อุดรธานี-เปิดชื่อ 6 ผู้ต้องหาร่วมกันพยายามฆ่า "ขวัญชัย ไพรพนา" เผยเป็นทหาร 4 พลเรือน 2 "อดุลย์"เข้าพบ ผบ.ทบ. หารือการทำคดี หลังมีทหารเอี่ยว ด้าน ผบ.พล.ร.9 รับเป็นทหารในหน่วยจริง ยังอยู่ ไม่ได้หนี พร้อมส่งตัวดำเนินคดี วงในเผยมีนายทหารยศ "พันโท" อยู่เบื้องหลังทีมยิง
จากกรณีที่ศาลจังหวัดอุดรธานีได้ออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาร่วมกันพยายามฆ่านายขวัญชัย สาราคำ หรือ "ขวัญชัย ไพรพนา" ประธานชมรมคนรักอุดร และแกนนำ นปช.ภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หน้าบ้านพัก เมื่อเช้าวันที่ 22 ม.ค.2557 และก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย คือ นายมะดือนัง มะแซ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 ก.พ.) ตำรวจอุดรธานี ได้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน ที่ศาลจังหวัดอุดรธานีออกหมายจับแล้ว ประกอบด้วย 1.ร.ต.ปรัชญา จันทร์รอดภัย สังกัด ม.พัน 19 ค่ายสุรสีห์ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี 2.จ.ส.อ.มาวิน ยางบัว สังกัด ม.พัน 19 ค่ายสุรสีห์ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี, 3.จ.ส.ท.วิโรจน์ พิมพ์สิงห์ สังกัด ม.พัน 19 ค่ายสุรสีห์ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี, 4.ส.อ.ชานนท์ ทับทิมทอง สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 9 พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี, 5.นายบรรจง จันทราทอง และ 6.ชายไม่ทราบชื่อ
โดยทั้งหมดถูกออกหมายจับความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ เข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันใช้อาวุธปืน
ขณะที่ทางกองทัพบก และหน่วยต้นสังกัด กำลังตามตัวเพื่อส่งตัวไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีนายทหารพระธรรมนูญร่วมด้วยทุกขั้นตอน คาดว่าไม่ได้ขึ้นศาลทหาร แต่จะต้องขึ้นศาลพลเรือน เพราะร่วมกระทำการกับพลเรือน และยังต้องให้ความเป็นธรรมจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ส่วนนายมะดือนัง มะแซ ผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้ขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบสวนดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดระานี โดยพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยอ้างเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัยของพยานและการหลบหนี
พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวน กล่าวว่า ทางตำรวจได้ออกภาพสเก็ตซ์คนร้ายที่เป็นพลเรือน 2 คนแล้ว และได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าคนร้ายจะหลบซ่อนตัวทั้งในภาคอีสานและภาคใต้ ส่วนอีก 4 คนที่เป็นทหารนั้น ทางตำรวจได้ประสานไปยังกองทัพให้เข้ามอบตัวแล้ว
สำหรับรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ ทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว แต่ยังให้ข้อมูลมากไม่ได้ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี ส่วนอาวุธปืนยังไม่พบเพิ่มเติม คาดว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ภาคีสาน
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวถึงประเด็นก่อเหตุว่า ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ ต้องรอให้จับผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวน จึงจะสามารถสรุปประเด็นได้ และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องส่วนตัวและการเมือง เพราะการสืบสวนสามารถเชื่อมโยงได้หมด โดยคดียิงนายขวัญชัย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ความสนใจและกำชับให้ติดตามตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด
วันเดียวกัน ช่วงเวลา 12.00 น. น.ส.ซัลมา บือราเฮง อายุ 35 ปีบ้านเลขที่ 78 ม.6 ต.สาวอ อ.ลือเซาะ จ.นราธิวาส พร้อมทนายความได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายมะดือนัง มะแซ ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาพยามยามฆ่านายขวัญชัย ที่ถูกฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางอุดรธานี จากนั้นเวลา 14.30 น.ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ประยงค์ จอมสมสา สารวัตรเวร สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อขอแจ้งความไว้เป็นหลักฐานตามเลขที่ประจำวันลงวันที่ 10 ก.พ.2557 ว่า ตนเป็นภรรยาของนายมะดือนัง ผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี
โดย น.ส.ซัลมา ได้ลงบันทึกประจำวันร้องทุกข์ว่า ในการจับกุมนายมะดือนังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีหมายจับ และไม่ได้มีการแสดงหมายจับตัวผู้ต้องหา โดยนายมะดือนัง ผู้ต้องหาที่เป็นสามี ถูกทำร้ายร่างกายในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุม นอกจากนี้ คำให้การของผู้ต้องหาไม่ได้มีความสมัครใจในการให้ปากคำ แต่ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทันที
เช้าวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อมทีมพนักงานสอบสวนได้เดินทางเข้าพบเพื่อหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดอุดรธานีได้อนุมัติหมายจับทีมมือปืนยิงนายขวัญชัย โดยเป็นกำลังพลของกองทัพบกสังกัด พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี โดย พล.ต.อ.อดุลย์ ได้นำเอกสารและสำนวนของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีดังกล่าวมาชี้แจงให้กับ ผบ.ทบ.รับทราบ และยืนยันว่าจะดำเนินคดีดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาและให้มีความโปร่งใสมากที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าจากการสอบสวนด้วยพยานหลักฐานของตำรวจพบว่า มีนายทหารยศ "พ.ท." สังกัด พล.ร.9 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีลอบยิงนายขวัญชัย ซึ่งขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาพยายามโทรศัพท์ติดต่อ พ.ท.คนดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากปิดโทรศัพท์มือถือ
ด้าน พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 กล่าวว่า ทางหน่วยยังไม่ได้รับหนังสือจากตำรวจเพื่อขอตัวทหารไปรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด แต่ถ้ามีหนังสือขอตัวมาทางหน่วยต้นสังกัดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการ โดยทางหน่วยจะส่งนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมด้วย โดยคาดว่า หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงมายัง พล.ร.9 แต่น่าจะส่งมายังส่วนกลาง คือ กองทัพบก
ส่วนรายชื่อทหารที่ศาลอนุมัติหมายจับนั้น จากการตรวจสอบรายชื่อ พบว่า ทหารทั้งหมดมีชื่ออยู่ในสังกัด พล.ร.9 จริง แต่ทหารดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับคดีอย่างไรหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่ยืนยันว่าทางหน่วยต้นสังกัดไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือการเมืองท้องถิ่น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยทหารที่มีชื่อดังกล่าว ยังคงเดินทางมาทำงานตามปกติ ซึ่งตนก็ได้มีการพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอะไร เพราะขณะนี้ทหารทั้งหมดถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ โดยจะต้องรอกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
จากกรณีที่ศาลจังหวัดอุดรธานีได้ออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาร่วมกันพยายามฆ่านายขวัญชัย สาราคำ หรือ "ขวัญชัย ไพรพนา" ประธานชมรมคนรักอุดร และแกนนำ นปช.ภาคอีสาน 20 จังหวัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หน้าบ้านพัก เมื่อเช้าวันที่ 22 ม.ค.2557 และก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 ราย คือ นายมะดือนัง มะแซ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 ก.พ.) ตำรวจอุดรธานี ได้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน ที่ศาลจังหวัดอุดรธานีออกหมายจับแล้ว ประกอบด้วย 1.ร.ต.ปรัชญา จันทร์รอดภัย สังกัด ม.พัน 19 ค่ายสุรสีห์ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี 2.จ.ส.อ.มาวิน ยางบัว สังกัด ม.พัน 19 ค่ายสุรสีห์ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี, 3.จ.ส.ท.วิโรจน์ พิมพ์สิงห์ สังกัด ม.พัน 19 ค่ายสุรสีห์ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี, 4.ส.อ.ชานนท์ ทับทิมทอง สังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 9 พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี, 5.นายบรรจง จันทราทอง และ 6.ชายไม่ทราบชื่อ
โดยทั้งหมดถูกออกหมายจับความผิดฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ เข้าไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันใช้อาวุธปืน
ขณะที่ทางกองทัพบก และหน่วยต้นสังกัด กำลังตามตัวเพื่อส่งตัวไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีนายทหารพระธรรมนูญร่วมด้วยทุกขั้นตอน คาดว่าไม่ได้ขึ้นศาลทหาร แต่จะต้องขึ้นศาลพลเรือน เพราะร่วมกระทำการกับพลเรือน และยังต้องให้ความเป็นธรรมจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ส่วนนายมะดือนัง มะแซ ผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้ขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบสวนดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดระานี โดยพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยอ้างเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัยของพยานและการหลบหนี
พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวน กล่าวว่า ทางตำรวจได้ออกภาพสเก็ตซ์คนร้ายที่เป็นพลเรือน 2 คนแล้ว และได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าคนร้ายจะหลบซ่อนตัวทั้งในภาคอีสานและภาคใต้ ส่วนอีก 4 คนที่เป็นทหารนั้น ทางตำรวจได้ประสานไปยังกองทัพให้เข้ามอบตัวแล้ว
สำหรับรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ ทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว แต่ยังให้ข้อมูลมากไม่ได้ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี ส่วนอาวุธปืนยังไม่พบเพิ่มเติม คาดว่าไม่ได้อยู่ในพื้นที่ภาคีสาน
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวถึงประเด็นก่อเหตุว่า ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ ต้องรอให้จับผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวน จึงจะสามารถสรุปประเด็นได้ และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องส่วนตัวและการเมือง เพราะการสืบสวนสามารถเชื่อมโยงได้หมด โดยคดียิงนายขวัญชัย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ความสนใจและกำชับให้ติดตามตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด
วันเดียวกัน ช่วงเวลา 12.00 น. น.ส.ซัลมา บือราเฮง อายุ 35 ปีบ้านเลขที่ 78 ม.6 ต.สาวอ อ.ลือเซาะ จ.นราธิวาส พร้อมทนายความได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายมะดือนัง มะแซ ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาพยามยามฆ่านายขวัญชัย ที่ถูกฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางอุดรธานี จากนั้นเวลา 14.30 น.ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ประยงค์ จอมสมสา สารวัตรเวร สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อขอแจ้งความไว้เป็นหลักฐานตามเลขที่ประจำวันลงวันที่ 10 ก.พ.2557 ว่า ตนเป็นภรรยาของนายมะดือนัง ผู้ต้องหาที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี
โดย น.ส.ซัลมา ได้ลงบันทึกประจำวันร้องทุกข์ว่า ในการจับกุมนายมะดือนังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีหมายจับ และไม่ได้มีการแสดงหมายจับตัวผู้ต้องหา โดยนายมะดือนัง ผู้ต้องหาที่เป็นสามี ถูกทำร้ายร่างกายในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจับกุม นอกจากนี้ คำให้การของผู้ต้องหาไม่ได้มีความสมัครใจในการให้ปากคำ แต่ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทันที
เช้าวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อมทีมพนักงานสอบสวนได้เดินทางเข้าพบเพื่อหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดอุดรธานีได้อนุมัติหมายจับทีมมือปืนยิงนายขวัญชัย โดยเป็นกำลังพลของกองทัพบกสังกัด พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี โดย พล.ต.อ.อดุลย์ ได้นำเอกสารและสำนวนของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับคดีดังกล่าวมาชี้แจงให้กับ ผบ.ทบ.รับทราบ และยืนยันว่าจะดำเนินคดีดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาและให้มีความโปร่งใสมากที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าจากการสอบสวนด้วยพยานหลักฐานของตำรวจพบว่า มีนายทหารยศ "พ.ท." สังกัด พล.ร.9 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีลอบยิงนายขวัญชัย ซึ่งขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาพยายามโทรศัพท์ติดต่อ พ.ท.คนดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากปิดโทรศัพท์มือถือ
ด้าน พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง ผบ.พล.ร.9 กล่าวว่า ทางหน่วยยังไม่ได้รับหนังสือจากตำรวจเพื่อขอตัวทหารไปรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด แต่ถ้ามีหนังสือขอตัวมาทางหน่วยต้นสังกัดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการ โดยทางหน่วยจะส่งนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมด้วย โดยคาดว่า หนังสือดังกล่าวไม่ได้ส่งตรงมายัง พล.ร.9 แต่น่าจะส่งมายังส่วนกลาง คือ กองทัพบก
ส่วนรายชื่อทหารที่ศาลอนุมัติหมายจับนั้น จากการตรวจสอบรายชื่อ พบว่า ทหารทั้งหมดมีชื่ออยู่ในสังกัด พล.ร.9 จริง แต่ทหารดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับคดีอย่างไรหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แต่ยืนยันว่าทางหน่วยต้นสังกัดไม่ได้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ส่วนจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือการเมืองท้องถิ่น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยทหารที่มีชื่อดังกล่าว ยังคงเดินทางมาทำงานตามปกติ ซึ่งตนก็ได้มีการพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอะไร เพราะขณะนี้ทหารทั้งหมดถือว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ โดยจะต้องรอกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
