า หลังศาลอนุมัติหมายจับแล้วขณะนี้อยู่ในขั้นตอนประสานให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่าขณะนี้ น.ส.ฉัตรวดี ยังมีสถานะถือสัญชาติไทย และอยู่ระหว่างการขอเปลี่ยนไปถือสัญชาติอังกฤษ หากถูกเพิกถอนหนังสือเดินทาง ทางการอังกฤษจะต้องส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยแต่หากทางการอังกฤษอนุญาตให้เปลี่ยนสัญชาติก็จะเป็นขั้นตอนการประสานผ่านทางอัยการสูงสุดขอให้ทางประเทศอังกฤษส่งมอบตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้พล.ต.อ.วัชรพล ได้มีคำสั่งตร. ที่ 312/2557 เรื่องแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน กรณีจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธสงคราม ระเบิด ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 เป็นต้นมา ทั้งนี้หนังสือสั่งการระบุว่า นับแต่เดือนมีนาคม มีคดีเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว 10 คดีสำคัญ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงหลายพื้นที่ ยุ่งยากซับซ้อน เชื่อว่ามีการกระทำในรูปขบวนการ มีกลุ่มผู้มีอิทธิพล ดำเนินการ หรือให้การสนับสนุน คดีอยู่ในความสนใจของประชาชนและหน่วยงานราชการ และยังกระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร เพื่อให้การสืบสวนสอบสวน ต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ผบช.ภ.1 เป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวนสอบสวน พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา รองผบช.ก. เป็นรองฯ และ พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ รองผบช.ภ.1 เป็นรองฯ
ด้านพล.ต.อ.สมยศ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ได้เชิญ ภ.1 มาหารือ วางแนวทางสืบสวนสอบสวนคดีแล้ว โดยจะเชิญตัวแทนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลเข้าร่วมทำคดีด้วย ที่ผ่านมาทุกคดีทำอยู่แล้ว ทั้งนี้สั่งการเดินหน้าทุกคดีอย่างรอบคอบรัดกุม เร่งรัด
ขณะที่พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. กล่าวถึงการเร่งรัดการปราบปรามจับกุมการพนันทายผลฟุตบอลว่า พล.ต.อ.วัชรพล ได้เน้นย้ำการทำงานที่จะป้องกันระงับยับยั้งไม่ให้มีการเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ซึ่งในช่วง7วันที่ผ่านมา หลายหน่วยได้รายงานความคืบหน้า เช่น การเข้าไปประชาสัมพันธ์กับกลุ่มเสี่ยง คือเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาต่างๆ ตลอดจนการปิดเว็บไซด์ที่เป็นช่องทางในการสื่อสารของการเล่นการพนันทายผลฟุตบอล 600 กว่าเว็บไซด์
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เชิญ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ซึ่งได้รับข้อเสนอแนะในการดำเนินการ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าผู้ใดเปิดเว็บไซด์ต่างๆขึ้น ซึ่งจะนำรายชื่อมาขึ้นบัญชีวอทลิสเพื่อดำเนินการ เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนสำหรับการปราบปรามการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ถึงแม้ว่าจะเสร็จสิ้นการแข่งขันแล้ว แต่ก็ยังมีการถ่ายถอดสดฟุตบอลตามประเทศต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการปราบปรามอย่าสม่ำเสมอ ไม่ใช่ในช่วงเทศกาลการแข่งขันฟุตบอลเท่านั้น หากปล่อยให้มีการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอล ก็จะมีการพัฒนารูปแบบ และแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะระดมกำลังปราบปรามในช่วงเทศกาลอย่างเดียวคงเป็นไปได้ยาก
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า สำหรับมาตราการในการป้องกัน ซึ่งได้รับคำแนะนำจากท่านเลขาธิการปปง. ถึงการตรวจสอบบัญชี(ม้า) คือบัญชีไว้ เพื่อให้ผู้เล่นการพนันสามารถชำระค่าเล่นการพนันทายผลฟุตบอลตามบัญชีต่างๆ ซึ่งจะมีการประสานไปยังสำนักงานปปง. หากมีการเคลื่อนไหวของยอดในบัญชีที่ผิดปกติ ก็จะมีการสืบสวนสอบสวนกับเจ้าของบัญชีเหล่านั้น ทางธนาคารจะต้องให้ความร่วมมือ หากไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นการกระทำความผิดในส่วนของการแจ้งรายละเอียดสำหรับลูกค้าหรือบัญชีธนาคารตามกฎหมายการฟอกเงิน สำหรับกรณีที่ตรวจพบและยืนยันได้ว่า มีบัญชีที่รับจ่าย เรื่องการพนัน ทางเจ้าหน้าที่สามารถที่จะตรวจยึดและอายัติได้
พล.ต.อ.เอก กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับการพนันข้ามประเทศได้ และพบว่าเจ้ามือระเทศเกลาหลีมาตั้งฐานรับแทงพนันฟุตบอล คือรับแทงเฉพาะในเกาหลี และรับผ่านส่งต่อไปยังเจ้ามือรายใหญ่ที่สิงคโปร์ ตรงนี้เป็นรายล่าสุดที่ตำรวจบก.น.4 ในท้องที่สน.หัวหมาก ได้ดำเนินการจับกุม
ทั้งนี้รายชื่อ หรือข้อมูลเจ้ามือพนันฟุตบอล จากกลุ่มเสี่ยงที่คาดว่าจะมารับทายปลพนันฟุตบอล คาดว่าได้แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตาม หากระงับการกระทำผิดได้ สมควรหยุด ไม่เช่นนั้น เจ้าหน้าที่จะดำเนินการปราบปรามทันที อาจจะมีอัตราโทษน้อย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กฎหมายฟอกเงิน เพื่ออายัติเงินในบัญชี และจะติดตามจับกุมบุคคลที่เป็นเจ้ามือรับทายผลพนันฟุตบอลอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตามการจับกุมผู้เล่นหรือเจ้ามือรับทายผลการพนันฟุตบอล จะต้องไปเสียค่าปรับที่ศาล และจะถูกขึ้นชื่อในบัญชีวอทลิสและจะอยู่ในศูนย์สืบสวนทุกจังหวัด จึงอยากจะร้องร้องพี่น้องประชาชนที่พบเห็นเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวข้องกับการพนันฟุตบอล สามารถโทมาแจ้งที่ 1599. ตลอด 24 ชั่วโมง
**ทิ้งกระสุนปืน147นัดหน้าวัดพิษณุโลก
วานนี้ (22 มิ.ย.) ร.ต.ต.ศิริพต ชุ่มเชย รอง สว.ป.สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พระวัดสะเดา หมู่ 1 ต.หนองพระ อ.วังทอง พบกระป๋องสังกะสีด้านในบรรจุกระสุนปืนไม่ทราบชนิดซุกซ่อนอยู่ในป่าหญ้าหน้าวัด หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ทหาร กรมทหารช่างที่ 3 กองพลพัฒนา 3 ค่ายบรมไตรโลกนารถ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบนถนนเส้นวังทอง-สากเหล็ก ระหว่างหลักกิโลเมตร 12-13 บริเวณป่าหญ้าหน้าวัดสะเดา เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบพบกระสุนแบบปืนเล็กยาวแบบ 11 HK 33 ขนาด 5.56 มม. 147 นัด สภาพพร้อมใช้งาน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ครอบครองเกรงกลัวความผิดและหวั่นถูกดำเนินคดีตามประกาศของ คสช. จึงนำมาทิ้งไว้บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด
เบื้องต้น จากการสอบถามนายเกสร อ่อนสะเดา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.หนองพระ อ.วังทอง บอกว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านเห็นคนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างทางบริเวณหน้าวัด แล้วโยนสิ่งของบางอย่างทิ้งไว้ในป่าหญ้า แล้วรีบขี่รถหนีไปอย่างรวดเร็ว จนเมื่อช่วงเช้าพระลูกวัดกำลังออกมาตัดหญ้า จึงมาพบกระสุนดังกล่าว
**ทหารบุกตรวจยึดอาวุธปืนที่ศรีสะเกษ
ส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรนารี ได้สนธิกำลังตำรวจ สภ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ศรีสำราญ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ ยึดของกลางอาวุธปืนยาวและปืนสั้นได้ 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนมาก หลังจากสืบทราบว่าเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวสะสมอาวุธปืนหลายชนิดไว้ในครอบครอง จากการสอบสวนนายศิลปชัย คมขำ เจ้าของบ้านอ้างว่า ปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดเป็นของบุตรชาย ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการทหาร กรมทหารสื่อสาร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางไว้ตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงทางการเมืองก่อนหน้านี้หรือไม่ พร้อมแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
**พบหัวระเบิดเอ็ม120ฝังบนถนนลูกรัง
เวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบวัตถุคล้ายระเบิดฝั่งอยู่ถนนลูกรังทางเข้าบ้านหินดาด หมู่ 1 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ หน่วยเก็บกู้ระเบิด กก.ตชด.13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี พบเป็นวัตถุระเบิดเอ็ม 120 ชนิดส่องสว่าง เจ้าหน้าที่อีโอดีจาก กก.ตชด.13 จึงเก็บกู้ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภายเพื่อรอการทำลายต่อไป
พ.ต.อ.บัณฑิต เชื่อว่า หัวระเบิดดังกล่าวไม่ใช่เป็นการนำมาทิ้ง เนื่องจากจุดที่พบเป็นถนนลูกรังและหัวระเบิดฝังอยู่อย่างแน่นหนา คาดว่าขณะทำการบรรทุกดินลูกรังที่นำมาจากที่อื่นมาทำถนนทางเข้าหมู่บ้านรถตักดินลูกรังอาจจะขุดขึ้นมาโดยที่คนขับรถไม่รู้ตัว จากนั้นได้นำดินลูกรังมาเทลงเพื่อทำถนน แต่เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวได้ทำมานานแล้วจึงทำให้หัวระเบิดโผล่ขึ้นมาเหนือผิวถนน จนชาวบ้านมาพบเข้าแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ.